ทำความรู้จักกับ ช้อปปี้ (Shopee) ช่องทางการช็อปออนไลน์รูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิดโซเชียลคอมเมิร์ซ ชูจุดเด่นช็อปและแชตไปได้พร้อมกัน...
เพราะบทบาทของอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลายในปัจจุบัน ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงไป ตั้งแต่การเรียน การทำงาน ความบันเทิง รวมถึงการเลือกซื้อสินค้า... ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีเพียงการเลือกซื้อผ่านเว็บไซต์ด้วยคอมพิวเตอร์ แต่ยังรวมถึงช่องทางการซื้อบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่สามารถอำนวยความสะดวกในการใช้งานและเลือกซื้อสินค้าอีกด้วย
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ในชื่อ "ช้อปปี้" ตลาดออนไลน์บนมือถือในรูปแบบแอพพลิเคชั่น ที่รวมร้านค้าจากโซเชียลมีเดียเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการซื้อขายสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา และสะดวกปลอดภัย
"เพราะเรามีแนวคิดว่ามนุษย์ทุกคนสามารถขายของได้ ภายในแอพช้อปปี้จะมีทั้งผู้ค้าหลักและรายย่อย ทำให้ทุกคนสามารถซื้อขายสินค้าได้อย่างเปิดกว้าง หลังจากตลาดอี-คอมเมิร์ซได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก็เกิดเทรนด์การค้ารูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเราได้นำเสนอช้อปปี้ ด้วยแนวคิดโซเชียลคอมเมิร์ซเพื่อตอบรับเทรนด์โซเชียล ให้ผู้ขายและผู้ซื้อที่ต้องการติดต่อกันสามารถใช้ประโยชน์จากช่องทางการค้าได้พร้อมกับการสนทนา เรียกว่ารองรับการมีปฏิสัมพันธ์ในการค้า พร้อมด้วยรูปแบบการจัดการค้าอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขนส่ง การชำระค่าบริการ ตอบสนองการใช้งานได้ทั้งผู้ขายและลูกค้าในเวลาเดียวกัน" นายเทเรนซ์ แพง ผู้อำนวยการบริหารประจำภูมิภาค ช้อปปี้ กล่าว
...
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการบริหารประจำภูมิภาค ช้อปปี้ กล่าวอีกว่า เราตั้งเป้าให้ช้อปปี้ขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มเอ็มคอมเมิร์ซ (โมบาย คอมเมิร์ซ) ภายในสิ้นปี 2559 ทั้งในส่วนของจำนวนดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นและจำนวนสินค้าที่ขาย รวมถึงจำนวนสั่งซื้อสินค้าผ่านผู้ขาย โดยปัจจุบัน ช้อปปี้ มียอดดาวน์โหลดในไทยประมาณ 1 ล้านดาวน์โหลด หลังจากเปิดตัวได้ราว 3 เดือน บริษัทจึงตั้งเป้ายอดดาวน์โหลดไว้ที่ 1.5 ล้านดาวน์โหลดภายในสิ้นปี
ได้รู้จักแอพ "ช้อปปี้" กันเป็นเบื้องต้นแล้ว... จากนี้ "ไทยรัฐออนไลน์" จะพาคุณไปทำความรู้จักแอพพลเคชั่นช็อปปิ้งออนไลน์แนวใหม่นี้เพิ่มเติม จาก 10 ข้อ รับรองว่าถูกใจนักช็อปแน่นอน...!!!
1. ช้อปปี้ ถือเป็นมาร์เก็ตเพลสแห่งหนึ่งบนโลกออนไลน์ เรียกง่ายๆ ก็เหมือนเป็นพื้นที่แสดงสินค้า ซึ่งเปิดกว้างสำหรับผู้ที่ต้องการค้าขายทุกคน!!! คุณสามารถใช้งานและเริ่มต้นขายสินค้าได้ง่ายๆ เพียงล็อกอินผ่านเฟซบุ๊ก
2. แม้จะเพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ช้อปปี้ก็เปิดตัวในประเทศอื่นๆ อีก 6 ประเทศด้วย ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยใช้เวลาในการทยอยเปิดตัวราวๆ 1 เดือน
3. ช้อปปี้ ให้ความสำคัญกับบริการในประเทศไทย สิงคโปร์ และไต้หวัน เป็นอย่างมาก และถือเป็นตลาดหลักในการให้บริการเลยทีเดียว
4. ปัจจุบันภายในแอพพลิเคชั่นช้อปปี้ มีสินค้ากว่า 450,000 ชิ้น ทั้งประเภทของใหม่แกะกล่องและสินค้ามือ 2 พร้อมให้นักช็อปทั้งหลายได้เลือกซื้อ
5. สินค้าที่ขายในแอพช้อปปี้นั้นเป็นสินค้าแบบเปิดกว้าง มีเกือบ 20 หมวดหมู่สินค้า แต่สินค้าที่มีจำนวนมากที่สุด คือ สินค้าหมวดแฟชั่น ซึ่งมีทั้งร้านเล็ก ร้านใหญ่ จากโซเชียลดังในการซื้อขายอย่างอินสตาแกรม
6. แม้จะเป็นช่องทางเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถซื้อ-ขายได้อิสระ แต่เรื่องความปลอดภัยนั้น... ช้อปปี้จะดูแลเรื่องความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก โดยมีการจัดระบบการเงิน...เมื่อลูกค้าชำระค่าสินค้า ช้อปปี้จะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการจัดเก็บเงินดังกล่าวไว้ รอจนลูกค้ายืนยันการได้รับและตรวจสอบว่าสินค้าถูกต้อง ช้อปปี้จึงจะจัดส่งค่าสินค้าไปยังผู้ค้า เพื่อป้องกันกรณีไม่ได้รับสินค้าหรือไม่พึงพอใจต่อสินค้านั่นเอง
7. อย่างที่บอกว่า ช้อปปี้ เปิดกว้างสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายทุกคน! พื้นที่ค้าขายของช้อปปี้จึงเปิดให้ใช้งานได้ฟรี
...
8. จุดเด่นของแอพช้อปปี้ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการพื้นที่ซื้อขายออนไลน์รายอื่น อยู่ที่...การตอบโจทย์เทรนด์การใช้งานมือถือและการเป็นโซเชียลคอมเมิร์ซ ที่ทำให้ผู้ขายและผู้ซื้อได้ปฏิสัมพันธ์กัน จนเกิดการจูงใจและความผูกพันในแบรนด์สินค้าหรือร้านค้า ทั้งยังมีความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อขาย รวมถึงระบบการจัดการการขายที่ครบวงจรให้กับผู้ค้า
9. ไม่ใช่แค่เพียงการชำระเงินด้วยการโอน... ช้อปปี้ยังมีบริการชำระเงินที่สะดวกสบาย ทั้งการจ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือเลือกชำระเงินสดเมื่อได้รับสินค้า ก็สามารถทำได้
10. คุณรู้ไหม? ยอดการใช้จ่ายในแอพช้อปปี้โดยเฉลี่ย มีการใช้จ่ายอยู่ที่ 1,000 บาทต่อคนต่อการสั่งซื้อ ซึ่งคิดเป็นการใช้งานประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
อยากซื้อของ หรือขายของ ผ่านช้อปปี้ ก็สามารถดาวน์โหลดแอพช้อปปี้ได้จากระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ หรือจะใช้บริการผ่านเว็บไซต์ช้อปปี้ (http://shopee.co.th) ก็ได้.