ตำนานเก่าเล่าต่อกันมายักษ์วัดแจ้งเหาะข้ามเจ้าพระยา มาตีกับยักษ์วัดโพธิ์ จนป่าแถวนั้นหักโค่นราบเตียน เป็นที่มาของชื่อท่าเตียน สงครามสองยักษ์จบลง เพราะหลวงพ่อโต (วัดอินทร์) ท่านออกมาห้ามไม่จบก็คงจะไม่ได้ เพราะหลวงพ่อโต ท่านโตจริงๆ ความสูงถึง 16 วา เทียบแล้วยักษ์วัดแจ้งวัดโพธิ์เล็กนิดเดียวหลวงพ่อโตวัดอินทรวิหาร เป็นพระปางยืนอุ้มบาตร สมเด็จพุฒาจารย์ (โต วัดระฆัง) สร้างไว้เป็นอนุสรณ์ตอนท่านถูกสอนยืน ส่วนพระปางไสยาสน์ ปางนอนท่านสร้างเป็นอนุสรณ์ตอนท่านแรกเกิด ที่วัดสะตือ พระนครศรีอยุธยาส่วนอนุสรณ์ตอนถูกสอนให้นั่ง สมเด็จโตท่านสร้างไว้ที่วัดไชโย อ่างทองอย่าแปลกใจ พ่อแม่สมเด็จโตท่าน เร่เรือค้าขาย และเหตุที่ท่านชื่อโต พระพุทธรูปที่ท่านสร้างจึงต้องสมชื่อโต และพระหลวงพ่อโตทุกองค์ของท่านก็มีความขลังต่างกันในหนังสือพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง (พ.ย.2544) อาจารย์วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร เขียนประวัติหลวงพ่อโต วัดไชโยไว้ว่า แรกทีเดียวสมเด็จโตท่านก่อด้วยอิฐและดิน เป็นพระนั่งขนาดใหญ่มาก แต่ไม่นานก็ทลายลงท่านจึงสร้างใหม่ด้วยวิธีเก่า แต่ลดขนาดให้เล็กลง เสร็จแล้วก็ถือปูนขาวไม่ปิดทองหลวงพ่อโตที่สร้างครั้งที่สองนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเสด็จฯไปเห็น ทรงมีพระราชหัตถเลขาไว้ว่า “รูปร่างหน้าตา ไม่งามเลย...ปากเหมือนทานขรัวโต ไม่มีผิด”ต่อมาเจ้าพระยารัตนบดินทร์ (บุญรอด กัลยาณมิตร) มีศรัทธาสร้างพระวิหารให้หลวงพ่อโต ระหว่างก่อสร้างกระทุ้งรากพระวิหาร แรงสั่นสะเทือน ทำให้องค์พระหลวงพ่อโตพังทลายลง นับเป็นการพัง...ครั้งที่สาม(พระสมเด็จที่เรียกวัดเกศไชโย เล่นหากันในวงการพระเครื่อง องค์ละหลายแสนถึงล้าน เชื่อกันว่าหลุดออกมาจากองค์พระจากการพังทั้งสามครั้งนี้แหละ)รัชกาลที่ 5 โปรดฯให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ นายช่างฝีมือเยี่ยมมาช่วย รื้อองค์พระทั้งองค์ วางรากฐานใหม่ วางโครงเหล็กยึดไว้ภายใน ก่อขึ้นเป็นพระพุทธรูปตามลักษณ์ที่สมเด็จพุฒาจารย์โตทำไว้เดิมเมื่อเสร็จแล้วพระราชทานนามว่า พระมหาพุทธพิมพ์หลวงพ่อโต วัดไชโย ของขลังขึ้นหน้า คือน้ำมนต์ คนอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียงนับถือกันมาก เจ็บท้องข้องใจไปขอน้ำมนต์ท่านมาดื่มกิน มาลูบหัวลูบหน้า ปัดเป่าจากร้ายให้กลายเป็นดีเวลามีโรคระบาดทำให้ผู้คนล้มตาย ชาวบ้านเล่ากันว่า หลวงพ่อโตท่านจะมาเข้าฝันบอกวิธีแก้ ชาวอำเภอไชโยนับถือท่านลึกซึ้งมาก มีรูปหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ไว้บูชาทุกบ้านอีกความเชื่อที่ไม่บอกกล่าวกันตรงๆแค่กระซิบกัน ชาวบ้านที่ก่อกรรมทำเข็ญเป็นโจรผู้ร้าย หรือข้าราชการที่โกงบ้านกินเมืองจะไม่กล้าไปกราบท่านเล่ากันว่าพอเข้าไปจะก้มกราบท่านพอเงยหน้า หลวงพ่อโตท่านก็ทำท่าจะล้มทับ ต้องวิ่งหนีออกมา บางคนออกอาการตกใจกลัว เอะอะโวยวายบ้านเมืองเราตอนนี้เจอแต่ปัญหาคนโกง ผมอ่านเรื่องนี้แล้ว อยากจะบอกท่านผู้ใหญ่ที่กำลังจะเลือกคนเข้าไปใช้งาน ตรวจสอบประวัติแล้วก็อย่าเชื่อแต่ตัวหนังสือ ชวนกันไปไหว้หลวงพ่อโต วัดไชโยอีกสักครั้งใครไม่ไปก็ตั้งข้อสงสัยไว้ ใครไปแล้วออกอาการ ก็ต้องเก็บเอามาเป็นประเด็นพิจารณาอีกข้อแนะนำ ช่วงเวลาข่าวคดีลูกกระทิงแดง ตำรวจอัยการอย่าไป เพราะชาวบ้านเขากลัวกันว่า หลวงพ่อโตท่านจะล้มทับเอาจริงๆ.กิเลน ประลองเชิง