ซัมซุง (Samsung) หวังผลักดันภาคธุรกิจของประเทศไทย เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุค Digital Disruption ปั้นตลาดใหม่ Rugged Device ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่มีความทนทานสูง
นายมารุต มณีสถิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2020 ทำให้ทุกองค์กรถูกบังคับให้ปรับตัวอย่างไม่ทันตั้งตัว และต้องการเทคโนโลยีเฉพาะทางมากขึ้น
ในปี 2021 ที่จะถึงนี้ ซัมซุง จะรุกตลาดองค์กรด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่เรียกว่า Rugged Device ซึ่งเป็นกลุ่มอุปกรณ์ที่มีความทนทานสูง ประกอบไปด้วย Samsung Galaxy Tab Active Pro, Samsung Galaxy Tab Active 3 และ Samsung Galaxy XCover Pro
“จุดแข็งของ Rugged Device จากซัมซุง อยู่ตรงที่มีแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัยในระดับสูงอย่าง Samsung Knox โดยแพลตฟอร์มนี้มีให้ใช้งานตั้งแต่ Samsung Galaxy A51 ไปจนถึงแฟลกชิปอย่างซีรีส์ Galaxy S และ Galaxy Note”
ขณะเดียวกัน Rugged Device ทุกรุ่นของซัมซุงจะมีความโดดเด่นด้านความทนทานต่อการตกกระแทก การกันน้ำกันฝุ่น ใช้งานได้ขณะที่สวมถุงมือ ตลอดจนสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาทางการแพทย์ ดังนั้นจึงนำไปใช้ได้ในทุกอุตสาหกรรม
...
อย่างไรก็ตาม ในตลาดองค์กรของกลุ่ม Rugged Device ซัมซุงจะเลือกทำเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเท่านั้น โดยในส่วนโน้ตบุ๊ก คงจะยังไม่ได้เห็นในเร็ววันนี้
“ซัมซุงไม่ได้เชี่ยวชาญในตลาดแล็ปท็อปมากนัก เมื่อเทียบกับตลาดโมบายล์”
พร้อมกันนี้ มารุต บอกด้วยว่า จากรายงานของ Tech Research Asia พบว่า กว่า 44 เปอร์เซ็นต์ ขององค์กรไทย มีการใช้งาน Rugged Device อยู่แล้ว นั่นจึงทำให้ปีหน้า ซัมซุงจะเน้นหนักในตลาดนี้ให้มากขึ้น
“ตัวเลข 44 เปอร์เซ็นต์ของไทย ถือว่าเยอะทีเดียว เพราะตัวเลขของไทยเราห่างจากประเทศโลกที่หนึ่งไม่มากนัก ยกตัวอย่างในประเทศออสเตรเลียมีการใช้ Rugged Device ราว 50 เปอร์เซ็นต์, สิงคโปร์ 55 เปอร์เซ็นต์ และมาเลเซีย 57 เปอร์เซ็นต์”
นอกจากนี้ มารุต เผยอีกว่า ความต้องการในอุปกรณ์กลุ่ม Rugged Device ไม่ได้มีแค่ฝั่งองค์กรเท่านั้น แต่มีในกลุ่มของพ่อแม่ที่มีลูกเล็กด้วย เนื่องจากอุปกรณ์กลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่หน้าจอตกแตกน้อยกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นปกติ.