จะอยู่กันแบบนี้ อีกนานแค่ไหน? คงเป็นคำถามของคนไทยโดยรวมกับสภาพสังคมที่ดำรงอยู่ ซึ่งไม่ค่อยจะโสภาเท่าใดนัก เพราะมีแต่ความ “อึดอัด” ที่มองไม่เห็นอนาคตแน่ละ...ประเด็นหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ “โควิด-19” ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ทั้งโลกจนกว่าจะคุมอยู่เท่านั้นเป็นทางเดียวจริงๆหลายประเทศแม้จะอยู่ในสภาพเดียวกัน แต่องค์ประกอบอื่นๆน่าจะต่างกัน ซึ่งมีทั้งหมดอาลัยไม่เห็นอนาคตแต่อีกหลายประเทศกลับกลายเป็นความหวังที่มีความพยายามจะหาลู่ทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและมองทะลุไปถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไป“โควิด-19” แม้จะมีผลกระทบในวงกว้างและเป็นอุปสรรคทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักจะขยับอะไรก็ไม่ได้มากนักจึงคิดตรงกันว่าต้องจัดการให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่เห็นกันอยู่ก็คือ “วัคซีน” ที่แม้ว่ายังไม่ได้คำตอบ 100% เพราะยังไม่สามารถฉีดให้ประชาชนทั่วโลกได้ในปริมาณที่เป็นสัดส่วน เพื่อคุมสภาพไวรัสตัวนี้ไม่ให้แพร่กระจายในระดับที่ลดลงแต่เนื่องจากสภาพความเป็นจริง “วัคซีน” ที่ผลิตกันออกมานั้น แม้โดยรวมแล้วค่อนข้างจะมั่นใจได้ว่ามี “คุณภาพ”ก็ยังมีปัญหาในเรื่องความมั่นใจโดยเฉพาะผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นตามจนเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตทำนอง “หนีเสือปะจระเข้” ที่จะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจากการประเมินสถานการณ์ทั่วโลก แล้วก็ต้องตัดสินใจไปทางหนึ่งนั่นคือพร้อมที่จะรับการฉีด “วัคซีน” เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอยู่ 2 ประการ1.มีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดไปได้2.ถ้าได้ผลก็จะทำให้สามารถหยุดยั้งโควิด-19 นี้ได้หลายประเทศได้ฉีดวัคซีนกันไปแล้ว บางประเทศถึงขนาดฉีดโดสที่ 2 แล้วด้วยและก็ได้ผลดีน่าพอใจวัดจากการแพร่ระบาดลดน้อยลงอย่างชัดเจนประเทศไทยเองตามที่วางแผนกันไว้กลางเดือนนี้ จะประเดิมเข็มแรกแต่กำลังจะมีปัญหาเนื่องจากบริษัทผลิตยาไม่สามารถส่งวัคซีนให้ได้ เนื่องจากมีปัญหากับอียูที่สั่งแล้วไม่ได้ตามนัดหมายที่ได้ตกลงกันจึงพยายามบีบให้บริษัทต้องส่งยาต้องหาทางทำให้ได้ปัญหาก็คือ โควตาของประเทศไทยทำท่าจะช้าไปอีกด้วยเงื่อนไขนี้ทำให้ไม่สามารถฉีดวัคซีนให้ได้ตามกำหนด อันนี้ต้องรอดูว่าจะแก้ไขหาทางออกกันอย่างไรนั่นเป็นเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นภารกิจของรัฐบาลและก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลชุดนี้ได้บริหารประเทศต่อไปได้โดยที่การเมืองจากฝ่ายค้านก็ทำอะไรไม่ได้เพราะด้วยเงื่อนไขตัวนี้แล้ว ฝ่ายค้านเองก็ไม่มีศักยภาพพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ พูดง่ายๆว่าการเมืองไทยวันนี้...เป็น “เป็ดง่อย” ไปแล้วพอกันทั้ง “ฝ่ายรัฐบาล” และ “ฝ่ายค้าน”.“สายล่อฟ้า”