พายุฝนถล่มหนักส่งผลน้ำป่าจากยอดดอยทะลักท่วมพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เป็นวงกว้าง ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ถูกน้ำท่วมสูงร่วม 1 เมตร รถยนต์สัญจรผ่านไม่ได้ ชาวบ้านถูกตัดขาดเดือดร้อนอย่างหนัก ส่วน จ.ลำพูน ดินถล่มก้อนหินขนาดใหญ่ปิดทับเส้นทางสายบ้านห้วยฮ่อมนอก-บ้านห้วยฮ่อมใน ต.ทาแม่ลอบ อ.แม่ทา ชาวบ้านต้องเดินเท้าเข้าหมู่บ้านและอ้อมขึ้นเขาหลายกิโลเมตร ขณะที่แม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้น ทำให้พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เข้าขั้นวิกฤติ ส่วนแม่น้ำมูลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ด้าน เมืองกรุงเก่าสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ ส่วนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี บางชุมชนจมบาดาลแล้ว ขณะที่กรมอุตุฯแจ้งเตือนทุกภาคยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง พายุฝนถล่มน้ำป่าทะลักท่วมหนักหลายพื้นที่ เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 12 ต.ค. เกิดฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงในพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ส่งผลให้มีน้ำป่าจากยอดดอยต่างๆ เช่น ดอยสุเทพ ดอยปุย และอุทยานแห่งชาติออบขานที่อยู่ติดกัน ไหลลงลำธารจนน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.หนองควาย และเขตเทศบาลตำบลบ้านโปง ชาวบ้านนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ พร้อมขนเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นไปอยู่ที่สูงกันให้วุ่น ชาวบ้านบางคนติดอยู่ภายในบ้านไม่สามารถหนีออกมาได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก โดยเฉพาะที่อุทยานล้านนารีสอร์ต ต.บ้านโปง มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติติดอยู่ หน่วยกู้ภัยเข้าช่วยเหลือออกมาได้ปลอดภัยทุกคน ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ช่วงบ้านช่างคำน้อย ต.หางดง ถูกน้ำท่วมสูงราว 1 เมตร รถยนต์ใช้การไม่ได้ ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก พากันเดือดร้อนทั่วหน้า ขณะเดียวกัน มีชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ลุยน้ำท่ามกลางเสียงคัดค้านของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ยอมเชื่อฟังถูกกระแสน้ำซัดรถล้มเคราะห์ดีเจ้าหน้าที่ช่วยไว้ทันรอดหวุดหวิดที่ จ.ลำพูน หลังฝนตกอย่างหนัก ทำให้ดินถล่มก้อนหินขนาดใหญ่ปิดทับเส้นทางสายบ้านห้วย-ฮ่อมนอก-บ้านห้วยฮ่อมใน ต.ทาแม่ลอบ อ.แม่ทา ชาวบ้านต้องเดินเท้าเข้าหมู่บ้านและอ้อมขึ้นเขาหลายกิโลเมตร ทางจังหวัดนำเครื่องจักรกลเข้าแก้ไขจนเส้นทางสามารถใช้การได้ตามปกติ ขณะที่นายธนยศ ปานขาว นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก สั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งกู้รถปิกอัพโตโยต้า ทะเบียน กข 8863 ตาก หลังถูกกระแสน้ำซัดจมในห้วยระพริ้ง หมู่ 8 บ้านห้วยระพริ้ง ต.พะวอ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. เป็นเหตุให้นายศราวุธ แสนสิทธิ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน อบต.พะวอ หนีออกจากตัวรถไม่ทันเสียชีวิตอนาถ โดยการกู้รถเป็นไปอย่างทุลักทุเลกว่าจะนำขึ้นมาได้สำเร็จ จ.พะเยา ฝนที่ตกตลอดทั้งวันทั้งคืน ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน โดยเฉพาะพื้นที่ ต.บ้านต๊ำ อ.เมืองพะเยา ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำฝายทุ่งกองเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเอ่อล้นท่วมหนัก 7 หมู่บ้าน ถนนในหมู่บ้านบางจุดถูกน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ส่วนอ.ดอกคำใต้ น้ำป่าทะลักลงลำน้ำร่องช้าง จนน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองดอกค้ำใต้ ชาวบ้านขนข้าวของหนีน้ำกันให้วุ่นตอนดึก ส่วนเจ้าหน้าที่ อบจ.พิษณุโลก เร่งสร้างสะพานเบลีย์ให้ประชาชนในพื้นที่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง ได้ใช้ชั่วคราว หลังถูกน้ำกัดเซาะถนนขาดไม่สามารถสัญจรได้ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมีมวลน้ำมาจาก จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม ส่งผลให้น้ำชีในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เข้าขั้นวิกฤติ หลายพื้นที่ต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา เนื่องจากพบจุดเสี่ยงหลายจุดตามพนังกั้นน้ำ ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลก็ล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้านวังกุ่ม หมู่ 14 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร อีกทั้งมวลน้ำยังไหลเข้าอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรจำนวนมาก ต้องเร่งเปิดประตูระบายน้ำ ทำให้ปริมาณน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มขยายวงกว้าง ส่วนพื้นที่บ้านโคกกลาง หมู่ 5 ต.โนนสัง อ.โนนสัง จ.เลย เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ถูกน้ำทะลักท่วมบ้านเรือนแล้วนายอภิชัย จำปานิล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น มีมติประกาศระบายน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มขึ้นเป็น 34 ล้าน ลบ.ม. และในวันที่ 13 ต.ค. เข้าสู่การระบายน้ำในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำพองและลำน้ำชี ที่จะมีปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น จึงมีการประสานงานไปยังเขื่อนระบายน้ำมหาสารคาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย เปิดบานประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับปริมาณน้ำดังกล่าว จ.นครสวรรค์ น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนบางปรอง เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ร่วม 15 ครัวเรือน ชาวบ้านหนีน้ำไปอยู่บนทางรถไฟสายเก่าต้องอยู่กันด้วยความลำบาก อีกทั้งแม่น้ำเจ้าพระยายังหลากเข้าท่วมในพื้นที่ ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จำนวน 7 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,000 หลังคาเรือน จ.ชัยนาท หลังเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายต่อเนื่อง เพราะมีมวลน้ำจากทางภาคเหนือไหลเข้าเขื่อนจำนวนมหาศาล ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อน อาทิ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านนำกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำ แต่ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ พังเสียหายหลายจุด ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 600 หลังคาเรือนจ.ลพบุรี ยังมีพื้นที่วิกฤติ 10 กว่าตำบลใน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.โคกสำโรง อ.บ้านหมี่ และ อ.เมืองลพบุรี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 15 ซม.โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ส่วนพื้นที่หลังหมู่บ้านสิรัญญา 2 ต.ถนนใหญ่ อ.เมืองลพบุรี น้ำเริ่มทะลัก เพราะมีรอยแตกร้าวของท่อระบายน้ำ ชาวบ้านพากันหวาดผวาอย่างหนัก ขณะที่บานประตูระบายน้ำคลองส่งน้ำชัยนาท-ป่าสัก ที่ชำรุดเสียหาย เนื่องจากระดับน้ำสูง ต้านแรงดันน้ำไม่ไหว ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ต.พุคา ต.หนองเต่า อ.บ้านหมี่ และ ต.บางลี่อ.ท่าวุ้ง เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันไว้ได้แล้วส่วน จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงอย่างน่ากลัว แถมกระแสน้ำทะลักจู่โจมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนขยายวงกว้าง ถนนคันคลองชลประทานสายป่าโมก-อ่างทอง หมู่ 6 ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเหลือเพียง 10 ซม. น้ำก็จะไหลบ่าข้ามถนนเข้าท่วมทุ่งนาและชุมชนที่อยู่อีกฝั่งถนน ชาวบ้านเร่งทำคันกั้นน้ำกว้าง 1.50 เมตร สูง 1 เมตร ตลอดแนวถนน ส่วนหน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดอ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีระดับสูงได้ผุดทะลุพื้นดินขึ้นมาเหมือนน้ำพุ เจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายมากั้นล้อมเอาไว้ไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมสถานีผลิตน้ำประปาด้าน จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งเตือนหลังเขื่อนเจ้าพระยา มีการเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะระบายต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 19 ต.ค. ส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 0.80-1.20 เมตร แต่ยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำ 0.50-2 เมตร จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมในการช่วยเหลือทั้งด้านกำลังคน และอุปกรณ์ต่างๆพร้อมเร่งทำคันกั้นน้ำในพื้นที่เสี่ยงด้วย และกำหนดพื้นที่ควบคุมการเดินเรือในช่วงระดับน้ำสูงกว่าปกติ จะเป็นเหตุให้ประชาชนที่ปลูกสร้างที่พักอาศัยอยู่ริมน้ำ และลำคลอง ได้รับผลกระทบจากคลื่นน้ำของเรือที่สัญจรไปมา ขณะที่ จ.ปทุมธานี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ ต.บางเตย ต.สามโคก อ.สามโคก และพื้นที่ ต.บางขะแยง ต.บางเดื่อ อ.เมืองปทุมธานี ตรอกซอกซอยในชุมชน ถูกน้ำท่วมสูง 20-30 ซม. ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำกันทุลักทุเลส่วนที่เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พื้นที่ลุ่มต่ำมีแม่น้ำเจ้าพระยาล้อมรอบ เกิดภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูงจนน้ำเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนที่อยู่ติดริมน้ำหลายสิบหลังคาเรือน ในชุมชนวัดฉิมพลีหมู่ 1 ชุมชนวัดไผ่ล้อมหมู่ 6 และชุมชนโอ่งอ่างหมู่ 7 โดยเฉพาะหมู่ 1 ได้รับผลกระทบหนัก ถูกน้ำท่วมเกือบทุกหลังคาเรือน เช่นเดียวกับที่วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักท่วมบริเวณลานจอดรถ และทางเดินบนเขื่อนริมแม่น้ำหน้าวัด ทำเอาชาวบ้านต้องอุ้มลูกจูงหลานเดินลุยน้ำมาทำบุญให้อาหารปลากันกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนช่วงวันที่ 12-14 ต.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในวันที่ 15-18 ต.ค. ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบนเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง
