สหพันธ์สาธารณรัฐแทนซาเนียเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก มีประชากร 56 ล้านคน มีพื้นที่ 9.5 แสนตาราง กิโลเมตร ที่กำลังตระหนกตกใจกันในตอนนี้ก็คือ มีคนป่วยด้วยโรคประหลาดที่หมอก็ไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร และตายไปแล้ว 15 คน ยังมีผู้ป่วยขั้นวิกฤติเกินครึ่งร้อย ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน บางคนถึงกับอาเจียนเป็นเลือด ป่วยไม่กี่ชั่วโมงก็ตาย20 ปีที่แล้ว ผมเคยติดตามทีมของอาจารย์นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ไปค้นหาแหล่งอัญมณีในป่าทึบของหลายประเทศในทวีปแอฟริกา ประเพณีของหลายเผ่ามีการเต้นเย้ายวน ผมเคยถามว่าทำไมต้องเต้นโป๊กันขนาดนี้ ได้รับคำตอบว่า เพราะต้องการเย้ายวนให้มีการสืบเผ่าพันธุ์ ด้วยกลางป่านี่มีโรคระบาดอยู่บ่อยๆ ซึ่งระบาดแต่ละครั้ง ผู้คนในเผ่าตายไปเป็นจำนวนมาก บางทีจากเผ่าใหญ่ที่มีประชากรเป็นพันเป็นหมื่น โรคระบาดเกิดขึ้นพักเดียว ประชากรเผ่าลดเกินครึ่งโชคดีที่สมัยนั้นยังไม่มีการเดินทางท่องเที่ยวมาก การติดต่อของผู้คนแต่ละเผ่ายังจำกัดอยู่เฉพาะในพื้นที่กลางป่า ทว่าปัจจุบันนี้ไม่ใช่แล้ว เกิดขึ้นที่ไหนก็ระบาดแพร่ไปทั้งโลกได้ในเวลาอันสั้น และมีศักยภาพในการทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์และสัตว์ได้ครั้งละเป็นจำนวนมากก่อนจะขึ้นศตวรรษใหม่ นักอนาคตวิทยาทำนายทายว่า โลกในอนาคตจะไร้พรมแดน ผู้คนจะไปมาหาสู่กันโดยเสรี แต่หลังจากวิกฤติโควิด–19 เกิดขึ้นเมื่อต้น พ.ศ. 2563 และระบาดต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงวันนี้ มีคนทั้งโลกติดเชื้อโควิด–19 ไปแล้วมากถึง 106 ล้านคน ตายไปแล้ว 2.3 ล้านคน และก็ยังไม่มีทีท่าว่าการระบาดนี้จะสงบจบลง คำทำนายเหล่านั้นก็ไม่ถูกต้องโรคระบาดใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น คงปราบไม่ได้ง่ายเหมือนโรคร้ายในอดีต ไม่ว่าจะเป็นไข้ชิคุนกุนยา อหิวาตกโรค ไข้เลือดออก ไครเมียน-คองโก ไข้เลือดออกเดงกี โรคไวรัสอีโบลา โรคมาลาเรีย กาฬโรค ซาร์ส ไข้เหลือง ฯลฯนอกจากการป้องกันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตั้งรับกับโรคระบาดใหม่ การสาธารณสุขของประเทศต้องเป๊ะ การตรวจคนเข้าเมืองต้องเข้ม การป้องกันตามชายแดนต้องมีประสิทธิภาพ ประเทศไหนหย่อนยานในเรื่องเหล่านี้ ก็มีโอกาสที่จะเจอหายนะภัยรุนแรง ผู้คนอาจจะเจ็บป่วยล้มตายเป็นใบไม้ร่วงประเทศที่จะป้องกันโรคระบาดได้ดีที่สุดน่าจะเป็นประเทศที่เป็นเกาะ อย่างญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือมาดากัสการ์ ส่วนประเทศที่มีพรมแดนประชิดติดกันกับประเทศอื่น มีโอกาสเสี่ยงสูง เรื่องการป้องกันจึงทำเฉพาะประเทศของตัวเองไม่ได้ ต้องรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ถ้าเป็นในภูมิภาคเรา ก็อาจจะต้องช่วยกันทั้งพม่า ไทย ลาว กัมพูชา และมาเลเซียแม้การเดินทางติดต่อกันทำได้น้อยลง หรือแทบทำไม่ได้เลย แต่ยังโชคดีที่โลกมีเทคโนโลยีที่สามารถติดต่อสื่อสารกันทางออนไลน์ ค้าขายทางอินเตอร์เน็ต ยังส่งสินค้าผ่านเที่ยวบินและการเดินเรือ ทุกประเทศต้องหันมาผลิตและทำการตลาด ผ่านช่องทางต่างๆอย่างนี้หลายประเทศยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงและทุ่มงบประมาณมโหฬารกับอาวุธยุทโธปกรณ์ เน้นไปด้านการทหารมาเป็นอันดับ 1 ต้นทุนการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีด้านอาวุธยุทโธปกรณ์มากกว่าพัฒนาเทคโนโลยีด้านสาธารณสุขซึ่งเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้วครับ ถ้าต้องการให้ดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปได้อย่างมั่นคง ต้องหันมาทุ่มเรื่องสาธารณสุขมาเป็นอันดับ 1สมัยก่อน เราชื่นชมนักรบในสมรภูมิที่ออกไปรบกับอริราชศัตรู แต่วันนี้ อริราชศัตรูกลับเป็นเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็น นักรบของจริงในทุกวันนี้คือนักรบเสื้อกาวน์ ท่านเหล่านี้ลงสนามจริง ป่วยจริง และตายจริง แต่ทัศนคติของผู้นำของหลายชาติรัฐ ยังไปบ้าบอคอแตกกับความมั่นคงทางทหารมองไปในโลกใบนี้ อยากจะถามว่า จะมีพื้นที่สักกี่แห่งที่มีสงครามที่รบกันจริงๆ เท่าที่เห็นมีน้อยมากครับแต่ถ้าถามว่า สงครามที่ต้องทำกับเชื้อโรคมีมากไหมขอตอบว่า ‘มีทั้งโลก’.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com