พร้อมถูกตรวจสอบเสมอนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทยและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกอย่างมั่นใจถึงการเตรียมรับมือถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากขุนพลของฝ่ายค้าน ระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ.64เพราะเป็นไปตามกลไกการถ่วงดุลอำนาจระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน แม้พรรคประชาธิปัตย์มีรัฐมนตรี 2 คน ประกอบด้วย ผมและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.พาณิชย์ถือเป็นโอกาสชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนผลงานเกือบ 2 ปี ทำประโยชน์ให้ประชาชนเยอะมากเมื่อคลี่ประเด็นดูข้อกล่าวหา เชื่อมั่นผ่านด่านไปได้แต่พรรคประชาธิปัตย์เผชิญทั้งศึกนอกและศึกใน ขอเริ่มจากศึกภายในที่เลือดไหลยังไม่หยุด พร้อมงัด “โมเดลสงขลา” มาสร้างความเป็นเอกภาพ ก่อนฟื้นฟูอุดมการณ์กอบกู้พรรค เพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่กลับคืนมา โดย นายนิพนธ์ บอกว่า ยังไม่เชื่อว่าเป็นคนสุดท้ายที่ออก ต้องเคารพการตัดสินใจของเพื่อนที่มีสาเหตุจากหลายปัจจัยตลอด 80 ปี พรรคผ่านความ “เจริญรุ่งเรืองและตกต่ำ”บริบทเหล่านี้เป็นด่านทดสอบ ควรถอดบทเรียนเพื่อกำหนดอนาคตตอนนี้มีวิธีการฟื้นฟูให้พรรคมั่นคงและเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เช่น เริ่มขยายฐานสมาชิกที่ทำให้พรรคยั่งยืนมาตลอด ขยายฐานให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก เดินหน้ายุวประชาธิปัตย์ แปลงอุดมการณ์เป็นนโยบาย อาทิ ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงเน้นการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมากที่สุด เพราะเป็นไปตามอุดมการณ์ข้อที่ 5ฉะนั้นขอสานต่ออุดมการณ์บนความทันสมัยเพื่อปรับทัพก่อนเลือกตั้งใหญ่ในส่วนศึกนอกเตรียมรับมือการอภิปราย โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผม เชื่อมั่นชี้แจงได้หมดทั้งโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรม เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อ.จะนะ จ.สงขลา เกิดขึ้นตามศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกำหนดพื้นที่เป็นเขตพัฒนาเฉพาะกิจขึ้นต้องยอมรับหลังเกิดเหตุการณ์ปล้นปืนค่ายปิเหล็ง จ.นราธิวาส จนถึงวันนี้มีประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ สูญเสียชีวิตกว่า 6 พันศพ ทุ่มงบประมาณแผ่นดินแก้ปัญหาในพื้นที่เกือบ 5 แสนล้านบาท เฉลี่ยปีละ 2 หมื่นล้านบาทเกือบ 20 ปีที่แก้ปัญหาพบความจริงว่า เมื่อแก้ปัญหาความมั่นคงได้ผลพอสมควร อีกปัญหาที่เรื้อรังยาวนานคือความยากจน ศอ.บต.ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายให้พัฒนาพื้นที่ จึงเริ่ม “โครงการสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” รัฐบาลชุดที่แล้วได้ขยายมาที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 อำเภออยู่ในพื้นที่มั่นคงหัวใจความสำเร็จอยู่ที่เอกชนมาร่วมลงทุนตามคำเชิญของ ศอ.บต. เพื่อสร้างงานให้คนในพื้นที่เป็นปกติธรรมดาที่มีมวลชนบางส่วนคัดค้าน ล้มโครงการต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น อาทิ โครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซียและการแยกก๊าซฯ ห่วงกระทบต่อสิ่งแวดล้อม น้ำในทะเลมันร้อน ปลาตาย นกเขาชวาไม่ขัน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของพี่น้องไทยมุสลิมที่นิยมเลี้ยง ชาวบ้านก็วิตกกังวลมาร่วมคัดค้านมาก ปรากฏว่าผ่านมา 20 ปีวิถีชาวบ้านยังปกติพอโครงการท่อเรือน้ำลึกสงขลา 2 ก็ถูกคัดค้านอีก แต่ข้อคัดค้านใดๆที่รัฐแก้ได้ก็ดำเนินการให้ เช่น ไม่อนุญาตให้มีโรงงานปิโตรเคมี หรือกรณี 2 โรงไฟฟ้า 1.6 พันเมกะวัตต์ ก็ถูกคัดค้าน สุดท้ายก็เกิดขึ้นฉะนั้น โครงการนี้เกิดขึ้นย่อมแก้จุดอ่อนในพื้นที่ โดยสร้างงานรองรับบัณฑิตในพื้นที่จบปีละ 5 หมื่นคนและชาวบ้านในพื้นที่อีก ผมเกิดที่นี่ย่อมเห็นด้วยอยากให้พัฒนาพื้นที่ สร้างงานให้ลูกหลาน จึงยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกลุ่มคัดค้าน ตอนนี้เท่าที่ทราบฝ่ายค้านจะหยิบข้อพิพาทปมที่ดินในพื้นที่มาอภิปราย หากเป็นของเอกชนก็ไปว่ากันที่ศาลขออย่างเดียวอย่าให้เจ้าหน้าที่ทุจริตถ้าทุจริตต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอยากเห็นหลักฐานเหมือนกันว่าใครทุจริตอย่างไรมีเอกชนรายใหญ่อาศัยบารมี รมช.มหาดไทย กว้านซื้อที่ดินและเปลี่ยนที่ผังดินพื้นที่เกษตรกรรมให้เป็นผังพื้นที่อุตสาหกรรม นายนิพนธ์ บอกว่า เขาไม่ต้องอาศัยบารมีผมหรอก เพราะทำธุรกิจในพื้นที่อยู่แล้วยอมรับรู้จักกันตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นสมาชิกวุฒิสภา และเรื่องนี้ใครมาถาม ก็ต้องสนับสนุนทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผม ผู้ใดซื้อที่ดินของใครในราคาเท่าไหร่ก็ไปตกลงกันเองเท่าที่ทราบมีการซื้อที่ดินที่มีเอกสารสิทธิทั้งหมดมาก่อนหน้านี้ รวมถึงการเปลี่ยนผังการใช้ที่ดิน ก็เป็นอำนาจของ ศอ.บต. ซึ่งทำก่อนที่ผมเป็น รมช.มหาดไทยฉะนั้น ยังไม่ทราบว่าใช้หน้าที่โดยไม่ชอบในเรื่องอะไรขณะที่คดีเก่าสมัยเป็นนายก อบจ.สงขลา กรณีละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ไม่อนุมัติงบฯเบิกจ่ายค่าซ่อมรถบำรุงทางอเนกประสงค์ โดย ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปแล้ว ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ขึ้นอยู่กับศาลยุติธรรม กรณีนี้หลังถูกร้องเรียนว่าโครงการนี้ไม่โปร่งใส เข้าข่ายล็อกสเปกและฮั้ว โดยจังหวัดสั่งนายก อบจ.สงขลาให้ตรวจสอบ ผลปรากฏว่าเป็นไปตามที่ถูกร้องเรียน การประกวดราคาและการจัดซื้อย่อมตกเป็นโมฆะ ขณะนี้ยังมีหลักฐานใหม่เข้ามาอีก ใช้เอกสารปลอมต่อการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ สอดคล้องกับผลการตรวจสอบปัจจุบันเงิน 50 ล้านบาทค่าซ่อมรถยังอยู่ในคลัง อบจ.สงขลา รอศาลปกครองสูงสุดตัดสินก่อน ผลออกมาอย่างไรก็เบิกจ่ายได้ทันทีตามคำพิพากษา เป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ เพราะมีการฮั้วเกิดขึ้นคดีนี้มีแกนนำพรรคใหญ่บางคนเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ โยงไปถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีแกนนำพรรคฝ่ายตรงข้ามลงไปจัดการในพื้นที่ เหมือนต้องการเขี่ยพรรคประชาธิปัตย์ให้พ้นรัฐบาล นายนิพนธ์ บอกว่า ไม่ขอระบุเป็นพรรคไหน เอาเป็นว่าต้องการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินส่วนการเลือกตั้งซ่อมต้องเคารพการตัดสินใจของแต่ละพรรค ไม่ขอพูดถึงปัจจุบัน จบไปแล้วแต่ขอพูดถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นรัฐบาลผสม มีวัฒนธรรมทำให้รัฐบาลอยู่ได้นานที่สุดขณะนั้นมีหลักที่ยึดถือไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ทำเรื่องเล็กให้มันหายไป ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็กอะไรที่เป็นชนวนนำไปสู่ความขัดแย้ง ย่อมละเว้นกรณีเลือกตั้งซ่อมหากเป็นพื้นที่ของใคร พรรคร่วมรัฐบาลย่อมไม่ส่ง เพราะประเด็นปราศรัยในพื้นที่อาจมีกลอนพาไปเป็นชนวนทะเลาะ เดี๋ยวลามไปถึงห้อง ครม.ขยายเป็นประเด็นใหญ่พรรคร่วมรัฐบาลจะมองหน้ากันไม่ได้ขอโทษทีหลัง บางที แค่ขอโทษไม่เพียงพอทำให้รู้สึกน้อยเนื้อ ต่ำใจ บานปลายให้เกิดความรู้สึกร้าวลึกปมนี้มีผลกระทบต่อการโหวตไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสัปดาห์นี้อย่างไร นายนิพนธ์ บอกว่า หลังอภิปรายและชี้แจงจบ จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรคว่ารัฐมนตรีชี้แจงมีเหตุผลฟังได้หรือไม่ ก่อนลงมติให้เป็นทิศทางเดียวกันคะแนนของรัฐมนตรีที่ออกอาจไม่เท่ากัน 1-2 คะแนน ก็เกิดเออร์เรอร์ขึ้นได้ แต่ถ้าไม่โหวตให้ทั้งพรรคก็ต้องไปดูว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ยังมีเหตุที่ประชุมรัฐสภาลงมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดปัญหาการทำหน้าที่ของรัฐสภาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ขัดต่อหลักการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ควรทบทวนท่าทีการถอนตัวออกจากรัฐบาลอย่างไร นายนิพนธ์ บอกว่า ยังเป็นแค่มุมมองที่ต่างกัน ไม่ขัดต่อหลักการเข้าร่วมรัฐบาลของเรากระบวนการแก้กติกาใหญ่ยังเดินต่อไปยังเชื่อมั่นการแก้กติกา เป็นทางออกไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากไปกว่านี้รอยร้าวในรัฐบาลถี่ห่างขึ้นเรื่อยๆ มีวิธีการอย่างไรให้อยู่ร่วมกันต่อไป นายนิพนธ์ บอกว่า......การพูดคุยกันเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดความไว้วางใจเป็นสิ่งที่สำคัญในอดีตสอนให้รู้ว่ารัฐบาลผสมไม่ได้อยู่ที่คนใดคนหนึ่งรัฐบาลมั่นคงได้ทุกคนต้องร่วมมือเป็นหนึ่งเดียว.ทีมการเมือง