เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) ประกาศเดินเครื่องศูนย์จัดเก็บข้อมูลแห่งที่ 2 ในไทย เล็งลงทุน 300 ล้านบาท เริ่มดำเนินการต้นปี 2560 หนุนรัฐดันประเทศไทยสู่การเป็นฮับด้านดิจิตอลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้…

นายมานาบุ คาฮารุ ประธาน บริษัท เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทสนับสนุนนโยบายดิจิตอลไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล และต้องการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านดิจิตอลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดทราฟิกจากการใช้งานและไหลสู่ต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ประเทศดังกล่าวมีการเติบโตด้านทราฟิกและไอทีเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบันประเทศไทยมีเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำไม่เกิน 8 เส้น ขณะที่สิงคโปร์มีมากกว่า 15 เส้น จึงสามารถรองรับการใช้งานด้านอินเทอร์เน็ตได้มากกว่าไทย อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสนับสนุนให้ไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิตอลของภูมิภาคได้โดยเร็ว

"หากประเทศไทยกลางเป็นฮับด้านดิจิตอลของภูมิภาคได้ เชื่อว่าจะส่งผลให้ราคาในการให้บริการถูกลง เช่นเดียวกับการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ยิ่งมีความต้องการใช้งานมาก ราคาและการแข่งขันจากผู้ให้บริการก็จะเกิดขึ้นตามมาและส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้บริการปรับลดลง ส่วนการเติบโตของเทคโนโลยีคลาวด์ของประเทศไทยนั้น เชื่อว่าในช่วง 1-2 ปีนี้จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอนโดยเฉพาะเอนเตอร์ไพร์ซ คลาวด์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาองค์กรยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย ทำให้การให้บริการในปัจจุบันต้องมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไทยจะมีการใช้งานคลาวด์ คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้นแบบเลข 2 หลัก ได้ภายใน 2 ปีจากนี้"

...


นายศานิต เกษมสันต์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการแผนกผลิตภัณฑ์และบริการ เอ็นทีที กล่าวว่า บริษัทให้บริการด้านเอนเตอร์ไพร์ซ คลาวด์ ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553 โดยแนวโน้มการใช้บริการคลาวด์ขององค์กรในปัจจุบันมุ่งไปที่รูปแบบพับบลิค คลาวด์และไฮบริด คลาวด์ ภายใต้การฝากข้อมูลไว้กับผู้ให้บริการทำให้องค์กรสามารถลดต้นทุนในการดูแลระบบและพนักงานผู้ดูแลระบบ ทั้งยังบริหารจัดการพื้นที่ใช้งานได้โดยง่าย เช่นเดียวกับที่ไอดีซี บริษัทวิจัยชั้นนำได้เปิดเผยผลการสำรวจความต้องการใช้งานคลาวด์ขององค์กรไว้ โดยระบุว่า ในปี 2557 การใช้งานไฮบริด คลาวด์ เติบโตราว 10% และเชื่อว่าจะเพิ่มเป็น 20% ในปีนี้

"ไอดีซีคาดการณ์ไว้ว่าการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์จะเติบโตขึ้นทุกปี ปีละ 20% ราว 2-3 ปี นับตั้งแต่ปีนี้ แม้ว่าในประเทศไทยจะยังมีฐานผู้ใช้งานไม่มาก แต่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ (ศูนย์จัดเก็บข้อมูล) แห่งที่ 2 ในประเทศไทยในชื่อ Nexcenter โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 6 เฟส และขณะนี้อยู่ระหว่างรอดำเนินงานเฟสที่ 2 ในช่วงต้นปี 2560 ด้วยงบประมาณลงทุนราว 300 ล้านบาท กับพื้นที่ 1,000 ตร.ม. เท่ากับเฟสที่ 1 เพื่อรองรับเทรนด์การใช้งานคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 บริษัทจะทำตลาดและเร่งขยายตลาดมากขึ้น จากเดิมที่มีลูกค้าเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นกว่า 70-80% และบริษัทไทย 20-30% โดยลูกค้าหลักคือกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงาน ธุรกิจจัดส่งสินค้า และสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าราว 100 ราย และตั้งเป้าเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวในปี 2560 พร้อมทั้งเพิ่มรายได้ให้บริษัท จากเดิมที่กลุ่มบริษัททั่วโลกมีรายได้รวม 105,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ยังมีการก่อตั้งบริษัทในเครือเอ็นทีที กรุ๊ป ในชื่อบริษัท เอ็นทีที ซีเคียวริตี้ เพื่อให้บริการด้านบริหารจัดการความปลอดภัยในระดับมืออาชีพ MSS (Managed Security Services) ซึ่งได้ผนวกรวมเทคโนโลยีการวิเคราะห์ภัยคุกคามขั้นสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอีกด้วย.