ด้วยความสำเร็จของ Amazfit T-Rex จึงทำให้ในปี 2021 Amazfit เปิดตัวสมาร์ตวอตช์ (Smartwatch) รุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่น โดยเน้นการออกไปที่ความสมบุกสมบันและคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกีฬากลางแจ้งในชื่อ Amazfit T-Rex Pro
เป็นที่น่าเสียดายพอสมควรในช่วงที่กำลังรีวิว Amazfit T-Rex Pro เป็นช่วงที่สถานที่กิจกรรมกลางแจ้งหลายแห่งปิดให้บริการ จึงไม่ได้ทดสอบกิจกรรมสายลุยมากนัก ทำให้การทดสอบส่วนใหญ่จะเป็นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน การออกกำลังกายจำพวกเวทเทรนนิงในบ้านเป็นหลัก
แรกสัมผัส Amazfit T-Rex Pro
เมื่อได้เห็น Amazfit T-Rex Pro เป็นครั้งแรกยอมรับว่าหน้าตาในการออกแบบถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก การออกแบบทำให้รู้สึกและเห็นได้ชัดว่ามันออกแบบมาเพื่อการเล่นกีฬากลางแจ้ง เอาไว้ลุยในน้ำ ลุยบนบก แต่การออกแบบก็ไม่ละทิ้งให้คนทั่วไปที่อยากได้สมาร์ตวอตช์ใส่เล่นในชีวิตประจำวัน กล่าวคือ แม้มันจะเป็นนาฬิกาสายสปอร์ต แต่ก็ดูสวยพอที่จะใส่ในชีวิตประจำวัน
อีกอย่างหนึ่งตัวนาฬิกามีน้ำหนักที่เบา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวนาฬิกาใช้พลาสติกเป็นวัสดุประกอบงานหลัก แน่นอนว่าถ้าหากใครชอบวัสดุที่หรูกว่านี้ ซึ่งอาจเป็นสเตนเลส สตีล อาจต้องมองข้ามรุ่นนี้ไป
การออกแบบของ Amazfit T-Rex Pro
บนหน้าปัดของ Amazfit T-Rex Pro จะมีปุ่มสำหรับบังคับการใช้งานด้วยกัน 4 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มซ้ายบนเป็นปุ่ม Up หรือเลื่อนขึ้น, ปุ่ม Down หรือเลื่อนลง, ปุ่ม Select ใช้เลือกคำสั่ง และปุ่ม Back หรือย้อนกลับ
...
การทำงานบน Amazfit T-Rex Pro สามารถทำได้ทั้งในรูปแบบของการสั่งการด้วยปุ่มทั้ง 4 ปุ่ม แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าการทัชบนหน้าปัดนาฬิกาทำได้ไวกว่ากันมาก ในหลายๆ ครั้งที่ใช้งานจึงแทบไม่ได้ใช้สี่ปุ่มที่อยู่บนนาฬิกาเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี ปุ่มทั้ง 4 ปุ่มบนนาฬิกาก็จะมีประโยชน์มากๆ เวลาที่มือของคุณเปียกน้ำ ซึ่งมันจะทัชหน้าจอไม่ติด การใช้ปุ่มเหล่านี้ก็ช่วยคุณได้มากทีเดียว
ขณะที่สายนาฬิกาก็ใช้ยางซิลิโคนที่มีน้ำหนักเบา ด้านหลังของหน้าปัดก็จะเป็นพื้นที่การจัดวางเซนเซอร์ต่างๆ เช่น เซนเซอร์อัตราการเต้นของหัวใจ, เซนเซอร์วัดความอิ่มตัวของระดับออกซิเจนในเลือด และแม่เหล็กสำหรับชาร์จนาฬิกา
หน้าปัดของ Amazfit T-Rex Pro มีขนาดหน้าจอ 1.3 นิ้ว ใช้จอแบบ AMOLED เมื่อใช้งานกลางแจ้งก็พอที่จะเห็นหน้าจอแบบไม่ลำบากมาก มีระบบการสั่น
การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน
ทั้งนี้ Amazfit T-Rex Pro ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน Zepp ซึ่งรองรับทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยภายในแอปจะมีข้อการอธิบายข้อมูลต่างๆ ที่ละเอียดกว่าหน้าปัดบนเรือนนาฬิกา ทั้งข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจในแต่ละวัน เมื่อสัปดาห์ก่อน ไปจนถึงปีก่อนหน้า
พร้อมกันนี้ ยังมีการแสดงผลของค่า PAI (Personal physiological activity indicator) ซึ่งเป็นระบบการประเมินสุขภาพจากกิจกรรมต่างๆ ของผู้สวมใส่ แล้วแสดงผลในรูปแบบของคะแนนสุขภาพ เช่นเดียวกับการแสดงผลคะแนนคุณภาพการนอนของคุณในแต่ละคืน ซึ่งจะมีบอกว่าคืนนั้นหลับลึกหรือ Deep sleep แค่ไหน แสดงค่าออกมาเป็นตัวเลขที่เข้าใจได้ไม่ยาก
นอกจากนี้แล้ว แอปพลิเคชัน Zepp ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเราตั้งนาฬิกาปลุกในแต่ละวัน ตั้งค่าหน้าตาของนาฬิกา การตั้งค่าการแจ้งเตือนต่างๆ สามารถทำได้ทั้งหมดภายในแอปพลิเคชันนี้
...
Amazfit T-Rex Pro อึด ถึก ทน
ในภาพรวมการทำงานของ Amazfit T-Rex Pro ทำได้ดีทีเดียว โดยมีฟังก์ชันการออกกำลังกายหลักๆ ครบ แต่จะเน้นไปที่การออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น การปีนเขา ไต่เขา ว่ายน้ำ ฟุตบอล เซิร์ฟ แล่นเรือ เป็นต้น
แต่ด้วยสภาพการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้ฟังก์ชันการออกกำลังกายที่ใช้งานหลักๆ จะเป็นการออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิงอินดอร์ภายในบ้าน โดยที่มันจะแสดงผลว่าขณะนี้หัวใจของเรากำลังทำงานอยู่ในโซนใด ออกกำลังกายมาแล้วนานกี่นาที เผาผลาญไปแล้วกี่แคลอรี เป็นต้น
แต่ว่าถ้าหากคุณต้องการให้ข้อมูลในการออกกำลังซิงค์กับแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่ใช้งานร่วมกันอยู่ เช่น แอปพลิเคชันตรวจสอบการกินในแต่ละวันอย่าง MyFitnessPal อันนี้ไม่สามารถทำได้ โดยหลักแล้ว อุปกรณ์ของ Amazfit สามารถซิงค์ได้กับอุปกรณ์ของ Amazfit กับระบบปฏิบัติการ (ในที่นี้คือ iOS) นอกนั้นก็เป็นการซิงค์ข้อมูลกับ WeChat, Relive หรือ Strava กล่าวในภาพรวม มันไม่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบุคคลที่สาม (Third-party) ได้มากนัก
พร้อมกันนี้ ด้วยความที่มันเป็นนาฬิกามันจึงถูกออกแบบให้เป็นจอที่สองของมือถือ โดยที่เราสามารถดูการแจ้งเตือนต่างๆ จากมือถือ ชนิดที่เราไม่ต้องหยิบมือถือมาดู แค่พลิกนาฬิกามาก็เห็นการแจ้งเตือนที่เข้ามาได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการออกแบบอินเตอร์เฟสบนหน้าปัดของ Amazfit T-Rex Pro ยังทำได้ไม่ดีนัก กล่าวคือ เวลาที่เราอ่านการแจ้งเตือนที่เข้ามาเสร็จแล้ว ถ้าจะลบการแจ้งเตือนนั้นในหน้าที่อ่านจะไม่สามารถทำได้ ต้องกด Back หรือปาดที่หน้าจอแล้วแตะค้างไปที่หน้าจอเพื่อทำการลบ ซึ่งไม่ค่อยสะดวก และยุ่งยากหลายขั้นตอน
...
แบตเตอรี่ของ Amazfit T-Rex Pro ถือว่าอึดทีเดียว สามารถใช้งานได้เกินหนึ่งสัปดาห์ต่อการชาร์จเต็มประจุหนึ่งครั้ง ซึ่งการชาร์จหนึ่งครั้งจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้งานเซนเซอร์ต่างๆ ของนาฬิกาบ่อยๆ ถี่ๆ หรือเปิดหน้าจอเป็นแบบ Always-on แบตเตอรี่จะลดลงรวดเร็วอย่างมาก และจะใช้งานได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ในส่วนความสามารถอื่นของ Amazfit T-Rex Pro สามารถกันน้ำได้ถึงระดับ 10 ATM ซึ่งในสเปกชีตบนหน้าเว็บไซต์ของ Amazit ระบุว่า นาฬิกาเรือนนี้ผ่านการทดสอบทางทหารที่ทรหดกว่า 15 ครั้ง ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนๆ ถึงสามเท่า
สิ่งที่ประทับใจ
- การออกแบบที่ตรงใจนักกีฬาสายลุย ทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
- ฟังก์ชันเยอะและการตอบสนองดีเยี่ยม
...
สิ่งไม่ชอบ
- รองรับแอปพลิเคชัน Third-party น้อยมากๆ
- อินเตอร์เฟสฟังก์ชันการแจ้งเตือนยังทำได้ไม่ดีนัก
สรุป
Amazfit T-Rex Pro เป็นนาฬิกาออกแบบมาได้ดี หน้าตาดูเป็นสายลุย มีความทนทานประมาณหนึ่ง แม้ว่าวัสดุประกอบงานจะไม่ได้ดูมีราคาแพงมากนัก นอกจากนั้นแล้วฟีเจอร์ต่างๆ เช่น เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เซนเซอร์เกี่ยวกับการออกกำลังกายประเภทต่างๆ ถือว่ามีครบถ้วนจบในเรือนเดียว และแบตเตอรี่มีความอึดใช้งานได้นานหนึ่งสัปดาห์