ผู้ป่วยโควิด-19 ไทยตายเพิ่มอีก 2 คน ใน “สมุทรสาคร-อุบลราชธานี” เป็นผู้สูงวัย-มีโรคประจำตัว ส่วนยอดติดเชื้อรายใหม่ยังเป็นเลขสามหลัก อยู่ที่ 143 คน โดยเคสตลาดใน จ.ปทุมธานี เจอเพิ่มอีกจากการตรวจเชิงรุก ขณะที่ ศบค.เล็งขยายเวลากักตัวคนที่เดินทางมาจากแอฟริกา จาก 14 วัน เป็น 21 วัน หลังพบชายไทยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้คนแรก พบติดง่ายขึ้น ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาแน่ “อนุทิน” ยันของซิโนแวคจากจีน ผลิตเสร็จปุ๊ป 2 แสนโดสแรก ส่งมาไทยทันที ด้าน อย.มั่นใจ ขึ้นทะเบียนทันก่อนใช้ไทยไม่ใช่แค่เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายในประเทศที่พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเท่านั้น แต่ยังมีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่พบเชื้อกลายพันธุ์มาอีก ทั้งสายพันธุ์อังกฤษและแอฟริกาใต้ ไทยติดเชื้อใหม่อีก 143 คนที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 11.30 น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 143 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 132 คน แบ่งเป็นมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 64 คน มาจากสมุทรสาคร 53 คน สมุทรสงคราม 1 คน นครปฐม 8 คน และชลบุรี 2 คน กับมาจากการค้นหาเชิงรุก 68 คน จำนวนนี้มาจากการค้นหาเชิงรุกที่ จ.ปทุมธานี 50 คน สมุทรสาคร 16 คน กทม. 1 คน และเพชรบุรี 1 คน ส่วนผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 11 คน มาจากสหราชอาณาจักร 5 คน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 คน อียิปต์ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ประเทศละ 1 คน ขณะที่ยอดผู้รักษาจนหายป่วยสะสม 22,883 คน อยู่ระหว่างรักษา 1,749 คนตายอีก 2 “อุบลฯ-สมุทรสาคร”ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 2 คน คนแรกเป็นชายไทย อายุ 62 ปี อาชีพค้าขายผักที่ จ.อุบลราชธานี มีโรคประจำตัวเบาหวาน ไต ความดันโลหิตสูง เริ่มมีอาการไอแห้งเมื่อวันที่ 5 ก.พ.จากนั้นวันที่ 8 ก.พ.ไอมากขึ้น มีเสมหะมากขึ้น หายใจเหนื่อยหอบ วันที่ 9 ก.พ.ปอดอักเสบรุนแรง ต่อมาไปโรงพยาบาลตรวจพบเชื้อโควิด-19 โดยช่วงระหว่างวันที่ 10-13 ก.พ.อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตวันที่ 14 ก.พ. อีกรายเป็นชายไทย ชาว จ.สมุทรสาคร อายุ 78 ปี เป็นพ่อบ้านที่ไม่ได้เดินทางไปไหน วันที่ 16-17 ม.ค. ลูกสาวที่เป็นผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้ามาเยี่ยมที่บ้าน รับประทานอาหารร่วมกัน ช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. มีอาการไอแห้ง เจ็บคอ วันที่ 22 ม.ค.ไอมากขึ้น ต่อมาไปโรงพยาบาลตรวจพบโควิด-19 ปอดอักเสบรุนแรง จากนั้นวันที่ 30 ม.ค. เหนื่อยหอบมากขึ้นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ติดเชื้อในกระแสเลือด วันที่ 7 ก.พ. อาการแย่ลง ไตวายเฉียบพลัน ความดันโลหิตลดลง หายใจผิดจังหวะ และเสียชีวิตวันที่ 13 ก.พ.ทำให้ไทยมีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตสะสม 82 คนเล็งกักตัวเพิ่มผู้มาจากแอฟริกาพญ.อภิสมัยกล่าวว่า กรณีชายไทย อายุ 41 ปี เดินทางกลับจากต่างประเทศติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา เป็นนักธุรกิจไปรับซื้อพลอยที่ประเทศแทนซาเนีย อยู่ที่ประเทศดังกล่าวเป็นเวลา 2 เดือน มีประวัติไปงานเลี้ยงโดยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย เดินทางจากแทนซาเนียเพื่อต่อเครื่องที่เอธิโอเปียก่อนถึงประเทศไทยวันที่ 29 ม.ค.เข้าอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ วันที่ 3 ก.พ.ตรวจพบเชื้อโควิด-19 จากนั้นวันที่ 4 ก.พ.ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ วันที่ 5 ก.พ.ทีมสอบสวนโรคส่งตัวอย่างเชื้อไประบุสายพันธุ์ เพราะมีรายงานเรื่องการพบสายพันธุ์ใหม่ในกลุ่มประเทศแอฟริกา โดยวันที่ 12 ก.พ.พบเป็นเชื้อสายพันธุ์แอฟริกัน ซึ่งเชื้อดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับสายพันธุ์อังกฤษ ดังนั้น อาจพิจารณากักตัวผู้ที่ เดินทางมาจากแอฟริกา เป็นเวลา 21 วัน เหมือนกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากอังกฤษ โดยยืนยันผู้ที่เดินทางมาตามช่องทางที่ถูกต้อง จะมีการตรวจสอบและคัดกรองเป็นอย่างดี3 กลุ่มยอดติดเชื้อเริ่มนิ่งพญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ขณะนี้อยู่ในช่วงการค้นหาเชิงรุกในโรงงานขนาดเล็ก ส่วนใน กทม.ยังติดตามใกล้ชิด กรณีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ใกล้เคียง 862 คน พบเชื้อ 20 คน ขณะที่ตลาดและชุมชนมีการตรวจเชื้อไปแล้ว 313 คน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนสถานการณ์ใน จ.ตาก หลังจากพบพยาบาลติดเชื้อจากชายที่ไปรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 30 ม.ค.จากการสอบสวนโรค พบว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในครอบครัวใหญ่ที่มีผู้ติดเชื้อในครอบครัวเกิน 10 ราย อีกทั้งชายคนนี้ยังเชื่อมโยงกับตลาดและสถานที่อื่นๆ ทำให้มีการค้นหาเชิงรุกในสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง และพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จึงทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ต่างร่วมมือกันทำงานอย่างหนัก จึงขอความร่วมมือประชาชนหากมีการติดเชื้อโปรดให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวัง ไทยเจอ 2 ใน 3 เชื้อกลายพันธุ์ด้าน นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวถึงการเฝ้าระวังผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงที่พบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ว่า สายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ที่ทั่วโลกแนะนำให้จับตามี 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ และสายพันธุ์บราซิล เราสามารถดักจับได้ 2 ชนิดในสถานที่กักตัวของรัฐ คือ สายพันธุ์อังกฤษและสายพันธุ์แอฟริกาใต้ โดยล่าสุดผู้ป่วยชาย อายุ 41 ปี รายแรกที่ติดเชื้อสายพันธุ์ แอฟริกาใต้ ขณะนี้มีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ การที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเพิ่มวันกักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐ จาก 14 วัน เป็น 21 วัน สำหรับผู้ป่วยที่พบเชื้อกลายพันธุ์ ที่เดินทางมาจากประเทศทางแอฟริกาใต้ น่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้ว่าผู้ป่วยไม่มีเชื้อจริงๆ โดยต้องทำควบคู่กันกับการสวอปเชื้อ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าสายพันธุ์ที่ระบาดในไทยส่วนใหญ่คือ สายพันธุ์จี ที่มาจากประเทศเมียนมา แต่การยับยั้งการแพร่เชื้อจากคนไปสู่คนได้จะทำให้ไม่เกิดสายพันธุ์ใหม่ ที่อาจจะเป็นสายพันธุ์ของไทยเอง ที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างออกไป ขณะนี้ศูนย์โรคอุบัติใหม่ฯมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่น่ากังวล โดยศูนย์โรคอุบัติใหม่ฯ ใช้เวลา 3 วัน ในการถอดรหัสพันธุกรรมสายพันธุ์แอฟริกาใต้ และกำลังปรับปรุงวิธีการตรวจให้ทราบผลภายใน 1 วัน จะได้เข้าไปสอบสวนป้องกันโรคได้อย่างรวดเร็ว24 ก.พ.นี้วัคซีนจีนมาแน่ (คลิกอ่านข่าว)พระราชทานรถฯช่วยตรวจเชิงรุกส่วนที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เมื่อช่วงบ่าย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.ปทุมธานี พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปล่อยขบวนรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 4 คัน เพื่อนำไปช่วยตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ในพื้นที่ตลาดพรพัฒน์ และตลาดสุชาติ โดยนายชัยวัฒน์ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น เพราะครั้งที่แล้วมีการพระราชทานรถให้มาตรวจ 2 คัน สถานการณ์ก็เรียบร้อย มาครั้งนี้พระราชทานถึง 4 คัน ไม่ใช่เฉพาะรถ แต่เป็นขวัญเป็นกำลังใจที่พระองค์ท่านพระราชทานมา หน่วยงานทุกหน่วยงานก็ได้มาสนองพระองค์ท่าน นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคณะ ทำงาน มี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ. ปทุมธานี เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ และ รพ.ธรรมศาสตร์ สนับสนุนและ รพ.สนาม 300 กว่าเตียง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกหลังจากนี้ต่อไปปทุมฯ ยอดพุ่ง-เพิ่มอีก 48 คนขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ระบุ ณ เวลา 15.00 น. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 48 คน เป็นคนไทย 29 คน แรงงานต่างด้าว 19 คน ขณะที่นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอธัญบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ตลาดพรพัฒน์และตลาดสุชาติ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 224 คน จากผู้เข้าตรวจ 2,122 คน แบ่งเป็นคนไทย 128 คน แรงงานคนต่างด้าว 96 คน นับว่าตรงนี้เป็นพื้นที่เสี่ยงมากในจังหวัดปทุมธานี ขณะที่อีกด้านหนึ่ง อนามัยตำบลคลองสาม รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 6 คน อาศัยอยู่หมู่บ้านเดอะไพรม์ 115 จำนวน 1 คน หมู่บ้านเดอะแพลนท์ จำนวน 2 คน หมู่บ้าน วรารักษ์ จำนวน 1 คน และหมู่บ้านไทยสมบูรณ์ 3 จำนวน 2 คน ทั้งหมดมีอาชีพค้าขาย พนักงานขายและเจ้าหน้าที่ของ รพ.ซึ่ง อบต.คลองสาม เข้าไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทุกพื้นที่แล้วคนขับรถเมล์สาย 34 ติดโควิดวันเดียวกัน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ออกประกาศตรวจพบพนักงานขับรถโดยสารธรรมดา สาย 34 เป็นชาย 1 คน พักอาศัยอยู่ในบริเวณตลาดสุชาติ จ.ปทุมธานี ติดเชื้อโควิด-19 โดยผู้ป่วยเข้าตรวจหาเชื้อเชิงรุก เมื่อวันที่ 11 ก.พ.โดยไม่มีอาการป่วย ต่อมาวันที่ 13 ก.พ. ไปปฏิบัติหน้าที่ขับรถโดยสารธรรมดา สาย 34 หมายเลข 1-40063 รถออกจากอู่รังสิต เวลา 13.45 น. ถึงหัวลำโพง เวลา 15.00 น. และกลับถึงอู่รังสิต เวลา 19.28 น. ปรากฏว่าเริ่มมีอาการไข้ ปวดหัว และปวดเมื่อยร่างกาย นายท่าจึงให้ไปพบแพทย์ที่คลินิกเรือนแพทย์ และกลับไปพักผ่อนที่บ้าน กระทั่งเช้าวันที่ 14 ก.พ. รพ.ลำลูกกา แจ้งผลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 34 หมายเลข 1-40063 ในช่วงกะบ่าย ซึ่งเป็นกะสุดท้ายของแต่ละวัน จึงไม่มีพนักงานขับรถคนใดนำรถไปขับต่อ เมื่อพนักงานขับรถนำรถกลับเข้าอู่ จะมีการฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารทันที ส่วนพนักงานเก็บค่าโดยสารที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วม ขณะนี้ให้หยุดงานไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาโควิด-19 แล้ว รวมถึงพักการใช้งาน รถโดยสารคันดังกล่าว 3 วัน เพื่อฉีดพ่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถ รวมถึงอู่จอดรถและท่าปล่อยรถโดยสาร เริ่มสร้าง รพ.สนามแห่งที่ 10ที่ จ.สมุทรสาคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่ายังคงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเลขสองหลัก โดย ณ เวลาเที่ยงคืนวันที่ 14 ก.พ. สำนักสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครแจ้งพบผู้ป่วยใหม่ 69 คน มาจากการค้นหาเชิงรุก 16 คนเป็นคนไทย 10 คน แรงงานต่างด้าว 6 คน ที่เหลือเป็นผู้ป่วยจากการตรวจในโรงพยาบาล 53 คน เป็นคนไทย 27 คน แรงงานต่างด้าว 26 คน จากนั้นตลอดช่วงเช้าบริเวณพื้นที่ติดถนนพระราม 2 จำนวน 49 ไร่ ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีพิธีบวงสรวงเพื่อเตรียมก่อสร้าง รพ.สนาม หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 ของสมุทรสาคร อันเป็นความร่วมมือกันระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร องค์การบริหารส่วนจังหวัดและภาคส่วนต่างๆระดมทุนจัดสร้างโรงพยาบาลสนาม ขนาด 200 เตียง มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เพื่อให้แรงงานไทย แรงงานต่างด้าว และประชาชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและใกล้เคียง ได้มีสถานที่กักตัวและรับการรักษา ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ โดยคาดว่าศูนย์ห่วงใยฯแห่งที่ 10 นี้จะเปิดใช้งานต้นเดือน มี.ค.นี้คาด 1 สัปดาห์ผู้ว่าฯปูออกไอซียูส่วนความคืบหน้าอาการนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร ที่ติดเชื้อโควิด-19 มาตั้งแต่ธันวาคมปีกลายนั้น นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. เป็นต้นมา ผู้ว่าฯหายใจเองโดยถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว เหลือเพียงการให้ออกซิเจนผ่านท่อที่เจาะคอ การทำงานของปอดยังทำได้ปกติ ระดับออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในกระแสเลือดอยู่ในเกณฑ์ดี ถือว่าระบบหายใจฟื้นตัวดี เอกซเรย์ปอดทางคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก และจะปรับท่อที่เจาะคอเพื่อให้ลมออกจากกล่องเสียงเพื่อให้พูดได้และให้หายใจเอง รวมถึงการให้อาหาร จากที่ให้ทางสายยางเต็มที่อาจจะค่อยๆปรับ ส่วนยาที่ให้ตอนนี้เริ่มถอยต่อเนื่อง รวมถึงยาลดการสร้างพังผืดหยุดให้แล้ว เพื่อให้ผู้ว่าฯตื่นและสื่อสารได้ รวมถึงฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นไปด้วยดี ขยับนิ้วได้ดี แขนขาค่อยๆเคลื่อนไหวดี มีการให้ลงยืนด้วยน้ำหนักตัวเองได้บ้าง ก่อนหน้านี้มีการใช้นิ้วกดสื่อ สารตัวอักษรผ่านไอแพด แต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ. สามารถเขียนลงบนกระดาษได้ ถือว่าอาการพ้นวิกฤติและเข้าสู่ระยะฟื้นตัวกล้ามเนื้อ คาด 1 สัปดาห์จากนี้จะย้ายออกจากไอซียูไปอยู่หอผู้ป่วยพิเศษได้ ส่วนจะกลับสมุทรสาครได้เมื่อไหร่คงต้องดูความพร้อม และหลังจากนี้คงจะนำข้อมูลการรักษามาถอดเป็นบทเรียนในกรณีอื่นๆต่อไป เพราะเคสผู้ว่าฯถือว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารักษาที่ รพ.ศิริราช โดยใส่เครื่องช่วยหายใจนานที่สุดกว่า 40 วัน จากที่ รพ.เคยรักษารอบแรกที่ใส่เครื่องช่วยหายใจสูงสุดอยู่ที่ 17 วัน อย่างไรก็ตาม ภริยาและบุตรสาวมาเยี่ยมเป็นระยะ หลายคนสอบถามอาการตลอด เมื่อทราบถึงอาการที่ดีขึ้นทุกคนก็ดีใจและรู้สึกมหัศจรรย์จากอาการช่วงแรกๆที่วิกฤติหนัก จับตาเชื้อแอฟริกาใต้ติดง่ายศ.นพ.ประสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้เชื้อกลายพันธุ์ในผู้ป่วยคนไทยในสถานกักกันของรัฐว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวอยู่ในการรักษาของ รพ.จุฬาลงกรณ์ ขณะนี้กำลังหารือกันว่าให้แต่ละรพ.เริ่มตรวจสายพันธุ์โควิดด้วย เพราะมีข้อสงสัยว่าเชื้อจากแอฟริกาใต้ที่กลายพันธุ์เป็นเชื้อ B1351 มีพฤติกรรมบางอย่างที่แตกต่างไปจากสายพันธุ์อื่นๆ ส่วนการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นทางการว่ามีการตอบสนองแตกต่างกันหรือไม่ เพียงแต่มีข้อสังเกตว่าเชื้อกลายพันธุ์ตัวนี้ติดได้ง่ายขึ้น และอาจจะรุนแรงมากขึ้นด้วย หลายฝ่ายกำลังติดตามข้อมูล เพราะเชื้อกำลังระบาดไปหลายประเทศโคราชคุมเข้มพื้นที่พบผู้ติดเชื้อขณะที่ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่าจากที่จังหวัดตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ 1 คน ที่บ้านหนองบัวแดง หมู่ที่ 14 ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง เป็นเด็กชาย อายุ 7 ขวบ ที่ติดเชื้อมาจาก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ทำให้อำเภอเสิงสางต้องนำตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่มีความใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไปตรวจหาเชื้อเป็นการเร่งด่วน แบ่งเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 14 คน และผู้มีความเสี่ยงต่ำอีก 34 คน แต่เบื้องต้นผลออกมาเป็นลบทั้งหมด แต่อำเภอเสิงสางสั่งปิดหมู่บ้านดังกล่าวแล้ว และให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง 14 คน กักตัวเองอยู่ภายในบ้านเป็นเวลา 14 วัน โดยทางอำเภอได้นำถุงยังชีพไปมอบให้คนกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องกักตนเองอยู่ภายในบ้าน พร้อมประสานไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลกุดโบสถ์ ให้นำข้าวกล่องไปส่งให้กับผู้กักตัวทุกวัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น