หมอกควันจากไฟป่าในภาคเหนือ เป็นปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นทุกปี ส่งผลให้ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน มีผลกระทบต่อสุขภาพ และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมากที่ผ่านมาถึงแม้รัฐบาลจะออกมาตรการเด็ดขาด ห้ามเผาวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร และบังคับใช้กฎหมายกับพวกลักลอบเผาป่า แต่ก็ยังใช้ไม่ได้ผลมากนักมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงระดมนักวิชาการศึกษาวิธีการจัดการควันพิษจากไฟป่าตามแนวทาง “แม่โจ้โมเดล” รศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เผยว่า “แม่โจ้โมเดล” คือการนำองค์ความรู้ทั้งด้านเกษตร เทคโนโลยี นวัตกรรม การบริหารจัดการ และความร่วมมือกับนักวิชาการ นักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถในการช่วยสนับสนุนการจัดการปัญหาหมอกควันไฟป่าได้อย่างครบวงจรแยกเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่เป็นต้นเหตุของปัญหาการเผาป่า มีการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเกษตร เพื่อยังชีพด้วยเกษตรอินทรีย์ใหม่ สร้างป่าเปียกด้วยบ่อพวงที่จะสร้างแหล่งน้ำกลางป่าที่เคยแห้งแล้ง เป็นการสร้างภูมิปัญญาใหม่ให้กับชาวบ้านพื้นที่กลางน้ำ เน้นสร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยใช้นวัตกรรมที่เข้าถึงง่าย สามารถนำเศษใบไม้มาสร้างมูลค่าทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ภาชนะใส่อาหาร หรือการเพาะเห็ดต่างๆ เรียกว่า “เห็ดป่าฟ้าใส” โดยไม่ต้องเผาป่า มหาวิทยาลัยเป็นผู้สนับสนุนเครือข่ายด้านการตลาดส่วนพื้นที่ปลายน้ำ เป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษมากที่สุด มีการถ่ายทอดนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น เครื่องกรองอากาศอย่างง่ายราคาถูกผลิตเองได้ พื้นที่ป่าปอด ต้นไม้ฟอกอากาศ การจัดการขยะตามแนวทาง Zero Waste การตรวจวัดและเตือนภัยฝุ่นละอองรวมถึงจัดการปลายทางปัญหาด้วยการใช้ฝูงบินยูเอวีและโดรนอาสาเข้าไปสนับสนุนชี้เป้าจุดเกิดหมอกควันไฟป่าให้กับเจ้าหน้าที่ขณะนี้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนกว่า 20 หน่วยงาน รวมถึงชาวบ้านกว่า 100 ชุมชนใน จ.เชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมมั่นใจว่าจะช่วยแก้ปัญหาไฟป่าต้นตอของหมอกควันได้อย่างยั่งยืน.เอกพงศ์ ประดิษฐ์พงษ์/รายงาน