เปลี่ยนตัวเล่น ไม่ต้องปะทะพลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเดินทางกลับจากการไปเยือนสหรัฐอเมริกา นอกจากส่งสัญญาณว่าจะประกาศวันเลือกตั้งในปี 2561ยังมีอีกประเด็นหนึ่งคือ จากนี้ไปจะไม่ตอบโต้ประเด็นการเมืองผมก็อยากเอาใจช่วยเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าท่านนายกฯจะทำได้อย่างที่พูดได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นคนชอบพูดพูดไปพูดมากลายเป็นเรื่องรํ่าไปทุกทีมีสิ่งที่น่าสังเกตชัดเจนในตัว “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ระยะหลังนี้จะค่อนไปทางเล่นเอาแสดงเอง โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นกรณีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ พล.อ.ประวิตรยืนยันการันตีเองว่า การที่น้องเล็กกล่าวกับผู้นำสหรัฐฯว่าจะประกาศวันเลือกตั้งในปี 2561 นั้น“พี่ใหญ่” ขยายความให้ทันควันว่า ไม่ได้หมายว่าจะต้องเลือกตั้งในปี 2561 แต่ความหมายจะประกาศวันเลือกตั้งเท่านั้นมาอีกเรื่องหนึ่ง หลังจาก พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองคลอดออกมาอย่างเป็นทางการ บรรดานักการเมืองต่างก็ออกมาขอให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งห้ามพรรคการเมืองจัดกิจกรรมทางการเมืองพูดง่ายๆว่า ต้องการเคลื่อนไหวทางการเมืองคือการประชุมพรรคเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่แม้ว่ายังไม่มีกำหนดการที่แน่นอนก็ตาม แต่เพราะกฎหมายพรรคการเมืองใหม่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมแต่ “พี่ใหญ่” ยืนยันว่า เมื่อกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งยังไม่เสร็จ จึงยังไม่สามารถปลดล็อกให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมได้ก็เป็นอันว่าชัดเจน พี่ตอบแทนน้องเรียบร้อยไปแล้วว่าไปแล้ว หากนายกฯไม่พูดตอบโต้ทางการเมืองน่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่ต้องไปทะเลาะเบาะแว้งให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้นมาเพราะที่ผ่านมาก็บ่นอยู่ตลอดเวลาว่างานเยอะ เหนื่อย แต่พร้อมที่จะทำงานต่อไปอย่างเต็มที่ หากพูดเรื่องการเมือง หรือโต้แย้งให้เสียเวลา เสียอารมณ์ ก็น่าจะไม่ต้องไปเหนื่อยมากขึ้น และไม่รกสมองอีกด้วยน่าจะรู้และทราบกันดีว่านักการเมืองบางคนบางพรรคนะครับ...ไม่ได้หมายว่านักการเมืองทุกคนล้วนอยากปะมือกับนายกฯอยู่แล้วยิ่งรู้อีกเช่นกันว่านายกฯนั้นอารมณ์ขึ้นได้ง่ายๆ เปรี้ยงมาก็เปรี้ยงไปจนสร้างความดังให้ฝ่ายนักการเมืองได้เป็นอย่างดีที่สำคัญก็คือในฐานะผู้นำประเทศ พูดอะไรออกไปถ้าดีก็ดีไป ตรงกันข้ามถ้าผิดพลาด พลาดพลั้งก็เรียบร้อยเพราะเมื่อพูดไปแล้วต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยหากนายกฯหยุดได้จริงๆ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเอง และรัฐบาลเพราะไม่น่าจะเกิดประโยชน์อันใดปล่อยให้พูดกันว่ากันไป เดี๋ยวประชาชนเขาก็หน่ายกันเองเอาเป็นว่าให้ “พี่ใหญ่” แสดงบทเองก็ไม่น่าเสียหายอะไร เพราะยังเป็นแค่พระรอง ถ้าผิดพลาดอะไรไปบ้าง “พระเอก” ก็ยังช่วยแก้ตัวได้ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่า พล.อ.ประวิตรนั้นดูโรยแรงไปมากคงเนื่องจากวัย และมีโรคประจำตัวที่พูดจาไม่กระฉับกระเฉงเท่าที่ควรครั้นพอ...ได้แสดงบทเต็มๆ ดูฟิตแอนด์เฟิร์มเห็นมั้ยล่ะ!?!“สายล่อฟ้า”