อัพเดตความเคลื่อนไหวหลังเว็บดีลชื่อดัง "เอ็นโซโก้" ประกาศปิดบริการใน 6 ประเทศ พร้อมคำแนะนำสำหรับเจ้าของสินค้าหรือบริการ และผู้บริโภคที่เกิดปัญหาจากการซื้อดีล…

กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดของแวดวงอีคอมเมิร์ซในช่วงนี้ จากการปิดตัวอย่างกะทันหันของเว็บดีลชื่อดังอย่าง "Ensogo" (เอ็นโซโก้) จนส่งผลกระทบต่อการใช้งานดีลสินค้าและบริการกับลูกค้า Ensogo บางส่วน เนื่องจากผู้ให้บริการและเจ้าของสินค้าหลายรายประกาศไม่รับคูปองที่มาจากเว็บดังกล่าวอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม...เราขอพาคุณไปไล่เรียงความเคลื่อนไหวของอดีตเว็บดัง รวมถึงคำแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเข้าข่ายดังกล่าว...!

1. เว็บ Ensogo เปิดให้บริการในหลายประเทศ อาทิ ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และแน่นอน...ประเทศไทย


2. Ensogo จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย แต่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ปสิงคโปร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ Ensogo เคยประกาศว่ามีทีมงานมากถึง 800 คน พร้อมให้บริการใน 6 ประเทศ

3. สำหรับดีลที่ Ensogo เคยให้บริการนั้นมีหลากหลายประเภท ทั้งร้านอาหาร ท่องเที่ยว ความงาม แฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ของแต่งบ้าน แม่และเด็ก กีฬา สุขภาพ เครื่องดื่ม ฯลฯ และด้วยความหลากหลายนี้เอง ทำให้ Ensogo ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย

4. ในระยะหลังเริ่มมีกระแสข่าวมากมายเกี่ยวกับการขาดทุนและการปลดพนักงานจำนวนมาก รวมถึงเรื่องที่ว่า...ซีอีโอของบริษัทอย่าง Kris Marszalek ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.2559

...


5. หลังจากเกิดปัญหาดังกล่าว ได้มีเพจชื่อ "รวมผู้ได้รับผลกระทบensogo" ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กกดถูกใจและติดตามแล้วเกือบ 4,000 ราย ซึ่งเพจดังกล่าวมีการรวบรวมคำแนะนำและขั้นตอนแก้ไขปัญหาการซื้อดีลแล้วใช้ไม่ได้ พร้อมทั้งคอยอัพเดตความเคลื่อนไหวในประเด็นดังกล่าวเป็นระยะ

6. หากเข้าเว็บไซต์ Ensogo ประเทศไทย ก็จะพบกับการจำหน่ายดีลอาหารและบริการต่างๆ เหมือนดังปกติ เพียงแต่ไม่สามารถกดซื้อดีลได้แล้ว โดยจากการทดลองเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 มิ.ย. พบว่ายังสามารถกดเลือกดีลต่างๆ ลงตระกร้าสินค้าได้ แต่จะไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้

7. ส่วนในเพจ Ensogo Thailand นั้น พบว่ามีการโฆษณาดีลสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2559 เวลา 09.00 น. โดยเป็นดีลบุฟเฟ่ต์จิ้มจุ่มอาหารอีสาน


8. แม้ว่าหลายร้านอาหาร รวมถึงสินค้าและบริการหลายแห่งจะประกาศ "งด" รับดีลที่มาจากเว็บ Ensogo แต่ก็ยังมีผู้ให้บริการอีกหลายรายออกมาประกาศรับดีลจนกว่าจะครบระยะการใช้งาน เพื่อลดภาระแก่ผู้บริโภค โดยผู้บริโภคที่ต้องการใช้ดีลจากเว็บดังกล่าวควรสอบถามโดยตรงก่อนใช้งาน

9. ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. ได้ออกมาให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.เจ้าของสินค้าหรือกิจการ ต้องยื่นหนังสือหรือดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกเงินค่าสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคได้ชำระผ่านช่องทางของ Ensogo โดยเร็วที่สุด 2.ผู้บริโภค สามารถร้องเรียนผ่านเลขหมาย 1212 หรือ สคบ.1166 หากพบเจ้าของสินค้าหรือบริการปฏิเสธการใช้คูปองของ Ensogo หรือในกรณีที่ผู้บริโภคไม่ประสงค์ใช้บริการก็มีสิทธิ์ขอยกเลิกบริการภายใน 45 วันนับตั้งแต่วันซื้อหรือขอรับบริการ หรือภายใน 30 วันตั้งแต่วันถึงกำหนดส่งมอบหรือบริการ นอกจากนี้ หากสามารถพิสูจน์ว่าไม่ได้รับสินค้าหรือบริการ ก็ยังสามารถแจ้งเรื่องไปยังธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตเพื่อขอให้ระงับการจ่ายเงินไปยัง Ensogo ส่วนผู้ที่ชำระด้วยเงินสดผ่าน Ensogo cash ก็สามารถประสานงานไปที่ 1212 ได้เช่นกัน

10. ล่าสุด วันที่ 23 มิ.ย. ราวๆ 14.30 น. ได้มีความคืบหน้าจากเอ็นโซโก้ออกมาเป็นครั้งแรก โดยเป็นการเผยแพร่รูปภาพผ่านเพจ Ensogo Thailand ระบุว่า "เนื่องจากผู้ถือหุ้นออสเตรเลียได้หยุดการสนับสนุนเงินทุนอย่างกะทันหัน ขณะนี้ Ensogo กำลังรีบดำเนินการเพื่อหาแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมและข้อสรุปที่ดีที่สุดให้กับท่านอย่างสุดความสามารถ ทางบริษัทฯ ขออภัยเป็นอย่างสูงต่อความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่าน ในการรอรับข้อมูลรายละเอียดที่ชัดเจนและถูกต้อง ซึ่งบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบโดยเร็วที่สุด หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ support@ensogo.co.th"

อย่างไรก็คงต้องติดตามความคืบหน้าจากกรณีต่อไป ว่าท้ายที่สุด...ทั้ง Ensogo และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จะมีทางออกอย่างไร...!

...