การเมืองเมืองจีน ตั้งแต่ยุคตำนานกว่าสี่พันปี มาถึงยุคราชวงศ์ชิง สอง-สามร้อยปี ช่วงเวลาฮ่องเต้คังซี หย่งเจิ้น เฉียนหลง... ซึ่งมีเรื่ององค์ชาย 4 องค์ชาย 14 ชิงอำนาจกันเอง สนุกถูกใจ ไม่มียุคใดเหมือนหนังก็ทำทั้งเป็นหนังใหญ่ เป็นซีรีส์ คนไกลตัวใกล้ตัว ก็กำลังติดพันกันอยู่จนเมื่ออ่าน แลหลังแดนมังกร (นานมีบุ๊คส์ ถาวร สิกขโกศล แปล พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2542) ถึงเล่ม 8 ราชวงศ์ชิง จึงรู้ว่า ปลายราชวงศ์ชิง สมัยซูสีไทเฮา ไปจบที่ หยวนซื่อไข่ ถึง ซุนยัดเซน สนุกสะใจใกล้ตัวกว่าลองชิมลางกันด้วย เรื่อง ปฏิรูปร้อยวัน กันดูก่อนมีนาคม พ.ศ.2432 ซูสีไทเฮา ถวายพระราชอำนาจคืนกวงซู่ฮ่องเต้ เสด็จประทับที่พระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวน ดูประหนึ่งไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง แต่โดยเนื้อแท้ทรงยังกุมอำนาจขุนนาง ขุนทหารน้อยใหญ่ ล้วนขึ้นตรงคอการเมืองเรียก “พรรคไทเฮา”ฮ่องเต้กวงซู่ รู้ทันไทเฮา ขณะกังวลถึงความเสื่อมโทรมในราชสำนัก และวิตกการรุกรานจากต่างชาติ จึงทรงคิดแก้ไข ทรงมีพระอาจารย์วงถงเหอ และคนหนุ่มหัวก้าวหน้าไม่กี่คนคอการเมืองเรียก “พรรคฮ่องเต้”พ.ศ.2438 มีข่าวลงนามสนธิสัญญาชิโมโนเซกิ จีนเสียเปรียบญี่ปุ่น คังอิ่วหวุนกับบัณฑิตจากหลายมณฑลจีน กำลังสอบจิ้นสื่อ (อันดับ 1 เป็นจอหงวน) ชักชวนเพื่อนลงชื่อถวายฎีกา ให้แก้ปัญหาต่างๆโดยด่วนเขาถวายฎีกาหลายครั้ง ขอให้ฮ่องเต้พระราชทานรัฐธรรมนูญ พัฒนาการเกษตร ฯลฯ ยกเลิกระบบจอหงวนฮ่องเต้กวงซู่ อยากหลุดพ้นอิทธิพลซูสีไทเฮา จึงเรียกใช้ คังอิ่วหวุน อาศัยพระราชอำนาจปฏิรูปการเมือง ด้วยการออกหนังสือพิมพ์หลายฉบับ รณรงค์แนวคิดปฏิรูปขุนนางหัวอนุรักษ์พรรคไทเฮา สุมหัวคัดค้าน การปฏิรูป คือ “การสิ้นชาติ” ซูสีไทเฮาสั่งปิดหนังสือพิมพ์ แต่การปฏิรูปก็ยังเดินหน้า11 มิ.ย.2441 ฮ่องเต้ประกาศปฏิรูปการเมือง ตั้งการรถไฟ เหมืองแร่ หนุนอุตสาหกรรม ยกเลิกสอบจอหงวน ตั้งโรงเรียนตั้งมหาวิทยาลัย เตรียมตั้งรัฐสภา และพระราชทานรัฐธรรมนูญสี่วันต่อมา ซูสีไทเฮาสั่งฮ่องเต้กวงซู่ ปลดวงถงเหอออกจากสมุหกลาโหม ขับออกจากปักกิ่ง ตัดขาดการติดต่อกับราชสำนัก เริ่มแผนบีบฮ่องเต้ฝ่ายปฏิรูปพรรคฮ่องเต้ ไม่มีกำลังทหาร เสนอใช้หยวนซื่อไข่ ผู้มากบารมีรับมือไทเฮา แต่หยวนซื่อไข่ตีสองหน้า เอาความลับไปทูล ซูสีไทเฮา เลื่อนให้หยวนซื่อไข่ เป็นใหญ่ในกองทัพสั่งจับฮ่องเต้ กักไว้มาเกาะกลางทะเลจำลอง ในพระราชอุทยาน3 วันต่อมา ทีมปฏิรูปการเมือง ก็ถูกจับประหาร ครบร้อยวัน ปิดฉากการปฏิรูปการเมืองผมอ่านเรื่องฮ่องเต้กวงซู่ ปฏิรูปร้อยวัน พอดีฟังดอกเตอร์คนหนึ่งวิจารณ์การปฏิรูปการเมืองเมืองไทย ที่ใช้เวลาห้าปี ยังไปไม่ถึงไหน หลายผู้รู้หัวเราะ ตั้งคำถามปฏิรูปแบบไทยๆ มีคำเรียกอื่น ที่ลงตัวกว่าหรือเปล่าผมใช้วิชานักธรรมชั้นตรี เณรน้อยที่ท่องนวโกวาท ถึงข้อมิตรปฏิรูป หรือมิตรเทียม ก็ตอบได้ก็ใช้ “ปฏิรูป” คำเดิมนั่นแล...เพียงแต่ย้ายคำปฏิรูปไปไว้หลัง จากคำปฏิรูปการเมือง เมื่อเป็น “การเมืองปฏิรูป” ปฏิรูปคำนี้ ก็จะมีความหมายตรงข้าม แปลว่า การเมืองปลอมๆงานปฏิรูปการเมืองทำกันมานาน อย่างที่ฮ่องเต้กวงซู่ทำ เพียง แต่คณะปฏิรูปของแท้นั้น มักมีเหตุล้มหายตายจาก...กะทันหัน ที่ยังเห็นๆหน้ากัน ผมก็ได้แต่กลั้นใจเตือน ระวังตัวไว้ให้ดี.กิเลน ประลองเชิง