กรณีที่ นายเจเรมี่ทัน ชองบูน อายุ 34 ปี ชาวอังกฤษ ร้องเรียน ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวน สภ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรื่องขับรถชนคนได้รับบาดเจ็บ พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงว่า ตรวจสอบในคดีพบว่า นายเจเรมี่ทัน ขับรถยนต์ส่วนตัวมาตามถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าจังหวัดนครศรีธรรมราชมีภรรยานั่งคู่มาเบาะหน้าซ้ายถึงที่เกิดเหตุ ขณะขับอยู่ในช่องขวา นายพงษ์ สุขเสดาะ อายุ 85 ปี ขับรถ จยย.ข้ามสะพานไม้ในร่องกลาง แบ่งถนนเพชรเกษมขึ้นมาตัดหน้า นายเจเรมี่ทัน หักรถหลบไปในช่องซ้าย โดยไม่ได้เบรกหรือห้ามล้อรถและรถได้เฉี่ยวชนนายพงษ์ บาดเจ็บสาหัส พนักงานสอบสวนได้ตรวจดูภาพเคลื่อนไหวจากกล้องติดหน้ารถกับติดหลังรถที่นายเจเรมี่ทัน ขับมาเห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นจากประมาททั้งสองฝ่ายพนักงานสอบสวนนัดนายเจเรมี่ทัน กับฝ่ายบุตรนายพงษ์ มาเจรจาเรื่องค่าสินไหมทดแทนกัน 2 ครั้ง นายพงษ์ไม่ติดใจเรียกค่าเสียหาย ทั้งไม่ยอมรับเงินส่วนตัว 5,000 บาท ที่ฝ่ายนายเจเรมี่ทันนำมามอบให้ พนักงานสอบสวนนัดนายเจเรมี่ทันมอบตัวเพื่อดำเนินคดี นายเจเรมี่ทัน เข้าใจข้อกล่าวหาและรับสารภาพ ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับในชั้นสอบสวน พนักงานอัยการได้ฟ้องนายเจเรมี่ทันต่อศาล โดยชั้นศาลรับสารภาพจากข้อเท็จจริงเห็นว่า พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และมีความเห็นทางคดีไปตามพยานหลักฐาน โดยไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งฝ่ายใด กล้องติดหน้ารถและถอยหลังนายเจเรมี่ทัน ขณะเกิดเหตุนายพงษ์ขับรถ จยย.ขึ้นมาบนถนนในระยะห่างไม่น้อยกว่า 15-20 เมตรแต่ไม่เบรกหรือห้ามล้อรถพนักงานสอบสวนจึงเห็นว่า นายเจเรมี่ทัน มีส่วนประมาทในเหตุที่เกิดขึ้นด้วยส่วนที่อ้างว่า ลูกชายของผู้บาดเจ็บเป็นข้าราชการระดับสูงนั้น เพื่อชี้แจงให้นายเจเรมี่ทัน ทราบถึงเหตุผลที่ฝ่ายนายพงษ์ ไม่รับเงินช่วยเหลือ และไม่ติดใจเรียกค่าเสียหาย เนื่องจากมีบุตร 8 คน 3 คนรับราชการ อีก 5 คน มีกิจการร้านค้า และทำสวน พอมีฐานะกันทุกคนเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะให้นายเจเรมี่ทัน เกิดความกลัวเห็นว่าการที่ภรรยาของนายเจเรมี่ทัน นำส่งข้อมูลไปให้ลงข่าว อาจเกิดจากความไม่รู้หรือไม่เข้าใจกฎหมาย หรืออาจประสงค์จะปกป้องสามี หรืออาจประสงค์จะให้พนักงานสอบสวนเกิดความหวั่นไหว ไม่กล้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายเจเรมี่ทันขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อทำให้ประชาชนเข้าใจพนักงานสอบสวนของ สภ.ทับสะแก มีความเป็นกลางทำคดีอย่างตรงไปตรงมา.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th