3 หน่วยงานหลักคดีเงินทอนวัด ประกอบด้วยตำรวจ ป.ป.ป. พศ.และ ปปง.ประชุมร่วม เดินหน้าทำคดีทุจริตเงินทอนวัดลอต 3 ขุดคุ้ยการทุจริตย้อนไปถึงปี 2550 สรุปให้ “พศ.” เป็นแม่งานหลักรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่หวั่นข่าวรั่ว หรือมีคนมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แฉพบหลักฐานสำคัญใบนัดแพทย์เดือน ก.ค.60 ของ “นพรัตน์” อดีต ผอ.พศ. เชื่อยังแอบเข้าประเทศมาพบหมอหลังตกเป็นผู้ต้องหากรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลุยตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัดลอตแรก พบการทุจริตงบอุดหนุนบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด 12 วัด ตั้งแต่ปี 55-59 ความเสียหายประมาณ 60 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 10 คน ลอตที่สองพบการทุจริตงบอุดหนุน 3 ประเภท คือ 1.เงินอุดหนุนบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด 2.เงินอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ 3.เงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรมและแผนกบาลี จำนวน 23 วัด ตั้งแต่ปี 55-60 ความเสียหายประมาณ 141 ล้านบาท มีผู้เกี่ยวข้องเข้าข่ายความผิดหลายคน รวมทั้งอดีต ผอ.พศ. เจ้าหน้าที่ พศ.หลายระดับ และพระหลายรูป ล่าสุดเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ายึดทรัพย์นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีต ผอ.พศ. ที่เกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัดลอตแรกกว่า 70 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วความคืบหน้าจากกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ต.ค. พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เชิญ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) และเจ้าหน้าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมประชุมปรึกษาหารือแนวทางการปฏิบัติงานเกี่ยวกับคดีทุจริตเงินทอนวัดลอตที่ 3 หลังประชุม พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เผยว่า วันนี้เชิญ พ.ต.ท.พงศ์พร และเจ้าหน้าที่ ปปง.มาร่วมหารือแนวทางการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในครั้งต่อไป เพราะที่ผ่านมายังทำงานติดขัดบางเรื่อง สรุปว่าการดำเนินงานลอต 3 พศ.จะเป็นหน่วยงานหลัก มีตำรวจ ปปป.และ ปปง.ช่วยประสานงานตรวจสอบเรื่องงบประมาณประจำปีตั้งแต่ปี 50 ขึ้นมา เนื่องจากที่ผ่านมาตรวจสอบตั้งแต่ปี 55 เช่น งบอุดหนุน งบเผยแผ่ศาสนา และงบปริยัติธรรม ขณะนี้สอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการ พศ.ไปเกือบหมดแล้ว ขาดเพียงไม่กี่คน และกำลังตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากบางรายอาจกระทำความผิดมากกว่า 1 คดี“สำหรับการให้ พศ.เป็นเจ้าภาพดำเนินการตรวจสอบ เชื่อว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้ามายุ่งเหยิงหรือทำลายหลักฐาน เพราะมั่นใจในตัวผอ.พศ. นอกจากนี้อยากให้พิจารณาข้อกฎหมายเพื่อสอดคล้องกับการทำงานให้รวดเร็วขึ้น เพราะผู้กระทำผิดอาจโยกย้ายเงินในบัญชี ทำให้ติดตามได้ค่อนข้างยาก นอกจากนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. นาง ณัฐฐาวดี ตันตยาวิสารสุทธิ์ อดีตข้าราชการ พศ.ที่เป็นผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัดลอตแรก เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในคดีฟอกเงินที่ บก.ปปป. หลังจากนั้นปล่อยตัวไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานหมดแล้ว” พล.ต.ต.กมลกล่าวผบก.ปปป.เผยด้วยว่า ส่วนการตรวจค้นบ้านลูกสาวของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานนท์ ภรรยาคนปัจจุบันของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีต ผอ.พศ. พบหลักฐานเอกสารใบนัดพบแพทย์เมื่อเดือน ก.ค.60 ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า อดีต ผอ.พศ. แอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อพบแพทย์ โดย บก.ปปป.ออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินไปแล้ว หลังจากนี้หากไม่เข้ามาตามหมายเรียกจะดำเนินการออกหมาย จับตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.กมลกล่าวด้าน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ.กล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานการทุจริตเงินทอนวัดมาให้ตำรวจ บก.ปปป. เพราะเป็นการทำงานร่วมกันแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเรื่องอยู่ในสำนวนสอบสวน ทั้งนี้ตนจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อตอบแทนความไว้วางใจจากสังคม
