พิสูจน์เลนส์อาร์ตขาวดำ! หัวเว่ย พี9 เรียกเรตติ้งสำเร็จไหม เมื่อไลก้ามาแจม

"แกะกล่อง IT" พาคุณไปคลายข้อข้องใจ กับสมาร์ทโฟนเรือธงจากแบรนด์ "Huawei" ในรุ่น "P9" มือถือที่เรียกเสียงฮือฮาจากความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกับแบรนด์ดังเรื่องกล้องอย่าง "Leica"...

สามารถเรียกความสนใจได้ไม่น้อย กับความร่วมมือระหว่างผู้พัฒนาสมาร์ทโฟนและผู้พัฒนากล้องระดับโลก อย่าง "หัวเว่ย" และ "ไลก้า" เพราะถือเป็นครั้งแรกของวงการสมาร์ทโฟนกับรูปแบบการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม "พี ซีรีส์" (P Series) อาทิ พี9 (P9) และพี9 พลัส (P9 Plus) ยังไม่รวมถึงน้องเล็กรุ่น พี9 ไลท์ (P9 Lite) ที่อยู่ในตระกูลเดียวกันแต่ไม่มีเทคโนโลยีจากไลก้าเหมือน 2 รุ่นพี่

ครั้งนี้...แกะกล่อง IT by PRISM มีโอกาสได้จับสัมผัสและทดลองใช้งาน "หัวเว่ย พี9" ซึ่งเป็นหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยีของไลก้าอยู่ภายในเครื่อง หากอยากรู้ว่ามีจุดเด่นอย่างไร ความเป็นไลก้าที่หัวเว่ยพยายามนำเสนอนั้น งดงามน่าเป็นเจ้าของหรือไม่ รับรองว่าคุณจะได้รู้จากเรา!!!

...

พิเศษ...อย่างไร?
เริ่มต้นด้วยสเปกที่สร้างความพิเศษให้กับหัวเว่ย พี9... กับเทคโนโลยีจากความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและไลก้า ทั้งในส่วนของระบบการทำงาน ตัวเครื่อง เลนส์ และเซ็นเซอร์ นอกจากนี้ยังมีความพิเศษของกล้องด้านหลัง เพราะมาพร้อมกัน 2 เลนส์ และแต่ละเลนส์ก็มีการแยกการใช้งานอย่างชัดเจน เช่น ตัวแรกเป็นกล้อง RGB ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทำหน้าที่ควบคุมภาพสีให้สวยงามโดดเด่น ขณะที่กล้องอีกตัวจะทำหน้าที่เก็บรายละเอียดเฉพาะภาพขาวดำ! ทำให้ภาพมีความชัดเจน โดยกล้องทั้ง 2 ตัวเหมาะกับการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ส่วนกล้องด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

สเปก...?
นอกจากดีไซน์เรียบหรูเพื่อตอบสนองการใช้งาน หัวเว่ย พี9 ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนพรีเมียมในตระกูลพี ซีรีส์ ด้วยหน้าจอแบบ 2.5D แบบ Diamond Cut ขนาด 5.2 นิ้ว ความคมชัด Full HD 1080p และตัวเครื่องที่ผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับการสร้างยานอวกาศ ความจำ 64GB มาพร้อมกับสี Haze Gold ซึ่งได้รับการขัดเงาให้มีพื้นผิวโปร่งแสงจึงให้ความรู้สึกหรูหราเป็นพิเศษ ส่วนหน่วยประมวลผลนั้น...ใช้ชิปเซต Kirin 955 2.5GHz 64-bit ARM โปรเซสเซอร์ แบตเตอรี่ 3,000 mAh สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Dual-IC Rapid Charge ทำให้สามารถคุยต่อเนื่องได้นานถึง 6 ชั่วโมงสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่เพียง 10 นาที ภายใต้ตัวเครื่องน้ำหนัก 144 กรัม

ยังไม่นับรวมถึง...ความพิเศษของเซ็นเซอร์ประเภทต่างๆ ที่ใส่อยู่ภายในหัวเว่ย พี9 อาทิ ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ, จี-เซ็นเซอร์, ระบบเซ็นเซอร์หมุนภาพ, เข็มทิศ, ระบบตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ, ระบบเปิดปิดหน้าจออัตโนมัติ เป็นต้น

...

...

เทคโนโลยีใหม่...?
ไม่ใช่แค่คุณสมบัติและคุณภาพการใช้งานทั่วไป แต่หัวเว่ยยังนำเสนอเทคโนโลยีที่รองรับการใช้งานออนไลน์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีพิเศษของการออกแบบเสาสัญญาณรับคลื่นมือถือและสัญญาณไว-ไฟที่แม่นยำ ในชื่อ Virtual-Triple-Antenna เพื่อการเชื่อมต่อโลกออนไลน์ไม่ให้สะดุด รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงด้วยเทคโนโลยีระบบสแกนนิ้วมือแบบ Biometric ช่วยให้การเข้าสู่ระบบมีความแม่นยำเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ขณะเดียวกันก็สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังนำเสนอความพิเศษด้านบริการหลังการขาย โดยการันตีซ่อมภายใน 1 ชั่วโมง และเปลี่ยนเครื่องใหม่ทันทีหากไม่สามารถซ่อมได้ ซึ่งสิทธิประโยชน์ดังกล่าวเริ่มต้นความพิเศษที่รุ่นพี 9 และพี9 พลัส

...

…สรุป...
1. หัวเว่ย พี9 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่คุ้นเคยกับไอโฟนมาก่อนและกำลังอยากลองแบรนด์แอนดรอยด์ดูบ้าง เพราะหน้าตาการใช้งานของเมนูหรือทางลัดการเข้าถึงนั้นมีความละม้ายกับไอโฟนค่อนข้างมาก ซึ่งถือเป็นข้อดีประการหนึ่ง...ไม่ใช่ว่าดีเพราะคล้ายกับไอโฟน แต่ดี เพราะทำให้ผู้ใช้ (ที่ไม่คุ้นกับแอนดรอยด์) รู้สึกว่าใช้งานง่ายกว่าเมื่อเทียบกับแอนดรอยด์อีกหลายๆ แบรนด์นั่นเอง

2. หลายคนอาจมองว่าการมีกล้องด้านหลังถึง 2 ตัว แต่มี 1 เลนส์ถูกแยกไว้สำหรับการถ่ายภาพขาวดำโดยเฉพาะ อาจทำให้ประสิทธิภาพการถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยเครื่องนี้ลดลง แต่ในความจริงแล้ว...คนส่วนใหญ่ที่ได้ทดลองการถ่ายภาพขาวดำต่างบอกคล้ายกันว่าภาพที่ได้นั้นสามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้น่าประทับใจกว่าที่คิด แม้จะเป็นการถ่ายภาพขาวดำแต่ก็มีระดับสีหลากหลายและชัดเจน

3. ยังคงอยู่ที่เรื่องกล้อง...แน่นอนว่านอกจากคุณภาพที่หัวเว่ยจับมือไลก้ามาการันตีให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้น ความสนุกในการถ่ายภาพก็ไม่น้อยหน้าแถมยังใช้งานง่าย เพียงแตะแล้วลากด้านข้างจอทั้งซ้ายหรือขวา รวมถึงลากขึ้นจากด้านล่าง ล้วนเป็นโหมดการถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกและกำหนดค่าได้เอง น่าจะถูกใจบรรดาช่างภาพทั้งหลาย ส่วนคนชอบเซลฟี่ก็ไม่ต้องน้อยใจ เพราะกล้องหน้ามาพร้อมคุณสมบัติปรับแต่งสีภาพได้ถึง 10 ระดับ เลือกได้ตั้งแต่หน้าสด หน้าใส ไปจนถึงหน้าขาวเหมือนทาแป้งรองพื้นกันเลยทีเดียว

4. เห็นในสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์หลายๆ รุ่นมาแล้ว กับปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่จัดวางอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งต้องยอมรับว่าใช้งานการปลดล็อกได้สะดวกขึ้น แต่ในส่วนของหัวเว่ย พี9 ปุ่มดังกล่าวยังใช้แตะและยกนิ้วออกเพื่อแทนการกดชัตเตอร์ถ่ายภาพได้อีกด้วย แต่จากการทดลองใช้พบว่ามีความหน่วงอยู่บ้างเมื่อใช้งานในลักษณะดังกล่าว

5. ถ้าคุณใช้งานสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ แต่มีคอมพิวเตอร์ในตระกูลไอโอเอส หัวเว่ยเครื่องนี้สามารถทำให้คุณหมดกังวลเรื่องการเชื่อมต่ออุปกรณ์คนละตระกูลได้ เพียงเสียบสาย USB จากตัวเครื่องเข้ากับคอมพิวเตอร์ คุณก็สามารถลากนิ้วจากด้านบนของจอและเลือกประเภทการเชื่อมต่อว่าจะเข้าถึงภาพหรือไฟล์จากมือถือ จากนั้นก็สามารถเลือกหรือคัดลอกข้อมูลได้ทันที คล้ายๆ กับการลากข้อมูลออกจากแฟลชไดรฟ์

6. หากถามถึงความคุ้มค่า...หัวเว่ย ทำตลาดพี9 ในราคา 16,990 บาท เพื่อตีตลาดสมาร์ทโฟนราคาระดับกลาง-สูง แน่นอนว่าต้องการเจาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและมีกำลังใช้จ่าย รวมถึงแฟนๆ แบรนด์ไลก้า ซึ่งหากคุณคิดว่าต้องการสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานแบบรวมๆ ไม่ได้เน้นหนักว่าอยากถ่ายรูปด้วยความรู้สึกคล้ายกล้องโปร และไม่นับรวมการถ่ายเซลฟี่ หัวเว่ย พี9 ก็อาจจะยังไม่ตรงใจคุณ