การจัดอันดับ 500 ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์หรือคอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลได้ทรงพลังที่สุดในโลกทุกๆ 6 เดือนล่าสุด ปรากฏซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จากสหรัฐอเมริกาปาดหน้าจีน คว้าที่ 1 และ 2 ไปครอง ส่วนซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จากจีนร่วงลงไปอยู่อันดับ 3สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า จากการจัด อันดับ 500 ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ล่าสุด ปรากฏซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จากสหรัฐอเมริกา “ซัมมิท” (Summit) ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ สร้างโดยไอบีเอ็ม ครองอันดับ 1 ด้วยประสิทธิภาพความเร็วในการประมวลผล 200 petaflops-200 quadrillion ต่อ 1 วินาทีส่วนซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับ 2 มีชื่อแสนน่ารักว่า “เซียร่า” (Sierra) ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ และสร้างโดยไอบีเอ็มเช่นกัน ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของคอมพิวเตอร์จากจีนแชมป์เก่า Sunway TaihuLight ของศูนย์ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติจีน สร้างโดย NRCPCบีบีซี รายงานอีกว่า การจัดอันดับครั้งนี้ ยังนับเป็นครั้งแรกที่คอมพิวเตอร์ 3 อันดับแรกมีความสามารถในการประมวลผลในระดับ petaflops ขึ้นไปทั้งหมด โดย 1 petaflops เท่ากับความสามารถในการประมวลคำสั่งได้ 1,000 ล้านล้านคำสั่งต่อ 1 วินาทีอย่างไรก็ตาม แม้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีนจะสูญเสียอันดับ 1 ไป แต่จีนยังคงเป็นประเทศที่ครอบครองซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในจำนวนมากที่สุดคือ มีอยู่ 219 เครื่อง ร่วงลงจาก 227 เครื่องขณะที่จำนวนซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จากสหรัฐอเมริกามีมากเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 116 เครื่อง เพิ่มขึ้นจาก 109 เครื่อง ส่วนอังกฤษมีซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังติด 500 อันดับแรกของโลกอยู่ 18 เครื่อง เท่ากับฝรั่งเศส ซึ่งมี 18 เครื่องเช่นกัน ขณะที่ญี่ปุ่น มีอยู่ 19 เครื่อง เพิ่มจากอันดับงวดก่อน 1 เครื่อง และเยอรมนีที่ 14 เครื่องบีบีซี รายงานว่า ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ขุมพลังมหาศาลดังกล่าว ส่วนใหญ่มีไว้เพื่อใช้งานหลากหลาย อาทิ การออกแบบเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ไปจนถึงการทดลองระบบโครงข่ายประสาทเทียมการจัดอันดับล่าสุดยังพบว่า เมื่อรวบรวมขุมพลังของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ทั้ง 500 เครื่องเข้าไว้ด้วยกัน ความสามารถในการประมวลผลจะสูงถึง 1.56 exaflops หรือทำงานได้ประมาณ 1,500 ล้านล้านล้านคำสั่งต่อ 1 วินาทีความสามารถดังกล่าว สูงขึ้นกว่าพลังของ 500 ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งถูกจัดอันดับเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา 10% โดยเมื่อ 6 เดือนที่แล้วมีความสามารถในการประมวลผลที่ 1.14 exaflopsอย่างไรก็ตาม คาดว่าประสิทธิภาพของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในปี 2564 จะขยับสูงขึ้นอีก เนื่องจากสหรัฐอเมริกากำลังสร้างซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่ชื่อฟรอนเทียร์ (Frontier) และออโรร่า (Aurora) ซึ่งแต่ละเครื่องจะประมวลผลได้ในระดับ 1 exaflops ต่อ 1 วินาทีขึ้นไป.