ที่มา : https://abc.xyz

ข่าวใหญ่โลกไอทีสัปดาห์นี้คือ “กูเกิล” ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Alphabet ขึ้นมาเป็นบริษัทแม่ ทำหน้าที่เป็นบริษัท “โฮลดิ้ง” ดูแลบริษัทลูกในเครือทั้งหมด

แน่นอนว่าบริษัทลูกหมายเลขหนึ่งของ Alphabet คือ “กูเกิล” ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของกูเกิลยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือบริษัทลูกของกูเกิลที่ทำธุรกิจแปลกใหม่หลายแขนง เช่น Nest Labs ที่ทำฮาร์ดแวร์เชื่อมต่อเน็ต, Calico บริษัทใหม่ที่เน้นเรื่องสุขภาพของมนุษย์, โครงการทดลองล้ำยุค Google X รวมถึงบริการอินเทอร์เน็ต Google Fiber และบริษัทลงทุน Google Ventures จะเปลี่ยนสถานะจากบริษัทลูกของกูเกิล กลายมาเป็นบริษัทลูกของ Alphabet แทน อธิบายง่ายๆ ว่าจากเดิมมีสถานะเป็นลูกของกูเกิล ก็จะกลายมาเป็นบริษัทพี่น้องที่มีสถานะเท่ากับกูเกิล

นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ แลร์รี เพจ จะก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอของ Alphabet แทน แถมยังพ่วงคู่หู เซอร์เกย์ บริน รับตำแหน่งประธานบริษัท Alphabet ควบคู่กัน ถือเป็นสองผู้กุมอำนาจสูงสุดของกลุ่ม Alphabet

ส่วน “กูเกิล” เดิมก็เปลี่ยนตัวผู้บริหารเช่นกัน โดยขยับเอา ซุนดาร์ พิชัย ผู้บริหารเชื้อสายอินเดียขึ้นมาเป็นซีอีโอแทน รับหน้าที่ดูแลงานด้านอินเทอร์เน็ตทั้งหมดของกูเกิลเดิม (ซึ่งซุนดาร์ก็ทำหน้าที่นี้มาได้ราวหนึ่งปีแล้ว แม้จะเพิ่งได้เป็นซีอีโอในคราวนี้)

สำหรับหุ้นของกูเกิลเดิมจะถูกแปลงเป็นหุ้นของ Alphabet โดยอัตโนมัติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงยกเว้นชื่อบริษัท ขนาดตัวย่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็ยังใช้ GOOG เหมือนของเดิม

...

ข่าวนี้ถือว่าช็อกโลกไอทีพอสมควร เพราะไม่มีใครเคยคิดว่ากูเกิลจะเปลี่ยนโครงสร้างชุดใหญ่ถึงระดับนี้ ผมขอถือโอกาสนี้วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงจากกูเกิลสู่ Alphabet สักหน่อยครับ

อย่างแรกต้องบอกว่ากูเกิลนั้น “แตกไลน์” หันมาสร้างบริษัทเทคโนโลยีเพื่ออนาคตมาได้สักระยะแล้ว ดังที่เราเห็นข่าวรถยนต์ไร้คนขับหรือบริษัทหุ่นยนต์ของกูเกิลมาหลายปี แนวทางของกูเกิลคือขยับตัวเองจาก “บริษัทอินเทอร์เน็ต” มาเป็น “บริษัทเทคโนโลยี” ที่ไปไกลกว่าขอบเขตของไอที แต่ในภาพรวมแล้วยังเป็นการนำเอาพลังของเครื่องจักร มาปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ในแวดวงที่แตกต่างกันไป เช่น คมนาคม สุขภาพ ความเป็นอยู่

แนวคิดล้ำๆ แบบนี้ของกูเกิลถูกเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “moonshot” ซึ่งแปลความหมายได้ว่า “ยิ่งใหญ่ระดับส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์” เป็นวิธีคิดแบบกูเกิลที่กล้าท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง และใฝ่ฝันจะทำในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ด้วยพลังของเทคโนโลยี

ทีนี้เมื่อกูเกิลขยายขอบเขตของตัวเองให้ไกลกว่าบริษัทอินเทอร์เน็ต ด้วยโครงสร้างเดิมจึงไม่สามารถบริหารงานได้มีประสิทธิภาพมากนัก ตัวซีอีโอ แลร์รี เพจ ก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่สามารถรับภาระงานทั้งของเก่า (บริษัทอินเทอร์เน็ต) และของใหม่ (บริษัทเทคโนโลยีด้านอื่น) ได้ไหว ทางแก้ของเขาจึงเป็นการตั้งซุนดาร์ พิชัย ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิลมาดูแลงานเก่าของกูเกิล ช่วยแบ่งเบาภาระของเพจ เพื่อให้เพจมีเวลาและสมาธิไปสนใจกิจการใหม่ๆ ของกูเกิลบ้าง ซึ่งในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา เราก็เห็นพิชัยทำงานได้ราบรื่นดี

แต่ก็ไม่มีใครคิดว่ากูเกิลจะถึงขนาดตั้งบริษัท Alphabet ขึ้นมาดูแลกิจการทั้งหมดในเครือ การเปลี่ยนแปลงรอบนี้จึงแสดงให้เห็นว่ากูเกิลนั้น “จริงจัง” กับธุรกิจใหม่ๆ ของตัวเองมาก ถึงแม้บริษัทใหม่ๆ ของกูเกิลจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ต้องรออีกสักพักใหญ่ๆ กว่าจะมีผลงานออกมาให้เห็นกัน แต่การตั้ง Alphabet ถือเป็นการส่งสัญญาณว่ากูเกิลเดินหน้าลุยเต็มที่ บรรดาผู้บริหารของบริษัทลูกทั้งหลายสามารถเดินหน้าลุย บุกฝ่าอนาคตได้แบบไม่ต้องพะวงด้านหลัง หรือกลัวว่ากูเกิลจะยุบบริษัทเหล่านี้ทิ้งไปเพราะธุรกิจไม่สอดคล้องกัน

ผมคิดว่าในระยะสั้นราว 1-2 ปีข้างหน้า กูเกิลก็จะยังเป็นกูเกิลเหมือนเดิม เราจะยังใช้ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลกันเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น Search, Maps, Gmail, YouTube, Chrome, Android แต่ในระยะถัดไป เราจะเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทในเครือ Alphabet ออกมาเขย่าโลกกันมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์บางตัวย่อมล้มเหลว (เช่น Google Glass) แต่ก็ต้องมีบริษัทที่ผลงานเข้าเป้า และโลกเทคโนโลยีคงเปลี่ยนแปลงอีกมาก

Alphabet ถือเป็นก้าวใหม่ของกูเกิลที่ขยับตัวเองให้คิดใหญ่ คิดไกลกว่าเดิม หลังจากที่กูเกิลประสบความสำเร็จอย่างสูง เอาชนะคู่แข่งในวงการอินเทอร์เน็ต เว็บ สมาร์ทโฟน ได้แบบขาดลอย ก็ได้เวลาที่กูเกิลจะก้าวสู่ “ขั้นถัดไป” ที่กว้างไกลกว่าเดิมมากครับ