นายกฯประกาศจะคุมตร.เอง ประธานห้ามบิ๊กตู่ชี้หน้าใคร หลังปรี๊ดแตกฝ่ายค้านยิ้มเยาะฝ่ายค้านถล่มยับรัฐบาลเอื้อนายทุน “ยุทธพงศ์” แซะ “อนุพงษ์” แฉปภ.ล็อกสเปกซื้อรถดับเพลิงบริษัทแบล็กลิสต์ฮั้วประมูล ประเคนท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ให้นายทุนพลังงาน ส.ส.พลังประชารัฐ-ส.ว.ประท้วงเดือด ด่ากันลั่น ส.ส.ขี้ข้าโจรปะทะ ส.ว.เลียท็อปบูต “วิสาร” จี้ใจดำ “บิ๊กตู่” เตรียมการ 3 ปีทำรัฐประหาร บี้ตัดงบฯซื้ออาวุธไปช่วยเกษตรกร “คมเดช” ซัด “สมคิด” เชิด “บิ๊กตู่” สนองกลุ่มทุน ตั้งฉายารัฐบาลกิ้งกือ “ประยุทธ์” ปรี๊ดแตกชี้หน้า ส.ส.ฝ่ายค้านอย่ามายิ้มเยาะ ผมไม่ชอบ ลั่นจากนี้คุมเอง สตช. “ชวน” เตือนซ้ำอย่าไปชี้ใคร ปิดปาก “เสรีพิศุทธ์” ทุบโต๊ะอภิปรายจบแล้วหมดสิทธิ หน.เสรีรวมไทยฮึ่มจ่อยื่นศาลฎีกาฯฟ้อง ม. 157 “บิ๊กป๊อก” ป้องลูกชายไม่เคยวิ่งเต้นประมูลโรงขยะ “ทักษิณ” จวกทหารยุคนี้ขาดลูกผู้ชาย แขวะเก่งไม่กลัวแต่กลัวคนหน้าด้าน “ประยุทธ์” ทำหูทวนลมไม่ได้ยินใครเหน็บแนมการอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 2 ลดความร้อนแรงลงไปพอสมควร โดยพรรคฝ่ายค้านอภิปรายเน้นย้ำภาพการเป็นรัฐบาลที่เอื้อนายทุน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์แม้พยายามปรับตัวเข้ากับการเมือง แต่ยังมีการตอบโต้ ส.ส.ฝ่ายค้านด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่เป็นระยะ“พี่ตู่” ขู่คอยดูคนปรอทแตกร้องไห้อีกเมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่อาคารหอประชุมใหญ่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บรรยากาศการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาวันที่สอง เริ่มคึกคักตั้งแต่เช้า โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย คู่ปะทะดวลเดือดในเวทีรัฐสภาเมื่อคืนวันที่ 25 ก.ค. เดินทางมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า คุณสมบัติรัฐมนตรีคงไม่อภิปรายแล้ว เดี๋ยวจะมีคนปรอทแตกร้องไห้อีก แต่จะอภิปราย 1.นโยบายรัฐบาลขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ และ 2.การทำหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย คอยดูประเด็นที่ 2 แล้วกันอาจมีคนปรอทแตกอีก ให้ตอบคำถามตนให้ได้แล้วกัน ตอนมีข้อความและมีเทปชัดเจน“น้องตู่” ยิ้มบอกสนุกดีมีแกล้งโมโหจากนั้นเวลา 08.43 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวทักทาย “How are you good morning” แล้วเดินลงมาที่ห้องอาหารสำหรับสมาชิกสภา ชั้นล่างของอาคาร ทักทาย ส.ส.และขอบคุณสมาชิกรัฐสภาว่า “ขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยกันทำงาน ผมกำลังปรับตัวไม่ได้ติดใจ สบายดี อารมณ์ดี สนุกๆดี วันนี้อารมณ์ดีแล้ว เดี๋ยวต้องปรับตัวกันหน่อย” พร้อมถ่ายรูปร่วมกับ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอย่างเป็นกันเอง จากนั้นเดินออกจากห้องอาหาร ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 25 ก.ค.เป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ก็โอเค” เมื่อถามย้ำว่าหากวันนี้มีข้อซักถามจากฝ่ายค้านพร้อมลุกขึ้นตอบใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ตอบได้ก็ตอบไป จะพยายามรับให้ได้ในการอภิปราย” เมื่อถามว่าอารมณ์ดีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “อารมณ์ดีทุกวันนั่นแหละ อันไหนไม่ดีก็แกล้งโมโห” แล้วเดินเข้าลิฟต์หันมายิ้มโบกมือให้ผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นห้องประชุมไป“สุทิน” ยันไม่มีเจตนายั่วยุนายกฯนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และว่าที่ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า จำนวนผู้ที่จะอภิปรายคิดว่าไม่น่าเพียงพอ ฝ่ายค้านอภิปรายไปได้ประมาณ 30% การแถลงรัฐบาลวันแรกสอบไม่ผ่านโดยเฉพาะตัวนายกฯ เพราะไม่เข้าใจการทำงานภายใต้กลไกของรัฐสภา เป็นน้องใหม่ต้องปรับปรุงเยอะ อารมณ์ยังเป็นปัญหาไปบดบังสาระ ทำให้บรรยากาศการประชุมเสียไป ฝ่ายค้านไม่มีเจตนายั่วยุ แต่นายกฯ มีอารมณ์กับทุกประเด็น บางกรณีไม่ควรเกิดอารมณ์ก็เกิด และการประท้วงของฝ่ายรัฐบาลไม่สมเหตุสมผลเอาปริมาณ “พรเพชร” ให้ “เสรีพิศุทธ์” เข้าประชุมกระทั่งเวลา 09.30 น. นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ประธานการประชุมได้แจ้งให้สมาชิกรัฐสภาทราบว่าเหลือเวลาอภิปราย 16 ชั่วโมง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าจะล่วงเลยไปถึงวันที่ 27 ก.ค. ก็ไม่ขัดข้อง ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.กล่าวว่า ส.ว.ไม่ขัดข้องยังเหลือผู้อภิปรายถึง 40 คน แต่ทราบว่าวันที่ 27 ก.ค.สมาชิกหลายคนมีภารกิจสำคัญจึงอยากให้จบ แต่ถ้าเลยไปวันที่ 27 ก.ค.ก็ไม่เป็นไร จากนั้นนางปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นสอบถามว่ากรณีที่ประธานเชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ออกจากห้องประชุมไปเมื่อค่ำวันที่ 25 ก.ค. ไม่ทราบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะเสนอหน้าเข้ามาในห้องประชุมวันนี้ได้หรือไม่ ทำให้สมาชิกส่งเสียงฮือฮา นายจุลพันธ์ลุกขึ้นประท้วงว่า นางปารีณาเสียดสีขอให้ถอนคำว่า “เสนอหน้า” ซึ่งนางปารีณาก็ยอมถอนคำพูด ขณะที่นายพรเพชรขอให้ทั้งวิป 3 ฝ่ายไปหารือจัดสรรเวลา หากลดผู้อภิปรายลงได้จะดีมาก และอนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เข้าสู่ห้องประชุมได้ตามปกติ จากนั้นสมาชิกเริ่มอภิปรายร่างนโยบายรัฐบาลต่อไปนายกฯยันวางแนวปฏิรูป ศก.ทันโลกผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรก ส.ส.พรรครัฐบาลและ ส.ว.ต่างอภิปรายเน้นถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล รองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และขอให้ทบทวนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่ไม่ สามารถช่วยเหลือค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยได้จริง ราคาสินค้าปรับไปก่อนแล้ว รวมถึงการแก้ปัญหาภัยแล้ง กระทั่งเวลา 10.30 น. นายกฯได้ชี้แจงว่า ยืนยันรัฐบาลวางแนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจเป็นระบบให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคณะกรรมการไตรภาคีจะเป็นผู้พิจารณา ยุทธศาสตร์การลงทุนนั้น ตนย้ำว่าต่างประเทศรักและชอบประเทศ ไทย แต่ไม่ชอบการประท้วง เสถียรภาพทางการเมืองและความสงบเรียบร้อยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดบ่นแก้ภัยแล้งชาวบ้านไม่ร่วมมือพล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาภัยแล้งว่ารัฐบาลมีแผนดำเนินการทั้งหมด โดยเฉพาะผลักดันในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ชี มูลเข้าสู่ภาคเกษตรในทุกหมู่บ้าน แต่ปัญหาคือไม่สามารถทำตามแผนได้ เพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ สำหรับแนวทางป้องกันทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐนั้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามพยานหลักฐานหากพบว่ามีความผิดต้องถูกลงโทษ ผลจะออกมาอย่างไร ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าเอามาพูดกันก่อนจะทำให้เกิดความวุ่นวาย“เสี่ยต่อ” ชี้ผนึก 4 รมต.ไม่มีเกาเหลาจากนั้นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงถึงปัญหาภัยแล้งว่าต้องยอมรับว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ฝนทิ้งช่วงแต่ยังมีมรสุมพัดผ่านทำให้ฝนตกภาคเหนือตอนบนและอีสานตอนกลางมีน้ำเติมเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ราว 40 ล้าน ลบ.ม. ได้สั่งให้มีการบินทำฝนหลวงทุกวัน ระยะยาวต้องเติมน้ำให้ 2 เขื่อนใหญ่ให้ได้ ยืนยันกระทรวงเกษตรฯ แม้จะมีรัฐมนตรีถึง 4 คนจาก 4 พรรค แต่ทำงานด้วยความราบรื่น ไม่มีปัญหาและประสานงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้เกษตรกร“เสี่ยโจ้” ฉะ ปภ.ล็อกสเปกรถดับเพลิงต่อเวลา 12.30 น. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นโยบายรัฐบาลเขียนไว้กว้างจนระบุความชัดเจนไม่ได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 กำหนดให้ชี้แจงที่มารายได้ในการทำนโยบายต่างๆตลอดการบริหารราชการ 4 ปีเศษมีแต่ขาดดุลต้องกู้มา 2 ล้านล้านบาท หากเป็นนายกฯต่ออีก 4 ปีจะต้องกู้เงินถึง 5 ล้านล้านบาทหรือไม่ รัฐบาลกู้เงินมาโกงหรือไม่ ไม่เชื่อในนโยบายป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่ผ่านมาไม่ได้ปราบปรามจริงจัง โดยเฉพาะกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ใช้งบ 80% ซื้อรถดับเพลิงอย่างเดียว นำมาจอดทิ้งไว้ที่ ปภ.เขต 2 จ.สุพรรณบุรีเป็นสุสานรถดับเพลิงซื้อจากบริษัทเดียวจนมีข้อสงสัยล็อกสเปก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตรวจสอบแล้วหรือยัง หนักไปกว่านั้นบริษัทนี้ถูก ปภ.ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ว่ามีพฤติกรรมฮั้ว และ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดไปแล้ว นายกฯต้องจัดการ ถือว่าตบหน้าท่านอย่างแรงประเคนท่าเรือให้นายทุนพลังงานนายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า ที่ท่าเรือแหลมฉบังที่กำลังจะประมูลเฟส 3 ในพื้นที่อีอีซี เอกชน 2 กลุ่มแข่งขันกันแต่มีความพยายามจะให้กลุ่มบริษัทเกี่ยวกับพลังงานได้ไป ทั้งที่ไม่มีความถนัดด้านการเดินเรือ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ลุกขึ้นพูดว่าตนมีภารกิจต้องไปพบกับประธานไอเคโอแล้วจะกลับมาประชุมต่อ ทำให้นายยุทธพงศ์ถามจี้ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ทำไมท่านนายกฯจึงไม่อยู่ฟังอภิปราย อย่าหนีหรือทนฟังเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้หรืออย่างไร” นายกฯตอบว่า “เกี่ยวสิ เพราะเป็นโครงการอีอีซีที่ดำเนินการอยู่” ประธานจึงปิดไมค์นายกฯ ก่อนที่นายกฯจะเดินออกจากห้องประชุมไปทันที เพื่อต้อนรับประธานคณะมนตรีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30 น. แต่ในห้องประชุมเกิดประท้วงกันวุ่นวาย นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ขอให้ถอนคำพูด แต่นายยุทธพงศ์ยังตอบโต้กลับไปว่า “ไม่ได้พาดพิงกลุ่มสามมิตร ทำไมต้องประท้วง อยากให้พวกตัวประกอบ 10 บาทรีบผ่านฉากไป” ส.ส.ขี้ข้าโจรปะทะ ส.ว.เลียท็อปบูตเมื่อถึงตรงนี้สมาชิกยิ่งประท้วงหนักขึ้นพร้อมส่งเสียงโห่ฮา นายพรเพชรจึงวินิจฉัยให้นายยุทธพงศ์ถอนคำพูดว่า “นายกฯ หนีสภาฯ และตัวประกอบ 10 บาท” และขอให้ขอโทษผู้ถูกพาดพิง ด้าน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงประธานที่ปล่อยให้นายยุทธพงศ์พูดจาเสียดสีพาดพิงบุคคลอื่น และขอให้เชิญออกจากห้องประชุมเหมือน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ขณะที่นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.ประท้วงผสมโรงอีกคนว่า “ผู้อภิปรายดูถูกเหยียดหยามสมาชิก หากผมจะพูดบ้างว่าผู้อภิปรายเป็น ส.ส.ขี้ข้าโจร” จน ส.ส.ถึงกับโห่ฮา นายพรเพชรต้องปิดไมค์ ขณะที่นายยุทธพงศ์สวนกลับทันทีว่า “ขอให้ถอน ผมขี้ข้าโจรที่ไหน มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน ไม่เหมือนท่านเลียรองเท้าทหารมา” ยิ่งเรียกเสียงฮือฮาหนักขึ้น จนประธานขอให้ถอนทั้ง 2 คน ในที่สุดนายยุทธพงศ์ยอมถอนคำพูด แต่นายกิตติศักดิ์ยืนยันไม่ถอนแล้วลุกเดินออกจากห้องประชุม“ชวน” ไม่ให้พูดเชิญ “เสรีพิศุทธ์” ฟ้องต่อมาเวลา 13.00 น. บรรยากาศเริ่มคุกรุ่นขึ้นเมื่อนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ขออนุญาตนายชวน หลีกภัย ประธานที่ประชุมขอสลับคิวให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขึ้นอภิปรายรอบ 2 แทนคิวนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย หลังเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ยังอภิปรายไม่จบ แต่นายชวนไม่อนุญาตและวินิจฉัยว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อภิปรายจบไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน แต่นายจุลพันธ์ตื้อต่อรอง ถามว่าไม่อนุญาตตามข้อบังคับข้อใด นายชวนตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่าจบก็คืออภิปรายจบไปเมื่อวานแล้วครับ พร้อมปิดไมโครโฟนตัดบทขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ลุกขึ้นขอใช้สิทธิชี้แจง โดยย้อนที่มาเหตุการณ์ปะทะคารมกับ พล.อ.ประยุทธ์เมื่อคืนวันที่ 25 ก.ค. ตนยังอภิปรายไม่จบ แต่นายชวนยังยืนยันคำวินิจฉัยเดิมพร้อมระบุว่า ด้วยความเคารพนับถือ ผมเห็นว่าท่านได้จบไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ขออภัยที่ทำให้ไม่พอใจ ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ขอใช้สิทธิส่วนตัวของผมดำเนินงานตามกฎหมายก็แล้วกัน นายชวนตอบทันทีด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลอีกครั้งว่า “ก็เชิญครับ”พท.บี้ลดงบกองทัพไปช่วยเกษตรกรนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การจัดสรรงบประมาณให้กองทัพจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ 5 ปี สมัยรัฐบาล คสช.ใช้งบฯรวม 8.9 แสนล้านบาท กองทัพบกมีสัดส่วนมากที่สุดและพบว่าจัดซื้ออุปกรณ์เกินความต้องการของประเทศ เช่น เรือดำน้ำ ทราบว่าเตรียมซื้อปืนใหญ่จากอิสราเอล เครื่องบินรบเกาหลีใต้ มีประชาชนทักท้วง ว่าขอให้กองทัพชะลอ นำงบฯมาช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่เดือดร้อน ส่วนประเด็นการเมืองการปกครอง อยากแนะนำหนังสือให้อ่านคือกองทัพไทยกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ พล.อ.ประยุทธ์เขียน ทำให้ไม่แปลกใจทำไมรัฐบาลชุดที่ผ่านมาต้องออกกฎหมายและมีแนวคิดต่อนักการเมืองไม่ดี ที่สำคัญเพิ่งรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์เตรียมการรัฐประหารกว่า 3 ปี ก่อนยึดอำนาจเมื่อปี 2557 ในวันยึดอำนาจเคยพูดว่าใครอย่ามาคิดสู้ สู้ก็ไม่ชนะ ผมเตรียมการมา 3 ปีแล้ว “บิ๊กตู่” ฉุนซัดฝ่ายค้านอย่ายิ้มเย้ยเมื่อถึงตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ฟังมา 2 วันแล้ว ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านบอกถึงการเตรียมการ 3 ปีก่อนการรัฐประหาร ขอให้กลับไปย้อนฟังคำพูดใหม่ ตนบอกว่าสมัยเป็น ผบ.ทบ.3 ปีเจอสถานการณ์ความขัดแย้ง ไม่รู้ว่าเป็นพวกไหน หลังจากนั้นได้เตรียมกำลังพลให้ระมัดระวังและดูแลประชาชน ก่อนจะเกษียณอายุราชการ 6 เดือนเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย “คุณไม่ต้องยิ้มเลย พวกนั่งอยู่ทางนี้ ยิ้มแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น คนตายคนเจ็บไปแล้วเท่าไหร่ ผมจึงต้องตัดสินใจ ไม่ได้ตัดสินใจก่อนหน้าอะไรด้วย วันนั้นเท่านั้นเอง ที่คนของท่านบางพวกบอกก็ไม่ต้องอยู่ อยู่กันแบบนี้ ถ้าทหารไม่ออกมาทำงานก็อยู่กันแบบนี้ งบประมาณทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ รับผิดชอบกันหรือเปล่า ตอบมา อย่าทำหน้าเยาะเย้ยกันอย่างนี้ ผมไม่ชอบ” นายกฯ กล่าวอย่างมีอารมณ์เกรี้ยวกราด ตาจ้องเขม็งยกมือชี้ไปยังที่นั่ง ส.ส.ฝ่ายค้านก่อนปิดไมโครโฟนแล้วนั่งลง“ชวน” เตือนซ้ำอย่าไปชี้หน้าใครเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์พูดจบ ทำให้นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ลุกขึ้นประท้วงว่า “เวลาพูดท่านต้องพูดผ่านประธาน เมื่อคืนท่านก็ข่มขู่ผม ผมกลับบ้านก็กลัว”ด้านนายชวนได้กล่าวเตือนนายกฯว่า เรียนให้นายกฯได้รับทราบ ที่จริงเรียนท่านแล้วอย่าไปชี้หน้าใคร อาจจะเป็นความเคยชินที่ท่านอยู่กับทหาร แต่ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ไม่ได้เจตนาร้ายกห.แจงงบโปร่งใสตรวจสอบได้ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ใช้สิทธิ์ชี้แจงเป็นครั้งแรกถึงงบประมาณจัดซื้อของกองทัพว่า การจัดซื้อของกระทรวงกลาโหมแบ่งเป็น 4 ส่วนเกี่ยวเนื่องกับแผนจัดหายุทธศาสตร์และอาวุธเนื่องจากยุทโธปกรณ์ที่ใช้อยู่มีอายุกว่า 20-30 ปีต้องเปลี่ยน รายละเอียดขอให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจง ซึ่ง พล.อ.ชัยชาญกล่าวว่า การจัดสรรงบฯเพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไม่สูงเกินไป ปี 2540 มีอัตราเฉลี่ย 2.2 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี ปรับลดลงทุกปี ปีล่าสุดอยู่ที่ 1.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น กองทัพมีอาวุธที่ผ่านการใช้งานและต้องซื้อทดแทน การจัดซื้อมีกระบวนการผ่านคณะกรรมการพิจารณาตามแผนยุทธศาสตร์และประเมินภัยคุกคาม ยืนยันว่าการอนุมัติงบฯจัดซื้อนั้นโปร่งใสตรวจสอบได้พท.อัดเอื้อเจ้าสัวตั้งฉายา รบ.กิ้งกือต่อมาเวลา 16.00 น. นายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายพุ่งเป้าโจมตีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ว่า ใช้เงินเป็นแสนล้านใส่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแจกคูปองต่างๆนานา เจ้าสัวรวยกันเป็นแถบ “ดูคล้ายๆนายสมคิดจะเป็นนายกฯ แต่คล้ายๆ พล.อ.ประยุทธ์เป็นเครื่องมือ ส่วนนายสมคิดเป็นตัวแทนเป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนทั้งประเทศ นายสมคิดหายไปสั่งสมประสบการณ์เป็น 10 ปีกลับมาเหมือนมวยสมัครเล่นไม่น่าเชื่อถืออยู่ดีและขยะแขยงมากที่สุดเพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง คล้ายๆรัฐบาลกิ้งกือ” ทำให้นายพรเพชรต้องเตือนห้ามใช้วาจาเสียดสีให้ถอนคำพูด รวมถึง ส.ส.พลังประชารัฐรุมประท้วงให้เลิกให้ร้ายถากถาง จนนายคมเดชยอมถอนคำพูดและระบุว่าสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สินค้าเกษตรทั้งอ้อย ยาง มันสำปะหลัง ข้าวมีราคาทุกตัว ถ้าบริหารจัดการได้จะบริหารห่วงโซ่จัดเก็บภาษีมาบริหารประเทศได้ และขอทิ้งท้ายว่า ขอตั้งชื่อรัฐบาลนี้ว่า “รัฐบาลกิ้งกือ”“วิรัช” วิป 3 ฝ่ายปรับเวลาตีสองจบต่อมาเวลา 16.55 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ลุกขึ้นแจ้งผลการหารือวิป 3 ฝ่ายว่าได้หารือจัดสรรเวลาการอภิปรายกันใหม่ได้ข้อ สรุปว่า เวลาของ ครม.ยังเหลือ 2 ชั่วโมง พรรคร่วม ฝ่ายค้าน 5 ชั่วโมง พรรคพลังประชารัฐ 60 นาที ส่วน พรรคภูมิไทยใจ พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ว.รวม 2-3 ชั่วโมง วิปทุกฝ่ายจะส่งรายชื่อผู้อภิปรายชุดใหม่ให้ประธาน เพื่อจะให้การอภิปรายจบลงภายในเวลา 02.00 น.ฝ่ายค้านยื่นคืนสิทธิให้ “เสรีพิศุทธ์”ขณะที่ด้านนอกห้องประชุมรัฐสภา เมื่อเวลา 17.10 น. 7 ตัวแทนจาก 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกันแถลงข่าวกรณีประธานรัฐสภาไม่อนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขึ้นอภิปรายอีกรอระบุว่าอภิปรายสิ้นสุดไปแล้ว 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงลงนามในหนังสือยื่นให้ประธานรัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เราต้องการปกป้องสิทธิโดยชอบธรรมของสมาชิกในการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ผู้ใดจะไปครอบงำไม่ได้ จึงทำหนังสือส่งไปยังประธานรัฐสภา 3 ประเด็นคือต้องการแจ้งให้ทราบว่าการทำหน้าที่ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นเอกสิทธิ์ ภายใต้กรอบกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะเวลาที่ทุกฝ่ายตกลงกันไว้ขอให้พิจารณาคืนสิทธิหรืออนุญาตให้อภิปรายต่อ จ่อฟ้อง “ชวน” ต่อศาลฎีกานักการเมืองจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แถลงว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ต้องการพูด 3 ประเด็น คือนายกฯไม่สามารถทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาได้แต่มีการประท้วงวุ่นวาย จนประธานฯสั่งให้ตนออกจากห้องประชุมแต่โดยดี เหลืออีก 2 ประเด็นที่ต้องการอภิปราย พอถึงวันที่ 26 ก.ค. ไม่ทราบประธานฯไปพูดหรือตกลงอะไรกับใคร ไม่ให้อภิปราย ทั้งที่เหลือเวลากว่า 35 นาที ตนเคยรับราชการตอนที่นายชวนเป็นนายกฯ ขออะไรมาก็ให้ เคารพนายชวน แต่วันนี้ไม่ใช่นายชวนคนเก่าเป็นนายชวนคนใหม่ แต่ไม่ขอบอกว่าดีหรือไม่ดี เวลาที่เหลืออยู่ไม่มีสิทธิมาตัดสิทธิของตน แล้วมาตัดได้อย่างไร จากนี้จะดำเนินคดีอาญากับประธานรัฐสภาต่อไปต่อศาลฎีกาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละไว้ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วน 2 ประเด็นที่เหลืออยู่จะมอบหมายให้ตัวแทนพรรคอภิปรายกรณีการแถลงนโยบายไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 162 ให้ต้องระบุ แหล่งที่มาของงบฯในการดำเนินนโยบาย และประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามมาตรา 161 ไม่มีข้อความว่า “จะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรทุกประการ”“กิตติศักดิ์” ของขึ้นท้าเดี่ยว “ยุทธพงศ์”ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ยอมรับว่าได้ท้าทายนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เพราะนายยุทธพงศ์ด่ากราดไปหมด เช่น พวกตัวประกอบ 10 บาท ทนไม่ไหว ใจจริงแล้วไม่ได้โกรธเคือง ยังบอกเพื่อนคนอื่นๆด้วยซ้ำว่าให้อดทน แต่เมื่อด่าไม่เลิก ทั้งที่ประธานในที่ประชุมบอกให้ตนหยุดประท้วงกลับมานั่งที่แล้ว แต่ยังไม่หยุดยังเถียงคำไม่ตกฟาก ตนไม่ใช่พระอิฐพระปูนเลยไม่ไหว เลยด่าบ้าง จึงเดินไปบอกว่ามาเดี่ยวกันตัวต่อตัวดีกว่า แต่นายยุทธพงศ์โบกมือไม่เอา คำว่า ส.ส.ขี้ข้าโจรที่พูดนั้นตั้งใจพูดอยู่แล้วเลยบอกว่าไม่ถอนแล้วเดินออกจากห้องประชุมตามข้อบังคับ“บิ๊กตู่” ลั่นต่อไปนี้คุมตำรวจเองขณะที่ในที่ประชุมรัฐสภา เมื่อเวลา 17.45 น. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.อภิปรายทวงถามกรณีกฎหมายสำคัญที่ ครม.ต้องตราขึ้นตามแผนการปฏิรูปประเทศ แต่ไม่มีร่างกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญควรระบุไว้ดีที่สุดคือเร่งนำเสนอร่างกฎหมายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 258 (4) บัญญัติไว้เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา จะทำให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจเป็นไปตามเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนด ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงว่าจากนี้เป็นต้นไป ตนจะเป็นผู้รับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งการปฏิรูปองค์กร บุคลากร วิธีการปฏิบัติงาน ที่มาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิรูปตำรวจให้ชัดเจน แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ตำรวจเป็นต้นทางกระบวนการยุติธรรม แต่จะปฏิรูปตำรวจอย่างเดียวคงไม่พอต้องทำให้ตำรวจ อัยการ ศาลทั้งหมดสอดคล้องกัน จะต้องหารือกันเพื่อให้ดำเนินการได้โดยเร็ว ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ให้ตำรวจได้รับความไว้ใจจากประชาชนมากที่สุด ขณะเดียวกัน ต้องทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจ เพราะในปัจจุบันเกิดความขัดแย้งสูงขึ้น เพราะไม่ว่าจะทำผิดหรือถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจมักตกเป็นจำเลยเสมอ จึงต้องทำให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย“ชลน่าน” ตื๊อขอคืนสิทธิ หน.เสรีรวมไทยต่อมาเวลา 19.00 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นขอหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาในที่ประชุมขอคืนสิทธิให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้อภิปรายรอบ 2 ว่า เพื่อเป็นบรรทัดฐานเพราะการให้ออกจากห้องประชุมถือเป็นโทษเเรงที่สุด ก่อนจะไปถึงจุดนั้นอยากให้ประธานให้โอกาสหรือมีขั้นตอนตามลำดับ อาทิ เกลี้ยกล่อม แจ้งเตือนล่วงหน้าหรือให้สมาชิกขอขมา ก่อนจะให้ออกจากห้องประชุมได้หรือไม่ และที่บอกว่าจะอภิปรายได้อีกครั้งในญัตติต่อไปนั้นกินความกว้างเท่ากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์หมดสิทธิอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อได้“ชวน” เห็นใจแต่ฝืนใจยึดหลักการด้านนายชวนชี้แจงว่าไม่ต้องการตัดสิทธิผู้ใด รู้สึกเห็นใจเพราะมีความผูกพันที่ดี แต่ความผูกพันอาจทำให้หลักการเสียหายต้องฝืนใจ กรณีของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตนติดตามเหตุการณ์แม้ไม่ได้อยู่ทำหน้าที่และมีข้อความที่ให้ถอนคำพูดแต่ไม่ถอน จึงใช้มาตรการตามข้อบังคับ เมื่อออกไปแล้วถือว่าเรื่องผู้อภิปรายก็จบไป จะอภิปรายต่อได้ก็ต่อเมื่อเป็นญัตติในเรื่องอื่นๆเท่านั้น ไม่มีใครอยากให้เกิดต้องยึดหลักการ เพราะไม่ใช่สนามเด็กเล่น ไม่ใช่ที่ที่จะทำเหลวไหลหรือทำอะไรเห็นแก่พวกพ้อง ตราบใดที่ยังเป็นญัตติเดิมไม่สามารถอภิปรายต่อได้ จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ลุกขึ้นขอแสดงความคิดเห็น แต่นายชวนไม่อนุญาตและดำเนินการประชุมต่อทันที “บิ๊กป๊อก” แจงลูกชายไม่ได้วิ่งประมูลขยะเมื่อเวลา 19.30 น. นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า หลายนโยบายของรัฐบาลไม่สามารถทำได้จริง เช่น การจัดการขยะมูลฝอย เพราะแม้ในรัฐบาล คสช.ยังจัดการไม่ได้ จะก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตเชิงนโยบาย มีเสียงลือว่าทายาทเสนาบดีในรัฐบาลนี้เข้าไปเจรจาเพื่อเป็นตัวกลางในการจัดการขยะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงว่ารัฐบาลยืนยันจะตรวจสอบและหาผู้กระทำความผิดหรือการทุจริตต่างๆ “สำหรับลูกชายผมหลายเดือนมาแล้วมีการบอกว่าลูกชายผม เขาเป็นนักธุรกิจไปวิ่งเต้นเพื่อจะบริหารจัดการขยะที่ภูเก็ต ผมเคยบอกลูกชายแล้วว่าอย่าทำธุรกิจกับภาครัฐ ยืนยันว่าเขาไม่ได้ไปคุยกับ ผวจ.ภูเก็ตเพื่อให้ได้งาน ไปถาม ผวจ.ได้ ยืนยันว่าลูกชายผมไม่ได้ไป ไม่ใช่แน่นอน ยืนยันว่าไม่มี ไม่มีทุจริตเชิงนโยบายแน่นอน”“ทักษิณ” ฉะทหารยุคนี้ขาดลูกผู้ชายอีกเรื่อง เมื่อเวลา 12.00 น.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์นายจอม เพชรประดับ อดีตผู้ประกาศข่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์จากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปยังงานปาร์ตี้ของกลุ่มคนไทยผู้รักประชาธิปไตยที่ฉลองวันเกิด 70 ปีให้นายทักษิณที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกาว่า ขอบคุณและประทับใจกับคำอวยพรที่มีคุณค่ามากที่สุด 13 ปีแล้วที่ออกมาต้องรักษาสุขภาพกายสุขภาพจิตให้แข็งแรง อีกฝั่งจ้องทำลายเราต้องเอาสิ่งที่บวก มาเป็นกำลังใจ เอาสุขมาบ่มอย่าบ่มทุกข์มากไป ต้องอยู่ให้เป็นให้มีคุณค่า 70 ปีแข็งแรงดีทุกวันนี้คิดอย่างเดียวเป็นหนี้บุญคุณประชาชนที่สนับสนุน เลือกตั้งทีไรชนะตลอดแม้จะถูกโกงก็ตาม ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ด้วยกันแต่อยู่คนละบ้าน เมื่อถามว่า จะวางมือทางการเมืองหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า มือวางตลอดไม่ได้มีบทบาทได้แต่ให้กำลังใจ เรื่องการเมืองมีคนทำหน้าที่อยู่แล้วทั้งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคเพื่อไทย เป็นดีเอ็นเอที่ก่อตัวตั้งแต่ไทยรักไทย แต่ตนไม่เคยเห็นทหารยุคไหนขาดความเป็นลูกผู้ชายเหมือนยุคนี้แขวะเก่งไม่กลัวกลัวหน้าด้านนายทักษิณกล่าวต่อว่า การชนะแบบให้กติกา ให้กรรมการ ให้คนโกงช่วยมันไม่เท่ เอาแบบชัดๆ ตนเป็นคนไทยยังมีหัวใจคนไทยคิดตลอดว่า จะทำหน้าที่ช่วยคนไทยและประเทศไทย แต่จะไม่ปกป้องตัวแทนที่ไม่ดีและไม่เก่ง เหมือนบริษัทที่จะต้องสรรหาคนดีคนเก่งมาทำงาน แต่นี่อยู่ๆเราไปจับหัวหน้ายามมาเป็นซีอีโอ เมื่อถามว่า จะได้กลับประเทศไทยเมื่อไหร่ นายทักษิณตอบว่า “ไม่ทราบผมต้องจุดธูป” เมื่อถามถึงการอภิปรายของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯในการแถลงนโยบายรัฐบาล นายทักษิณ ตอบว่า ที่ผ่านมามีการบิดเบี้ยวกฎหมายความยุติธรรมหายไป ออกกติกากฎหมายรังแกคน ใช้กฎหมายด้วยการรังแก เริ่มต้นด้วยการตีความหน้าด้านๆ เก่งไม่กลัวแต่กลัวความหน้าด้าน สำคัญคือเราไม่หน้าด้านเท่าเขา ถ้าจะให้หน้าด้านมุดรูดีกว่า วันนี้อยากได้กติกาที่เป็นกลาง กรรมการที่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพอย่าเอาคนตะแบงหน้าด้านมาออกกติกา ถ้ายังปล่อยให้ทำกันอย่างนี้สุดท้ายคือความขัดแย้ง ฝากผู้มีอำนาจถ้าไม่รักประชาชนอยู่ยากได้ข่าวว่าจะให้คนจนเสียภาษีอีก ถามว่าตกลงจะเป็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการ การเมืองไทยมีเปรตและเทวดาถึงเวลาที่เราต้องเป็นมนุษย์ที่แข็งแรงมีสิ่งสะอาดมากกว่าสิ่งสกปรก ถ้ามีเชื้อโรคเยอะจะตายเร็ว รัฐบาลต้องใจกว้างฟังการตำหนิรบ.อยากได้สูตรแก้ ศก.ถามได้ไม่หวงต่อข้อถามว่า ที่ผ่านมาฝ่ายประชาธิปไตยสู้กับเผด็จการแล้วจะแพ้ตลอด นายทักษิณตอบว่า ตนต้องมาอยู่ต่างประเทศเพราะซื่อบื้อไม่เข้าใจการเมืองประชาธิปไตยของพวกอีลิตในกรุงเทพฯ ต้องให้คนฉลาดหาทางออก ถ้าโง่ก็จนกันทั้งประเทศ อย่าคิดว่าจะเอากะลามาครอบแล้วให้อยู่นิ่งๆ วันเกิดอยากให้คนไทยสามัคคีได้รัฐบาลไม่กดขี่จิตใจประชาชน และหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์คงเปลี่ยนสไตล์ได้ จำไว้ว่าสูตรเศรษฐกิจสมัยไทยรักไทย ใช้ตอนนี้ไม่ได้ โรคไม่เหมือนกันใช้ยาเม็ดเดิมไม่หาย ถ้าอยากได้ยาเม็ดใหม่ถามตนได้ยินดีไม่เคยหวงวิชา จะมาเที่ยวด่ากันไม่มีประโยชน์ เมื่อถามว่า หากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกจะโทร.มาปรึกษาได้หรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ยินดีรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆมีอะไรโทร.มาถามได้แฮปปี้ฉลองกับครอบครัวผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานวันเกิดของนายทักษิณปีนี้ มีแต่ครอบครัวลูกหลานที่บินไปร่วมฉลองที่นครดูไบ เนื่องจากนักการเมืองและ ส.ส.ติดการประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาล ก่อนหน้านี้นายทักษิณได้บอกว่าไม่ต้องบินไปร่วมงานเนื่องจากสถานที่ที่ดูไบ คับแคบไม่สะดวก“บิ๊กตู่” หูทวนลม “แม้ว” เหน็บทหารเมื่อเวลา 14.55 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เดินทางกลับมาเข้าร่วมประชุมรัฐสภาอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ยินคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พาดพิงถึงทหารแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ไม่ได้ยิน” เมื่อถามว่า วันนี้ทำไมดูหน้าเครียดจัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ไปทำงานมาไงล่ะ”เพจเชียร์ “ลุงตู่” แจงนาฬิกาหรูผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเพจเฟซบุ๊ก CSI LA ได้โพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมในช่วงที่แถลงนโยบายวันที่ 25 ก.ค. เน้นไปที่ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกายี่ห้อดัง และมีอีกภาพเป็นนาฬิการุ่นดังกล่าวพร้อมข้อความ “นาฬิกาเรือนนี้ท่านได้แต่ใดมา เมื่อวานนี้เซียนนาฬิกาเห็นลุงตู่ใส่ Patek Philippe รุ่น Aquanaut 5164A-001 เรือนละ 2.1 ล้านบาท อยากทราบว่าลุงตู่ได้มาจากไหนได้แจ้งทรัพย์สินไหมที่อ้างอิงราคา” ต่อมาเพจเฟซบุ๊กลุงตู่ตูนที่เชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ได้โพสต์ภาพนาฬิการุ่นดังกล่าว ประกอบเอกสารแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.พร้อมข้อความ “ดูชัดๆนายกฯลุงตู่แจ้งบัญชีทรัพย์สินถือครองนาฬิกาต่อ ป.ป.ช.แล้ว แต่ราคาอาจจะสูงขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด”กกต.ขยายเวลาค้านคดีหุ้น “ธนาธร”ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์กรณี กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอขยายเวลาจัดทำคำคัดค้านคำชี้แจงของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปมถือหุ้นสื่อบริษัทวี-ลัค มีเดียจำกัด ว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติขยายเวลาให้ กกต.อีก 15 วัน และจะครบกำหนดวันที่ 7 ส.ค. หาก กกต.ดำเนินการเสร็จก่อนครบกำหนดเวลาจะรีบยื่นคำคัดค้านไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่ชักช้า เหตุที่ขอขยายเวลา เนื่องจากเห็นว่ายังมีบางประเด็นที่ต้องทำคำคัดค้านไป ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ทำตามข้อเท็จจริงข้อกฎหมายเมื่อยื่นคำร้องเข้ามาหากเห็นว่ามีมูลจะให้สำนักงานตรวจสอบหาหลักฐานก่อนจะเสนอที่ประชุม กกต.พิจารณา ทุกคำร้องก่อนที่ กกต.จะพิจารณาต้องมั่นใจว่ามีข้อมูลหลักฐานเพียงพอ