ขงจื๊อ อายุ 52 ปี ได้ตำแหน่งนคราภิบาล นครจงตู ทำงานไปไม่ถึงสามปี ชาวเมืองจงตูก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั้งทางว่านอนสอนง่าย ทั้งความมีความสุขสงบเสมอหน้า(9 พุทธ 9 เต๋า 9 เซ็น เสฐียรพงษ์ วรรณปก สำนักพิมพ์ มติชน 2558)เจ้าผู้ครองรัฐลู่เลื่อมใสก็ส่งคนไปเชิญขงจื๊อมาถาม “ทราบว่า ท่านได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองเมืองจงตูหลายประการ ท่านใช้วิธีอันใด”ขงจื๊อตอบเป็นหลักการสั้นๆ “ข้าพเจ้าข่มผู้ควรข่ม ยกย่องผู้ควรยกย่อง” แล้วอธิบายต่อ “เมื่อชาวเมืองเห็นว่าการทำดีได้ผลดีจริง การทำชั่วได้รับผลชั่วจริง จึงพากันทำดีและคนดีก็ย่อมซื่อสัตย์ต่อกันและต่อรัฐบาล”เจ้าผู้ครองรัฐลู่ เลื่อนตำแหน่งให้ขงจื๊อ เป็นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมและมอบหมายให้เริ่มทำงาน ขงจื๊อเริ่มศึกษา ปัญหาด้านคุกตะรางแล้วก็เริ่มปฏิบัติการเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้พิพากษา นักกฎหมาย และพัศดีเขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าพบว่า นักโทษเกือบทั้งหมดเป็นคนจน ไร้การศึกษา ความจนและความไร้การศึกษาเป็นสาเหตุก่ออาชญากรรมเพราะฉะนั้น ถ้าเรากำจัดความโง่เขลา และความจนได้ บ้านเมืองของเราก็จะเจริญและสงบสุข”ขงจื๊อชี้วิธีกำจัดความโง่เขลา ด้วยการให้การศึกษาประชาชนโดยทั่วถึง วิธีกำจัดความจน สนับสนุนให้ประชาชนประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นพลเมืองดีของชาติขงจื๊อบรรยายมาถึงตอนนี้ ผู้พิพากษาท่านหนึ่ง ถามว่า“เราจะเริ่มต้นตรงไหน เพื่อทำให้ประชาชนซื่อสัตย์ และเป็นพลเมืองดี”“เริ่มต้นที่ตัวท่านทั้งหลายนี่แหละ” ขงจื๊อตอบ “ท่านทั้งหลายเป็นผู้ปกครอง ถ้าผู้ปกครองเลว ประชาชนก็จะเลวตาม ถ้าผู้ปกครองดี ประชาชนก็จะดีตาม”สรุปกฎเกณฑ์แรกของการเป็นคนดีก็คือ อยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อตนอย่างไร จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างนั้นเรื่องกฎเกณฑ์ของการเป็นคนดีหรือจะพูดว่า วิธีที่รัฐจะจัดการกับราษฎร...อาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก เขียนไว้เป็นเรื่องที่ 9 ในภาค 9 เต๋า ส่วนเรื่องวิธีที่ราษฎรจะเลือกจัดการกับรัฐนั้น อาจารย์เสฐียรพงษ์เขียนไว้ในเรื่องที่ 5 ชื่อเรื่อง ร้ายกว่าเสือสมัยหนึ่งขงจื๊อพาคณะศิษย์เดินทางไปรัฐชี้ ผ่านป่าใหญ่เชิงภูเขาไท้ซัว ได้ยินเสียงสตรีนางหนึ่งร่ำไห้แว่วมาแต่ไกล จึงสั่งให้จื๊อกุง ศิษย์คนหนึ่ง เดินเข้าไปถามหาสาเหตุ“น้าชายฉันถูกเสือกัดตายไปเมื่อไม่นาน ต่อมาสามีฉันก็ถูกเสือกิน วันนี้เจ้าเสือวายร้ายมันก็คาบเอาลูกชายฉันไปอีกคน”“แล้วทำไมท่านไม่ย้ายหนีไปอยู่ที่อื่น” จื๊อกุงถาม “ฉันย้ายไม่ได้” สตรีนั้นตอบ“เหตุที่ย้ายไม่ได้ เพราะในป่าแห่งนี้ไม่มีรัฐบาลเผด็จการกดขี่ข่มเหง”วิธีจัดการกับรัฐบาลที่ไม่ดี สำหรับราษฎรนั้นคงไม่มีทางอื่น นอกจากหนีเรื่องเล่าทำนองว่าอยู่กับเสือยอมให้เสือกัดตายในป่า ดีกว่าอยู่กับรัฐบาลที่กดขี่ ฟังเมื่อไหร่ก็ฟังได้ไม่เบื่อส่วนจะหัวเราะกันได้ดังมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่า เรากำลังคุยอยู่กับใคร ถ้าอยู่ใกล้ทหารไม่คุยเสียได้น่าจะเป็นเรื่องดี.กิเลน ประลองเชิง