ถือว่าเป็นตลกร้ายจริงๆ ที่ซีอีโอถูกบีบให้ออกจากบริษัทที่ตัวเองสร้างมากับมือ แต่คุณรู้ไหม? นอกจากสตีฟ จ๊อบส์ ยังมีซีอีโอคนอื่นอีกที่ต้องออกจากบริษัทตัวเองด้วยนะ บางคนก็ได้กลับเข้าไปเป็นซีอีโอใหม่ แต่บางคนก็ไม่ จะมีใครบ้าง ลองไปดูกัน
Jerry Yang - Yahoo, Inc
หยาง คือหนึ่งในสองผู้ก่อตั้ง Yajoo! บริษัทที่ให้บริการเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของโลก เขาและเดวิ ฟิโล สองนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดสร้างบริษัทขึ้นในปี 1995 ในช่วงเริ่มแรกนั้นต้องยอมรับว่า Yahoo! ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ราคาหุ้นก็พุ่งสูงถึง 475 ดอลลาห์ต่อหุ้น มากเป็นประวัติการณ์ของบริษัทไอทีในขณะนั้น จนไมโครซอฟท์ยังเคยเข้ามาเสนอขอซื้อกิจการในราคาที่สูงลิ่ว แต่หยางก็ปฏิเสธไป นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกบีบออกจากตำแหน่งซีอีโอ และให้ไปอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารแทน
...
Mike Lazaridis - Blackberry
ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ก่อนที่ iPhone จะบูม แบล็คเบอร์รี่เคยปฏิวัติวงการสื่อสารด้วยระบบการส่งข้อความระหว่างมือถือแบล็คเบอร์รี่ด้วยกัน เพียงแค่ใส่ Pin Code ของอีกเครื่อง ก็สามารถส่งข้อความหากันได้แบบเรียลไทม์ไม่ว่าอีกฝ่ายจะอยู่มุมไหนของโลก แต่ไม่ทันไรเจ้ามือถือจอสัมผัสอย่าง iPhone ก็เข้ามาตีตลาดซะยับเยิน แม้ว่า Mike จะพยายามแก้เกมขนาดไหน แต่ BB ที่รันด้วยระบบปฏิบัติการเก่าอย่าง Java ก็ไม่สามารถไล่ตามแบรนด์อื่นได้ทัน ส่งผลให้เหล่ากรรมการบริหารโทษว่าเขาเป็นผู้นำที่ทำให้บริษัทตกต่ำลง เป็นการบีบกลายๆ ทำให้ไมค์ต้องถอนตัวจากทุกตำแหน่งในบริษัทที่เขาร่วมสร้างขึ้นมากับมือ
Jack Dorsey - Twitter
ถ้าให้เล่าเรื่องของแจ็ค อาจจะเป็นมหากาพย์ไตรภาค ยาวกว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่เสียอีก เขาคือเด็กหนุ่มที่เป็นผู้ปิ๊งไอเดียการสร้างโซเชียลมีเดียแบบข้อความสั้น หรือก็คือ Twitter ในปัจจุบัน และการที่เขานั่งตำแหน่งซีอีโอตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น อาจขาดประสบการณ์ชีวิตไปบ้างทำให้เขาโดนเสียงวิพากษ์วิจารย์ว่าเอาเวลาไปคิดอย่างอื่นมากกว่าการทุ่มเทให้ทวิตเตอร์ เขาจึงถูกกลุ่มผู้ถือหุ้นกดดันให้ลงจากจำแหน่งซีอีโอ แต่ก็ยังคงดำรงตำแหน่งบอร์ดบริหารอยู่ เมื่อลงจากตำแหน่งซีอีโอ แจ็คได้เปิดบริษัทใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งบริษัทชื่อ Square และก็ไปได้สวยซะด้วย แต่เมื่อ Facebook เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ทวิตเตอร์กลับนิ่ง แจ็คเลยถูกเชิญกลับมาเป็นซีอีโออีกครั้ง แหม...คล้ายๆ เรื่องราวของ สตีฟ จ๊อบส์ จนคนเรียกเค้าว่าสตีฟ จ๊อบส์ 2 เลยนะ
Steve Jobs - Apple, Inc
ถึงแม้ว่าสตีฟ จ๊อบส์ จะจากพวกเราไปแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งของคนไอที ที่สามารถสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนโลกขึ้นมาได้ จ๊อบส์ในวัยเพียง 20 ปี ก่อตั้งบริษัท Apple ขึ้นมาพร้อมเครื่องMac และหลังจากนั้นอีกเพียง 10 ปี Apple ก็กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ แต่ก็เกิดการแย่งชิงอำนาจกันในคณะกรรมการบริหาร เขาจึงถูกบีบให้ลาออกจากบริษัทที่ตัวเองสร้างขึ้นมา แต่ปี 1997 เขาก็กลับไปนั่งเก้าอี้ซีอีโอใน Apple อีกครั้งจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2011 หลังจาก iPhone 4S เปิดตัวได้เพียงวันเดียว
...
Travis Kalanick - Uber
เปิดข่าวครึกโครมของอาทิตย์นี้ทีเดียว ที่ ทราวิส คาลานิก หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทให้บริการแท็กซี่อย่าง “อูเบอร์” ต้องประกาศลาออก หลังถูกกรรมการผู้ถือหุ้นบีบให้ลาออก เนื่องจากปัญหาเรื้อรังขององค์กร อาทิ ปัญหาภายในองค์กรที่เป็นข่าวว่าพนักงานหญิงถูกคุกคามทางเพศ ปัญหาที่อูเบอร์ยังไม่เป็นที่ยอมรับในหลายประเทศ และนักลงทุนมองว่าปัญหานี้อาจส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลง (ซึ่งจะทำให้พวกเขาขาดทุน) จดรวมตัวกันเรียกร้องให้ซีอีโอผู้นี้ลาออก แต่อย่างไรก็ตาม คาลานิก ก็ยังคงมีตำแหน่งอยู่ในบอร์ดบริหารต่อไป พร้อมมีเอกสารถึงสื่อต่างๆ ว่า “เขารักอูเบอร์มากกว่าสิ่งอื่นใด และการที่เขายอมลงจากตำแหน่งซีอีโอตามคำขอของนักลงทุนนั้น เพื่อให้อูเบอร์สามารถพัฒนาต่อไปได้ โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งกันเองภายในองค์กร”
ซึ่งก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าทราวิส คาลานิก จะเป็นสตีฟ จ๊อบส์ เบอร์ 3 ที่กลับมานั่งตำแหน่งซีอีโอของบริษัทอีกครั้ง และช่วยให้บริษัทผ่านพ้นวิกฤติอื่นๆ ในอนาคตหรือไม่...