ฐานการเมือง ด้ามขวานทอง ความจริงทางการเมืองที่เคยดำรงอยู่มาก่อนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ต้องยอมรับว่า “ประชาธิปัตย์” เคยยึดครองมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานไม่เคยสั่นสะเทือน ไม่เคยหวั่นไหว ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ตามนี่คือส่วนหนึ่งที่ทำให้สามารถรักษาความเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ระดับ “สถาบัน” ของประเทศก็ว่าได้พูดง่ายๆว่าส่งเสาไฟฟ้าปะชื่อ ปชป. ก็ได้เป็น ส.ส.ภาคใต้สมใจแล้วนักการเมืองจึงไม่กล้าย้ายพรรค ไม่กล้าที่จะไปแตะต้ององค์กรนำแม้แต่น้อย เพราะหากทำอย่างนั้นไม่ใช่แล้วเอาให้ถึงที่สุดคือไม่ใช่นักการเมืองที่มีคุณภาพไร้หลักการสมัยก่อนการคัดผู้สมัครลงเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ จึงมีการกลั่นกรองกันพอสมควรและต้องมีเลือดเนื้อเชื้อไขประชาธิปัตย์“หลงฝูง” มาไม่ได้เด็ดขาด...เป็นอย่างนั้นเสียด้วยภาคใต้จึงเป็นพื้นที่หลักที่ ปชป. จะมี ส.ส.เป็นหลักนอกนั้นก็ไล่กันไปอย่าง กทม. ภาคกลาง อีสานหรือภาคอื่นๆแต่ระยะหลังมานี่ภาคอีสานกลายเป็น “จุดอ่อน” ทั้งๆ ที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุดของประเทศไทย แต่ ปชป.แทบจะนับหัวได้ยิ่ง “ทักษิณ” เข้ามามีบทบาททางการเมืองในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา แม้จะเปลี่ยนชื่อพรรคเปลี่ยนคนนำพรรคแต่ถ้าอยู่ภายใต้ “ยี่ห้อ” นี้ เหนือ-อีสาน ฟาดเรียบและนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเมืองภาคใต้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ไม่คาดคิดกันมาก่อนคือ “ภาคใต้” ของประชาธิปัตย์ถูกตีแตกแม้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่การเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาค่อนข้างจะชัดเจนมีพรรคการเมืองใหม่อย่างน้อย 2 พรรค คือ พลังประชารัฐ และภูมิใจไทยสามารถที่จะได้ ส.ส. ไม่น้อยเลยทีเดียวในหลายจังหวัดที่เคยเป็น “ของตาย” ในนาม ปชป. “สอบตก” กันเป็นแถวที่สะท้อนอีกอย่างหนึ่งคือ ปชป. กับ ปชป. สู้กันเองรบกันเอง แพ้บ้างชนะบ้าง แต่ก็ทำให้ความเข้มข้นในแบบ “เลือดประชาธิปัตย์” จางไปอย่างชัดเจนสนามภาคใต้ ซึ่งเคยเป็น “พื้นที่ต้องห้าม” ที่ไม่ใช่ ปชป. เข้าไม่ได้เปลี่ยนไปหมายถึงว่าเปิดกว้างมากขึ้นอย่าได้แปลกใจการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ที่นครศรีธรรมราช แทนนายเทพไท เสนพงศ์ พรรคการเมืองอื่นจึงพร้อมที่จะส่งผู้สมัครสู้กับคนของประชาธิปัตย์ไม่ได้ยำเกรงแม้แต่น้อยไม่ได้สนใจหรือให้ราคามารยาทใดๆทั้งสิ้น แม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน เพราะคือสนามเลือกตั้งแห่งหนึ่งที่ทุกพรรคมีสิทธิที่จะโดดลงชิงชัยเป็นเรื่องที่ประชาธิปัตย์ต้องกลับไปคิดกันเองว่าทำไมทุกอย่างมันถึงเปลี่ยนแปลงไปและไม่ใช่เรื่องที่คิดจะ “ผูกขาด” ได้คิดไปให้ไกลกว่านี้คือ “อนาคตพรรค” ให้ดีก็แล้วกัน.“สายล่อฟ้า”