ผลการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ รมต.เป็นรายบุคคลรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นตำบลกระสุนตก รับทุกเรื่อง โควิด-19 บ่อนการพนัน การทุจริตคอร์รัปชัน การบริหารงานผิดพลาด รวมไปจนถึงเรื่องความไม่ชอบมาพากล ในกองทัพ ในฐานะที่ พล.อ.ประยุทธ์ สวมหมวก รมว.กลาโหมอีกใบคำตอบที่ได้รับจากท่านผู้นำ นอกจากเนื้อหาและเหตุผลบางส่วนแล้ว คือการ เปิดศึกวิวาทะ ระหว่างผู้อภิปรายกับนายกฯและองครักษ์ที่ทำหน้าที่ได้อย่างซื่อสัตย์ เมื่อรวมเวลาการอภิปรายในวันแรกกว่า 15 ชั่วโมง ใช้เวลาเกือบครึ่งในการประท้วง ส่อเสียดและเสียดสีกันไปมา สมแล้วที่เป็นสภาตลาดสดบางประเด็น เช่นเรื่องของ บ่อนพนัน ที่มีมากกว่าดอกเห็ด อันที่จริงเรื่องนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยไม่ต้องลุกขึ้นอภิปรายชาวบ้านก็รู้อยู่เต็มอก เพียงแต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พยายามฉายภาพให้เห็นว่า คนมีสี ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีความพัวพันกับบ่อนพนัน มีความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ในรัฐบาลอย่างไรแค่ไหนคนที่ลุกมาตอบคำถามก็เป็น พล.อ.ประยุทธ์ อีกนั่นแหละทั้งที่มีการพาดพิงถึง พี่น้องสาม ป. โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าไม่เคยรับเงินบ่อนเลยแม้แต่บาทเดียว เงินที่รับทุกวันนี้เป็นเงินที่ได้รับตามสิทธิการทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมเท่านั้นอย่างไรก็ตาม ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าชื่อบุคคลที่กล่าวอ้างสนิทกับท่านผู้นำจริงหรือไม่ เคยมาช่วยงานสมัยรัฐบาล คสช.หรือไม่ ปฏิเสธเพียงว่าไม่เคยรับเงินสกปรก น่ารังเกียจ ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองเรื่องของ วัคซีน ที่เป็นไฮไลต์ ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผล คงต้องรอคำตอบจากผลลัพธ์ที่จะตามมา เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด อยู่แล้วสำหรับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ กองทัพ ตามที่ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.ก้าวไกล ยกขึ้นมาเป็นประเด็นการอภิปราย เป็นพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากลในหน่วยงานของกลาโหม เช่น โครงการจัดซื้อชุดลำลองของทหารเกณฑ์ เครื่องมือช่าง รถบัสขนาดใหญ่ กล้องกลางคืน ที่พบว่ามีการจัดซื้อแพงกว่าราคาตลาดสูงถึง 1,000 ล้านบาท ราคาแพงกว่าราคาท้องตลาดถึงประมาณร้อยละ 47 หรือเกือบครึ่งของราคาที่จัดซื้อเข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ ถึงจะกำกับดูแลกระทรวงกลาโหม คงไม่สามารถจาระไนได้ทุกโครงการ แต่ก็ควรจะได้คำตอบงามๆจากรมว.กลาโหม ไม่ใช่คำตอบโต้ เป็นเพราะเกลียดทหาร หรือให้ระวังคำพูดเพราะมีคนรักทหารก็เยอะอะไรทำนองนี้ ฟังแล้วไม่ดีต่อระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่น่าประหลาดในศึกอภิปรายครั้งนี้คือ มีการหยิบยกเอาเรื่องการดำเนินคดีกับคนที่หลบหนีคดีขึ้นมาเป็นประเด็นการอภิปราย เช่น คดีบอส อยู่วิทยา เป็นการตีวัวกระทบคราดมาโดยตลอด มีการอ้างถึงชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ วิชา มหาคุณ ในฐานะประธานตรวจสอบคดี อ้างมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ที่จะว่าไปแล้ว มีคดีการเมืองหรือคดีอาญาที่เข้าข่ายแทรกแซงกระบวนการ ยุติธรรมเห็นกันจะจะกลับมองข้ามกันไปหมด เข้าใจว่าคงมีอะไรที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นวันนี้การเมืองอยู่ระหว่าง ขี่ม้ารอบค่าย ส่วนจะไปรีดไปตบทรัพย์ไปกดดันให้ปรับ ครม.กันอะไรอย่างไร วันหนึ่งสังคมจะได้เรียนรู้เอง เพราะความลับไม่มีในโลกอยู่แล้ว.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th