ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 2000 มีคำถามสุดคลาสสิกคำถามหนึ่งที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์มักจะถามไถ่กันจนเป็นเรื่องปกติ นั่นคือ คุณใช้แอนตีไวรัส (Antivirus) ยี่ห้ออะไร

ตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน คริสต์ทศวรรษ 2020 คำถามที่ถามว่า ใช้แอนตี้ไวรัสยี่ห้ออะไรกลับเบาลง แล้วถูกแทรกด้วยคำถามใหม่ที่ท้าทายขึ้นว่า ในปี 2021 แอนตีไวรัสยังคงมีความจำเป็นหรือไม่

ทั้งนี้ เป็นเพราะในระยะหลังระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น Windows และ Mac มีความปลอดภัยมากขึ้น จากการออกอัปเดตแพตช์ (Patch) ที่ช่วยป้องกันช่องโหว่จากไวรัส (Virus) หรือมัลแวร์ (Malware) ที่อาจอาศัยช่องโหว่ที่ว่างอยู่นี้ ในการเข้าโจมตีคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน

อย่างไรก็ดี ต้องบันทึกไว้ตรงนี้ด้วยว่า ไวรัสหรือมัลแวร์บางตัวก็ไม่ได้โจมตีด้วยช่องโหว่ เช่น ซอฟต์แวร์การเรียกค่าไถ่ (Ransomware) ที่ติดผ่านการรันโปรแกรมบนสิทธิ์ของผู้ใช้งาน (User)

ที่น่าสนใจ ในช่วงที่ผ่านมา ความน่าเชื่อถือของซอฟต์แวร์แอนตีไวรัส ก็ถูกลดความน่าเชื่อถือลงไปไม่น้อย จากการที่ Avast ผู้ให้บริการด้านแอนตีไวรัส แอบขายข้อมูลของผู้ใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่นั่นก็เป็นเพียงส่วนน้อยที่จะเกิดขึ้น เพราะโดยปกติแล้ว ผู้ให้บริการด้านแอนตีไวรัส มักจะมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด

อีกทั้ง ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ยุคเก่ายังมีความกังวลว่า ซอฟต์แวร์แอนตีไวรัส มักใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่หนักหน่วง ทำให้มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ หรือเรียกให้เข้าใจง่ายกว่านั้นก็คือ ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง

แต่ว่า การทำงานของซอฟต์แวร์แอนตีไวรัสในปัจจุบัน มีขนาดที่เล็กลง จนแทบไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์

อย่างไรก็ตาม การที่โลกทุกวันนี้ เป็นโลกในยุคออนไลน์ มนุษย์ทุกคนล้วนต้องอาศัยอินเทอร์เน็ต ซึ่งกลายเป็นโลกเสมือนที่ไม่สามารถแยกออกได้จากโลกของความเป็นจริงได้แล้ว

เช่นนั้น การที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่มีซอฟต์แวร์แอนตีไวรัส เท่ากับว่า เป็นการเชื้อเชิญให้ซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์เข้ามาแฝงหรืออาศัยตัวในคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างง่ายดาย การมีซอฟต์แวร์คอยทำหน้าที่ป้องกัน คอยเป็นปราการด่านสุดท้ายเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายของข้อมูลของตัวผู้ใช้งานเอง

ในระยะหลังระบบปฏิบัติการ Windows 10 ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้เพิ่มซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้งานได้ฟรีอย่าง Microsoft Defender (ชื่อเดิม Windows Defender) เมื่อดูจากความสามารถของซอฟต์แวร์ตัวนี้ ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ สามารถประหยัดเงินบางส่วนที่ต้องนำมาซื้อซอฟต์แวร์แอนตีไวรัสไปในตัว

สุดท้าย เมื่อถามว่า ในปี 2020 ที่กำลังจะผลัดใบไปสู่ปี 2021 ซอฟต์แวร์แอนตีไวรัสยังมีความจำเป็นหรือไม่

คงต้องตอบว่า ยังมีความจำเป็น นั่นเป็นเพราะว่า ภัยคุกคามในโลกคอมพิวเตอร์ มันไม่ได้หยุดอยู่แค่ด้านแอนตีไวรัสอีกต่อไปแล้ว แต่มันมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น จึงทำให้ซอฟต์แวร์ที่มีความเกี่ยวข้องด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ ได้แปรเปลี่ยนจากการทำงานแค่ด้านแอนตีไวรัส มานำเสนอเป็นโซลูชันที่พิเศษขึ้น เช่น มีระบบ Firewall ที่ดีกว่าที่มีให้ในระบบปฏิบัติการ, ระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์, ระบบป้องกันช่องโหว่ก่อนที่จะเกิดการแพตช์ของระบบปฏิบัติการ และส่วนขยาย(Extension) บนเว็บเบราว์เซอร์ เพื่อป้องกันการเข้าเว็บที่ใช้การโจมตีแบบฟิชชิง (Phishing: พวกเว็บไซต์ปลอมที่มีจุดมุ่งหมายในการหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน)

นอกจากนี้ จะช่วยป้องกันภัยคุกคามจากซอฟต์แวร์การเรียกค่าไถ่ที่เข้ามาคุกคามการใช้ชีวิตบนโลกอินเทอร์เน็ตของคุณ ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณช้าจนน่าหงุดหงิดใจ และแม้ว่าคุณจะใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างระแวดระวังเป็นอย่างดี ไม่กดเข้าเว็บไซต์แปลกๆ ที่ดูแล้วไม่น่าไว้วางใจ ใช้งานเฉพาะเว็บไซต์ที่ไว้ใจได้เท่านั้น แต่ความเสี่ยงที่จะถูกคุกคามจากซอฟต์แวร์ที่ไม่ประสงค์ดียังคงมีโอกาสเกิดขึ้นได้เหมือนกัน

ดังนั้นแล้ว การมีซอฟต์แวร์แอนตีไวรัสติดเครื่องไว้สักนิด เป็นยันต์คุ้มครองไว้นับเป็นเรื่องที่ดี

ผู้เขียน: Wiwat Rungsaensuksakul
กราฟิก: Taechita Vijitgrittapong

...