งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่9เพื่อสร้างความเข้าใจแก่นานาชาติ เกี่ยวกับโบราณราชประเพณี ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ณ ท้องสนามหลวง กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จึงเชิญคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ และเจ้าหน้าที่ตัวแทนเข้าร่วมงาน 65 ประเทศ รวมจำนวน 116 คน เยี่ยมชมการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ ตลอดจนราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีฯ ที่บริเวณโรงราชรถ และพระยานมาศ ภายในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร พร้อมชมพระเมรุมาศ ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันพุธที่ 11 ต.ค.60 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม “วีระ โรจน์พจนรัตน์” กล่าวว่า พระราชพิธีนี้เป็นโบราณราชประเพณี ที่เป็นมรดกวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย เพื่อให้นานาชาติมีความเข้าใจ วธ.จึงได้เชิญคณะทูตานุทูตต่างประเทศมาเข้าร่วมฟังการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิ และเข้าชมการจัดสร้างพระเมรุมาศ ซึ่งมีประเทศต่างๆ ให้ความสนใจจำนวนมาก อาทิ อังกฤษ, สหรัฐฯ, สวิตเซอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์ ฯลฯ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ขนบธรรมเนียมโบราณราชประเพณี และพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ของไทย จะได้นำไปเผยแพร่สู่ระดับนานาชาติต่อไป โดยการเข้าชมของคณะทูตานุทูต ได้มี ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ อดีตปลัด วธ. และ ดร.สาวิตรี สุวรรณสถิตย์ ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม ร่วมบรรยายเกี่ยวกับพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพและคติความเชื่อต่างๆ ที่มีมาแต่โบราณ และที่มาของความเชื่อว่า พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นสมมติเทพ เพื่อให้เข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆ ของพระราชพิธีฯ รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ ตลอดจนโครงการในพระราช ดำริฯ ซึ่งใช้เวลากว่า 30 นาที ซึ่งคณะทูตานุทูตได้ให้ความสนใจฟังอย่างตั้งใจ ก่อนที่จะเดินชมราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีฯอย่างใกล้ชิด ท่านทูตปีเตอร์ ยาคอปดร.ปีเตอร์ ยาคอป เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฮังการี ประจำประเทศไทย หนึ่งในคณะทูตที่มาร่วมงาน กล่าวว่า งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งของคนไทย ตนเคยได้มีโอกาสเข้าร่วมใน งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จ พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ จึงพอมีความเข้าใจ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ทรงเป็นเหมือนพ่อของแผ่นดิน พ่อของคนไทย โครงการในพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ได้ช่วยคุณภาพชีวิตคนไทยทั่วประเทศ และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งยังทรงคิดค้นนวัตกรรมที่มาช่วยแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน สิ่งแรกที่เราชาวต่างชาตินึกถึงพระองค์คือ ทรงเป็นศูนย์รวมของคนไทยทั้งชาติ ตนจึงมีความรู้สึกว่าเศร้าสลดที่พระองค์เสด็จสวรรคต และอยากแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อราชวงศ์ไทยและคนไทย การมาร่วมชมและฟังบรรยายในครั้งนี้ ทำให้ตนรู้ว่า พระราชพิธีนี้ทุกคนตั้งใจทำเพื่อถวายพระเกียรติสูงสุดแด่พระองค์ ท่านทูตอุฟเฟอ โวล์ฟเฮซเชิลส่วน ท่านทูตอุฟเฟอ โวล์ฟเฮซเชิล เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์ก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ราชวงศ์ไทยและเดนมาร์กมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 5 งานวันนี้ทำให้เราเข้าใจในพระราชพิธี ในฐานะชาวต่างชาติเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา ซึ่งมีความแตกต่างในวัฒนธรรมประเพณี เป็นเรื่องดีที่เราได้เรียนรู้ขั้นตอนต่างๆ ของพระราชพิธี ที่มีรายละเอียดมากมาย และเราได้เรียนรู้ความหมายของสัญลักษณ์ต่างๆ ที่มีคุณค่ามาก.
