เป็นที่ทราบกันดีว่า ซัมซุง (Samsung) มีความพยายามที่จะนำเสนอเทคโนโลยีมือถือจอพับมาสักพักใหญ่แล้ว ดังจะเห็นได้จาก Galaxy Z Flip และ Galaxy Z Flip3 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด
ขณะเดียวกันก็มี Galaxy Z Fold และ Galaxy Z Fold3 ซึ่งแม้จะอยู่ในซีรีส์ Z เหมือนกัน แต่ระดับราคาของสองรุ่นนี้ ต่างกันค่อนข้างมาก
สิ่งที่น่าสนใจในการเปิดตัว Galaxy Z Flip3 นั่นคือเรื่องของราคา ที่ถูกตั้งมาให้มีระดับราคาใกล้เคียงกับคู่แข่ง iPhone 12 Pro ไปจนถึงมือถือของซัมซุงด้วยกันเองอย่าง Galaxy S21+
เมื่อดูจากรายงานของบริษัทวิจัยในต่างประเทศ ล้วนเชื่อไปในทิศทางเดียวกันว่า มือถือจอพับจะเริ่มเป็นมือถือกระแสหลักมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า แอปเปิล จะลงมาเล่นตลาดมือถือจอพับด้วย ส่งผลให้โอกาสการเติบโตของมือถือจอพับจะสูงขึ้นเป็น 10 เท่าจากปี 2020 หรือพูดง่ายๆ ในตลาดจะมีมือถือจอพับรวมกันไม่ต่ำกว่า 30 ล้านเครื่อง
แน่นอนว่าก็คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า Galaxy Z Flip3 เป็นมือถือรุ่นแรกๆ ที่จะเปิดประตูต้อนรับการมาของสารพัดมือถือจอพับในเวลาหลังจากนี้ เพราะทุกคนสามารถเอื้อมถึงเทคโนโลยีนี้ได้เป็นที่เรียบร้อย
การออกแบบ Galaxy Z Flip3
...
ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า Galaxy Z Flip3 ไม่ได้มีการออกแบบที่ต่างไปจาก Galaxy Z Flip ที่วางจำหน่ายเมื่อปีที่แล้วมากนัก โดยมือถือรุ่นนี้ ยังคงแนวคิดที่น่าสนใจ นั่นคือ การเป็นมือถือจอใหญ่ ที่สามารถหักครึ่งหนึ่งของจอ เพื่อให้ง่ายต่อการพกพา หรือถ้าใครที่ต้องการอัปเดตข่าวสาร ดูวิดีโอ ฟังเพลงในช่วงเช้าก่อนเริ่มการทำงาน ก็พก Z Flip3 พร้อมกับพับจอไว้ครึ่งหนึ่ง แล้ววางบริเวณอ่างล้างหน้าได้เลย ก็ถือว่าสะดวกดี
ขณะเดียวกัน ก็มีหน้าจอที่สอง ซึ่งเป็นคัฟเวอร์ดิสเพลย์ (Cover Display) โดยเป็นหน้าจอขนาดเล็ก 1.9 นิ้ว ในภาพรวมก็ถือเป็นจอที่ใช้งานได้ง่าย สามารถดูข้อความแจ้งเตือนต่างๆ ดูตารางงาน หรือใช้บอกเวลาได้ แต่ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ใช้งานคัฟเวอร์ดิสเพลย์สักเท่าไร ถ้าถามว่ามีประโยชน์มั้ย ก็ไม่แย่ พอใช้งานได้จริงในระดับหนึ่ง
ในเรื่องของบานพับที่อยู่บริเวณกึ่งกลางจอ จากที่ลองสัมผัสดูก็พบว่าออกแบบได้แข็งแรงทีเดียว ถ้าหากลองสะบัดจอแรงๆ ก็พบว่าจอก็ยังพับปิดสนิทเป็นอย่างดี ซึ่งถ้าใครสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าตอนที่เราพับจอลงมาจะเห็นช่องว่างนิดๆ แต่ก็ไม่เป็นประเด็นสำคัญต่อการใช้งาน
วัสดุประกอบงานที่เป็นอะลูมิเนียมก็แข็งแรงคงทน แต่ด้านหลังของตัวเครื่องที่เป็นพอลิเมอร์ (Polymer) ก็ทำให้มีรอยนิ้วมือให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการใช้งาน
พร้อมกันนั้น ในการเปิดตัว Galaxy Z Flip3 ที่งาน Galaxy Unpacked 2021 ซัมซุงได้นำเสนอเรื่องของความทนทานต่อการกันน้ำ ตามค่ามาตรฐาน IPX8 แต่เอาเข้าจริงแล้ว ในเวลาใช้งานจริง ก็ไม่ค่อยอยากที่จะแนะนำให้เอามือถือไปลุยกับน้ำเท่าไร เพราะเราก็ไม่แน่ใจว่าการรับประกันของซัมซุงจะรวมไปถึงกรณีกันน้ำหรือไม่ ดังนั้นแล้วถ้าเป็นไปได้ความสามารถในการกันน้ำที่ให้มานี้ เอาไว้ใช้ในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุจากการโดนน้ำที่กระเซ็นมา หรือน้ำจากแก้วหกใส่มือถือน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าการจงใจเอามือถือไปเล่นกับน้ำโดยตรง
...
อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งอาจไม่ใช่ข้อเสียแต่ก็ไม่ใช่ข้อดีในแง่การออกแบบของ Galaxy Z Flip3 นั่นก็คือ เราไม่สามารถใช้งาน Z Flip3 ได้ด้วยมือข้างเดียว ทุกครั้งที่จะใช้งานต้องใช้สองมือเสมอๆ ดังนั้นแล้ววิธีการที่อยากจะแนะนำ ถ้าหากอยู่ภายในบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องพับมือถือ แต่ถ้าออกนอกบ้านเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการพกพา ก็ค่อยพับจอแล้วโยนลงกระเป๋ากางเกง
หน้าจอแสดงผล Galaxy Z Flip3
เทคโนโลยีรีเฟรชเรต เป็นเทคโนโลยีที่ซัมซุงนำมาใส่ในมือถือหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นมือถือระดับเรือธง ไปจนถึงมือถือระดับรองๆ เทคโนโลยีนี้ก็ถูกใส่จนกลายเป็นฟังก์ชันการใช้งานปกติเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของรีเฟรชเรตก็ยังคงมีอยู่ เพราะมันบริโภคแบตเตอรี่หนักมาก ทำให้การใช้งานในเวลาที่ไม่ต้องการความลื่นไหลอะไรมากนัก ก็จะเลือกที่ค่ามาตรฐาน 60Hz แล้วค่อยปรับไปเป็น 120Hz เวลาที่ดูคอนเทนต์ที่รองรับรีเฟรชเรตสูงๆ ก็ค่อยปรับไปใช้ Adaptive 120Hz เพราะถ้าหากเราตั้งรีเฟรชเรตสูงๆ ตลอดเวลา เชื่อว่าแบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้เต็มที่แค่ครึ่งวันเท่านั้น
...
นอกจากนี้ ถ้าเราสังเกตบริเวณตรงกลางจอก็จะพบว่ามีรอยพับอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะมองมุมบน มุมข้าง มุมล่าง อย่างไรก็เห็น แต่ในภาพรวมรอยพับที่เห็นได้ชัดที่ว่านี้ ไม่ได้ขัดขวาง ขัดอารมณ์ในการใช้งาน ทุกอย่างเป็นปกติ
การถ่ายภาพ Galaxy Z Flip3
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่ได้มีโอกาสที่จะออกไปถ่ายภาพได้อย่างสะดวกใจนัก แต่จากที่ลองถ่ายภาพตามโอกาสที่อำนวยและเป็นไปได้ พบว่า ภาพที่ได้ถือว่าสด มีความคมชัด
...
ทั้งนี้ ภาพที่ถ่ายออกมาจาก Galaxy Z Flip3 สามารถจบได้ที่ตัวมันเอง โดยไม่ต้องไปผ่านกระบวนการจากแอปพลิเคชันอื่นๆ ถ่ายเพียงแชะเดียว ภาพที่ได้ก็ดีพอที่จะโพสต์ลงทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากการถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือเป็นปัจจัยที่หนึ่งของการใช้มือถือของคุณ ก็คงต้องบอกตามตรงว่า Galaxy Z Flip3 อาจไม่ใช่มือถือที่คุณกำลังมองหาอยู่ แต่ถ้าโพสต์ลงโซเชียลชั่วครั้งเป็นคราว คิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
บทสรุป Galaxy Z Flip3
Galaxy Z Flip3 เป็นมือถือจอพับที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เพียงแต่ถ้าในวันหนึ่งๆ มันถูกพับ 2-300 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปี ความคงทนแข็งแรงของบานพับจะยังคงอยู่ในสภาพที่ดีต่อไปหรือไม่ เป็นเรื่องที่ยังต้องหาคำตอบกันต่อไป
ขณะเดียวกันในเรื่องของราคา ตัวเครื่องก็อยู่ในระดับเดียวกับ iPhone 12 Pro หรือ Galaxy S21+ ซึ่งเป็นมือถือระดับไฮเอนด์ของตลาดที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ถ้าหากคุณต้องการสัมผัสการใช้งานมือถือจอพับนี่คือโอกาส หรืออาจรอรุ่นถัดไปก็ได้ เผื่อว่าราคาจะถูกลงกว่านี้อีก ในแง่ของความคุ้มทุนด้านเทคโนโลยี
นอกจากนี้แล้ว Galaxy Z Flip3 ก็สามารถกันน้ำได้ตามค่ามาตรฐาน IPX8 เพียงแต่ประสิทธิภาพในการกันน้ำคงเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะให้มันแสดงศักยภาพเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ เช่น น้ำในแก้วหกใส่ หรือมีละอองน้ำกระเซ็นมาโดนมือถือ
ส่วนข้อเสียคิดว่าแบตเตอรี่ยังไม่อึดพอที่จะรองรับการใช้งานรีเฟรชเรตสูงๆ ต้องสลับไปมาระหว่างโหมด Adaptive และ Standard.