ตำรวจระบุคนร้ายผิวสีชาวแอฟริกาใต้ หนีไปฮ่องกงแล้ว หลังฆ่าทุบหัวชิงทรัพย์สาวนักธุรกิจซื้อขายจิวเวลรีในโรงแรมย่านลาดพร้าว 130 เผยคนร้ายรู้จักคุ้นเคยผู้ตายดี เลยนัดมาก่อเหตุ ได้ทรัพย์สินทั้งสร้อยคอ แหวนเพชร เงินสด และงานจิวเวลรีที่เตรียมส่งมอบให้ลูกค้า รวมมูลค่า 7 แสนบาท ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอยู่ระหว่างประสานข้อมูลอินเตอร์โพล ตามตัวมาดำเนินคดีในไทยกรณี น.ส.ศุษมา รื่นฤทธิ์ อายุ 35 ปี สาวนักธุรกิจซื้อขายจิวเวลรี ถูกคนร้ายคาดว่าเป็นนายเอ็มวัคเค่ เมียร์มีลา อายุ 38 ปี ชาวแอฟริกาใต้ ทุบศีรษะเสียชีวิต ภายในห้องเลขที่ 616 ชั้น 6 โรงแรมวาบัว แอสโซเทลชั่น ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ก่อนผู้ก่อเหตุจะหลบหนี ทั้งนี้ชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว อยู่ระหว่างเร่งตามตัวนายเอ็มวัคเค่มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมประสานตำรวจ สตม.เฝ้าระวังการเดินทางออกนอกประเทศ ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 25 มี.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิต ประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจซื้อขายจิวเวลรี ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจกับครอบครัวผู้ตาย ขณะนี้ยังไม่ทราบประเด็นการก่อเหตุครั้งนี้ อาจเป็นเรื่องธุรกิจหรือส่วนตัว อยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมหลักฐาน ด้านการติดตามคนร้ายนายเอ็มวัคเค่ เมียร์มีลา หลังศาลออกหมายจับ ได้สั่งการให้ตำรวจสตม.เฝ้าระวังปิดช่องทางออกนอกประเทศทั้งหมด กระทั่งพบข้อมูลนายเอ็มวัคเค่เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปแล้วตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค. ปลายทางฮ่องกง ต่อจากนี้จะประสานงานไปที่ฮ่องกงตามระบบอินเตอร์โพล อาจต้องใช้เวลาในการติดตามตัวมาดำเนินคดีที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. นายประพฤติ รื่นฤทธิ์ อายุ 63 ปี บิดาของผู้ตาย พร้อมครอบครัวเดินทางมารับศพ น.ส.ศุษมา รื่นฤทธิ์ อายุ 35 ปี นักธุรกิจค้าอัญมณี ใน จ.กาญจนบุรี หลังถูกคนร้ายฆาตกรรม นายประพฤติเปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ก่อนเกิดเหตุบุตรสาวไม่ได้เล่าเรื่องราวหรือปัญหาอะไรให้ฟัง รวมทั้งไม่มีลางบอกเหตุ ได้ยินเพียงบุตรสาวพูดถึงลูกค้าคนหนึ่งว่าเป็นลูกค้าเก่าสั่งซื้อของเพิ่มเติมเท่านั้น แต่ไม่ได้สนใจเพราะได้มอบกิจการให้ลูกสาวเป็นผู้ดูแลทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นพบบุตรสาวถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบบริเวณศีรษะ มีบาดแผลฉกรรจ์ มีพยานหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมและพยานแวดล้อม สำหรับผลการชันสูตรแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากถูกของแข็งทุบตีเข้าที่ศีรษะ เตรียมนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นเวลา 3 คืนและจะฌาปนกิจศพในวันที่ 28 มี.ค.มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุฆาตกรรม น.ส.ศุษมา รื่นฤทธิ์ อายุ 35 ปี นักธุรกิจซื้อขายจิวเวลรีในจ.กาญจนบุรี ตำรวจชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขอศาลออกหมายจับนายเอ็มวัคเค่ เมียร์มีลา อายุ 38 ปี ชาวแอฟริกาใต้ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ สอบพยานเป็นเพื่อนสาวผู้ตายระบุยืนยันตัวคนร้ายคือนายเอ็มวัคเค่ ทั้งคู่ติดต่อกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยสามีผู้ตายที่เป็นชาวไนจีเรียไม่รู้เรื่อง ก่อนหน้านี้นายเอ็มวัคเค่เคยลักเงินสด 20,000 บาทของผู้ตายมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ผู้ตายให้อภัย ซ้ำยังคบหากันต่อ กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าโหดครั้งนี้ เบื้องต้นพบคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท 2 เส้น แหวนเพชร 2 วง เงินสด 5 หมื่นบาท และงานจิวเวลรีที่นำมาส่งให้ลูกค้ามูลค่าประมาณ 2 แสนบาท รวมทรัพย์สินทั้งหมดที่คนร้ายได้ไปประมาณ 700,000 บาท ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ต้องหาเห็นว่าผู้ตายชอบใส่ทรัพย์สินมีค่าและพกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมาก จึงวางแผนลวงมาสังหารภายในห้องพักดังกล่าว โดย ใช้ฝาครอบถังน้ำชักโครกที่เป็นกระเบื้องเคลือบหนา กระหน่ำตีศีรษะจนเสียชีวิต ก่อนลักทรัพย์สินหลบหนี