มะเร็งเต้านมถือเป็นลำดับต้นๆของมะเร็งที่เกิดกับสตรี หากตรวจพบในระยะเริ่มแรกเชื้อมะเร็งยังไม่แพร่กระจาย การรักษาอาจแค่ผ่าตัดหรือรักษาด้วยฮอร์โมน ทว่าทุกวันนี้ผู้ป่วยก็ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของการรักษาด้วยฮอร์โมน HER–2 positive แต่การรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือคีโมเธอราปี (Chemotherapy) ตัวยาที่นำมาใช้เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งก็สามารถทำลายเซลล์ที่ดีบางตัวได้เช่นกัน นักวิจัยจึงพยายามพัฒนาหาวิธีรักษาที่จะหลีกเลี่ยงเคมีบำบัด เพื่อไม่ให้ยาเคมีก่อผลเสียต่อร่างกายเมื่อไม่นานนี้มีการทดสอบผู้ป่วย 10,273 รายด้วยวิธี Oncotype Dx คือการใช้ตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อตรวจวัดการทำงานของยีน (gene) 21 ชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของเซลล์และตอบสนองต่อการรักษาด้วยฮอร์โมน วิธีนี้จะช่วยในการตัดสินใจว่าจะรักษาผู้ป่วยด้วยเคมีบำบัดหรือไม่ เช่น หากคะแนนการเกิดซ้ำสูงกว่า 25 หมายความว่าการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้มะเร็งกลับมา ในขณะที่คะแนนต่ำกว่า 10 หมายถึงว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้วิธีดังกล่าวจากการวิจัยพบว่า สตรี 17% มีคะแนนความเสี่ยงสูงและได้รับการแนะนำให้ทำเคมีบำบัด และมี 16% ที่มีคะแนนความเสี่ยงต่ำ ดังนั้น กลุ่มนี้ สามารถข้ามการใช้เคมีบำบัด นักวิทยาเนื้องอก (oncologist) จากศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยโลโยลา ในเมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา เผยว่าการวิจัยใหม่นี้ชี้ให้เห็นหนทางที่ช่วยให้ 70% ของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมสามารถหลีกเลี่ยงการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการทดสอบทางพันธุกรรม.
