“กล้วยตากกุ่มทองของเราได้รับการคัดสรรเป็นของว่างขึ้นเสิร์ฟบนเครื่องบินของการบินไทย จนวันนี้ได้ก้าวหน้าไปถึงขั้นสามารถส่งออกไปจีน อังกฤษ และยุโรป ได้อย่างภาคภูมิใจ มียอดขายได้ปีละนับล้านบาท ด้วยผลมาจากการทำงาน”คะนอง โปรักษ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านกุ่มพัฒนา อ.บางแพ จ.ราชบุรี เล่าว่า ชาวชุมชนบ้านกุ่มพัฒนา เป็นหมู่บ้าน การเกษตรที่ส่วนใหญ่เคยทำอาชีพเลี้ยงโคนม แต่ประสบปัญหาต้นทุนสูง และขาดแรงงาน จึงมีการรวมกลุ่มแม่บ้านเพื่อทำอาชีพเสริมสร้างรายได้ เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านกุ่มพัฒนาขึ้นในปี 2549 เมื่อมาค้นหาพันธุ์พืชที่เป็นของดี ประจำถิ่น พบว่า กล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่อง คือสมบัติอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้ทิ้งไว้ให้ “ไม่ได้ทิ้งไว้เฉพาะพันธุ์กล้วยมะลิอ่อง แต่ให้ไว้พร้อมกรรมวิธีการเก็บบ่ม รักษา และแปรรูปออกมาเป็นกล้วยตาก ตามภูมิปัญญาโบราณ คนแก่รุ่นปู่ย่า ตา ทวด ที่บันทึกไว้ถึงคุณลักษณะของกล้วยมะลิอ่องว่า เมื่อสุกจะมีสีสวย กลิ่นหอม เนื้อนุ่มแน่น ผลขนาดกลางๆ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เหมาะทำกล้วยตาก แถมมีความหวานในตัวอยู่แล้ว แต่วิธีการจะทำให้เกิดน้ำหวานต้องมีจังหวะ มีระยะเวลาในการหมักให้เกิดน้ำผึ้ง หรือไซรัปกล้วย”จึงนำเอาภูมิปัญญาจากคนรุ่นเก่ามาผนวกกัน สร้างกล้วยตากมะลิอ่องที่มีลักษณะเฉพาะตัว ผนวกด้วยการทดลอง การสังเกต ใช้ทักษะ และประสบการณ์ โดยจะต้องตากในอุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 50ํC แล้วนำกล้วยไปหมักในที่มิดชิด 6-8 ชั่วโมง ให้น้ำผึ้งในกล้วยซึมออกมา ไปทำปฏิกิริยาเพื่อย่อยเนื้อกล้วย ทำให้เนื้อนิ่ม ด้านในไม่เป็นโพรงและไส้ไม่แข็งนี่คือ...จุดแข็งของกล้วยตากกุ่มทองที่ไม่เหมือนของใคร จากนั้นนำมาตากอีก 2-3 แดด ประมาณ 3-4 วัน ให้ความชื้นในกล้วยออกมา กลายเป็นกล้วยตากที่มีความหวานตามธรรมชาติ ที่เกิดจากการบ่มในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ได้รสชาติอร่อยกำลังดี และไม่เลี่ยน ทำให้ผ่านการคัดเลือก จากผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารการบินไทย ให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน เสิร์ฟบนเครื่องการบินไทย แล้วต่อยอดออกสู่ตลาดโลกส่วนวิธีการบริหารงานในกลุ่มวิสาหกิจฯ คะนอง บอกว่า ใช้หลักการไม่เอาเปรียบสมาชิก จะรับซื้อกล้วยสูงกว่าพ่อค้าคนกลางเท่าตัว อยู่ที่ลูกละ 1-1.5 บาท ในแต่ละปีกว่า 2-3 ล้านบาท และเตรียมขยายกำลังผลิตให้ได้ 2,000 ห่อต่อวัน โดยในห่อมีกล้วยตาก 2 ลูก สนนราคาขายเพียง 10 บาทเท่านั้นสนใจเข้าเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้เกษตรครบวงจร ติดต่อได้ที่ 08-1207-9796.ไชยรัตน์ ส้มฉุน