คงพอได้ยินกันมาบ้างแล้วสำหรับระบบภาพเสมือนจริง หรือ VR (Virtual Reality) ที่เมื่อใส่แว่น VR แล้วจะทำให้เราเห็นภาพจำลองแบบ 360 องศา ซึ่งจริงๆ แล้วระบบนี้มีมากว่า 40 ปี และกำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราสามารถเห็นได้บ่อยๆ ในวงการเกม การบินและการทหาร ภาพยนตร์ และล่าสุดนี้ยังมีวงการหนัง AV ที่เจ้าแว่นตานี้จะเข้ามาปลุกใจหนุ่มๆ เพื่อความฟินในการรับชม
ไทยรัฐออนไลน์จึงอยากพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้า VR ให้มากขึ้น ดูสิว่านอกจากวงการที่กล่าวมา เจ้าเทคโนโลยีชนิดนี้ยังสร้างประโยชน์ให้แก่กลุ่มธุรกิจรูปแบบใดอีก?
ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
ลองนึกภาพว่าถ้าลูกค้าใส่แว่น VR เข้าไปสำรวจบ้านตัวอย่าง โดยให้ตัวอุปกรณ์จำลองภาพเสมือนจริงในการตกแต่งบ้านแบบเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ช่วยเป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านในฝันให้กับลูกค้า หรือแม้แต่การไปออกบูธเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นที่ในการขายมากนักก็สามารถนำเสนอการขายนอกสถานที่ เสมือนให้ลูกค้าเดินเข้าไปเลือกชมบ้านตัวอย่างจริงๆ
กรณีนี้ไม่เพียงแต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ ธุรกิจประเภทอื่นก็ยังสามารถนำไปปรับใช้เพื่อส่งเสริมการตลาด หรือการขายให้กับบริษัทตนเองได้ด้วย
...
วงการแพทย์
เกิดขึ้นแล้วกับการนำเทคโนโลยี VR เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์ผู้ป่วย โดยแสดงภาพจำลองอวัยวะภายในของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเยื่อ เส้นประสาท หรือเส้นเลือด เพื่อให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ถึงการผ่าตัดได้แม่นยำกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการดีต่อนักศึกษาแพทย์ในการจำลองเหตุการณ์การผ่าตัดจริง ที่ไม่สามารถทดลองกับผู้ป่วยได้
ล่าสุด ไม่ใช่แค่แพทย์ที่ได้ประโยชน์ เทคโนโลยีนี้ยังสามารถคืนความสุขให้แก่ผู้ป่วยได้ โดยคุณยายท่านหนึ่งซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย กำลังรักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ เมื่อเธอได้สวมแว่นตา VR ก็เหมือนเธอได้กลับไปยังบ้านเกิดที่ประเทศเยรูซาเล็ม เธอมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ พร้อมทั้งยังขอบคุณที่เทคโนโลยีนี้ที่สร้างความสุขให้เธอถึงแม้จะเป็นช่วงวาระสุดท้ายของเธอก็ตาม
การศึกษา
นอกจากการศึกษาด้านการแพทย์ ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสอนได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจำลองอวกาศ เครื่องยนต์ ชีววิทยา กายวิภาคศาสตร์ ธรณีวิทยา สถาปัตยกรรมศาสตร์ และอีกหลายองค์ประกอบการเรียนรู้เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้แก่นักเรียน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบความคิดความเข้าใจของเด็กรุ่นใหม่
การท่องเที่ยว
เทคโนโลยี VR ถูกนำไปใช้ในการโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแก่นักท่องเที่ยว โดยการจำลองภาพเสมือนจริงพร้อมรายละเอียดของสถานที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สัมผัสกับประสบการณ์รูปแบบใหม่ อาทิ พระราชวังทองคำแห่งจักรพรรดิเนโร ประเทศอิตาลี ให้ผู้เข้าชมสวมใส่แว่น VR เพื่อรับชมภาพความอลังการในอดีต ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมเป็นอย่างมาก หรืออีกทางหนึ่งสำหรับคนอยากเที่ยวแต่ไม่มีเวลามีแค่เจ้าเครื่องนี้เครื่องเดียวก็สามารถพาคุณไปเห็นแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลกได้เช่นกัน
...
สุดท้ายคือ...วงการหนังสำหรับผู้ใหญ่
กลายเป็นธุรกิจเกิดใหม่ในประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะเหมือนคาเฟ่ที่จะทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความสยิวสุดๆ ตั้งแต่เข้าไปนั่งในห้องส่วนตัวพร้อมแฟลชไดรฟ์ที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็ใส่แว่นและเลือกหนังเพื่อรับชมความสมจริงสุดๆ ได้ขนลุกซู่กันแน่นอน
รู้จักกันพอหอมปากหอมคอแล้วกับเทคโนโลยีชนิดนี้ แต่อย่างไรก็ตาม VR ก็ยังคงต้องพัฒนากันต่อไปให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ไม่แน่ว่าวันหนึ่งสายงานของคุณอาจจำเป็นต้องใช้เจ้าเครื่องมือชนิดนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเป็นได้
ที่มาข้อมูลบางส่วน: