เมื่อวานเจอกับเพื่อนๆ ในวงการแล้วนั่งถกเถียงกันเรื่องแอปเปิลวอตช์
เพราะเวลาเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมา สิ่งที่สนุกที่สุดไม่ใช่การนั่งเก็บความคิดกับเทคโนโลยีนั้นๆ ไว้คนเดียว แต่คือการนั่งสังเกตปฏิกิริยาของคนเวลาเราเล่นโชว์...กับของชิ้นนั้นว่า มีแต่ "เรา" ที่ว้าว เพราะเป็นเด็กเนิร์ดตามครรลองหรือเปล่า

ซีรีวิวเสร็จแล้วล่ะค่ะ
ทุกเทคโนโลยีมีข้อดีเสมอ ไม่งั้นคงไม่ทำออกมา
แอปเปิลวอตช์เป็นนาฬิกาที่มาช้า แต่ไม่น่าเชื่อว่า แม้นยังมาไม่ถึงเมืองไทยแบบเต็มตัว ก็เริ่มเห็นมีให้เล่นกันสนุกสนานกับบางคนที่เป็นมนุษย์สรรหา หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มพวก super-user ทั้งหลาย

ดีไม่ดี แอปเปิลวอตช์ ?

ขึ้นอยู่กับใช้อะไร เอาจริงๆ ซีก็นั่งวนดูคลิปวิดีโอแอปเปิลเพื่อตีความซ้ำๆ นะคะว่า จริงๆ แล้วเค้าตั้งใจจะให้เราใช้อะไร คอลัมน์นี้ซีจัดข้อดี 5 ข้อ และข้อเสีย 5 ข้อดีกว่า เอาไปชั่งน้ำหนักก่อนคิดจะอยากได้อยากซื้อ

ข้อเสีย 5 ข้อ คือ

1. ใครใช้แอนดรอยด์มันไม่ซิงค์ค่ะ แอปเปิลคุยกับแอปเปิล จอเล็กจอกลางเค้าจะคุยกันเฉพาะในยี่ห้อเค้าค่ะ แต่อนาคตอาจมีแอพรองรับเพราะงั้นใครจะซื้อเป็นของขวัญให้ชาวแอนดรอยด์ คิดใหม่

2. นาฬิกาอัจฉริยะต้องชาร์จทุกวัน ขึ้นอยู่กับความสนุกในการจิ้มมากน้อย อวดบ่อยหน่อยต่อวันก็ชาร์จทุกเย็นแน่นอน เหนื่อยชาร์จ ทุกวันนี้ก็ชาร์จมากกว่าสองอย่างอยู่แล้วก่อนนอน

3. การวัดสุขภาพยังทำได้ไม่มากเท่า นาฬิกาสุขภาพยี่ห้อที่ออกมาก่อนหน้า แต่พยายามนำเสนอหน้าตาแอพสุขภาพที่เข้าใจง่ายกว่า ในระดับลึกยังมีแอพสุขภาพให้เล่นไม่มากนัก และการใช้เซ็นเซอร์แสงวัดที่ข้อมือ ทำให้คนที่มีรอยสักใช้งานไม่ได้

4. สายเหล็กแบบ Melanese Watch สวยและเท่มาก เป็นแม่เหล็กดูดติดสายแต่ “กินผม” บ่อยๆ คนผมยาวโดนแน่ถ้าซื้อสายรุ่นนี้ และ รุ่น 32mm สายจะเล็กตามหน้าปัดไปด้วย มีคนไทยที่ทดลองใช้บ่นถึงอาการ “สายบาด” ข้อมือถากๆ

...

5. ความน่างง ของการขายหลายรุ่นจึงขาดซึ่งความ "คลาสสิก" แต่กล้าหาญในการทำการตลาดแบบ "ท้าชน" แบรนด์หรูที่ขายความคลาสสิก ใครๆ ก็เดาได้ว่า ความไฮเทคกับความอมตะ มันไม่ใคร่จะไปด้วยกันนัก เพราะเราได้ยินคำว่า "ตกรุ่น" กับเทคโนโลยีตลอดเพราะงั้นการขายรุ่นแพงทำจากทองคำในระดับเรือนแสน ในขณะที่ฟังก์ชั่นการทำงานไม่ต่างกันเลย จึงเป็นเรื่อง "น่างง" ถึงตรรกะการขายพอสมควรว่า ตั้งใจทำตลาดอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ อุปกรณ์ไอทีรุ่นถูกลง "จะลดสเปก" ตามไปด้วย แต่สเปกแอปเปิลวอตช์ไม่ลด ลดแต่ "วัสดุ" ในการผลิตตัวเรือนกับสาย และขนาด ทำให้คนซื้อ "คิดเยอะ และเลือกเยอะไป" คงต้องตัดสินใจคิดจะซื้อรุ่นไหน เลือกไปมาจะยังอยากได้รึเปล่า อันนี้สงครามยังไม่จบเลยขอไม่นับศพทหารค่ะ...แต่ติดที่ "แพง" นี่แหละ

มาถึง 5 ข้อดี

1. ต่างจากนาฬิกาทั่วไป แอปเปิลวอตช์ เน้นการสื่อสารระหว่างกันผ่านข้อมือ โดยหยิบเอา "เทคโนโลยีสวมใส่" มาใช้ให้คนใกล้กันได้ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีสองแบบคือ การสั่นแบบพิเศษที่ "ให้ความรู้สึก" กว่า "มือถือสั่น” อาทิ ฟีเจอร์การ "สะกิดกัน" ระหว่างคนมีนาฬิกาตัวนี้ เพื่อใช้ "เรียกร้องความสนใจ" ให้ใกล้กันขึ้นผ่านจอเล็กแบบที่ไม่มีค่ายไหนนึกถึงความ "มุ้งมิ้ง" ตรงนี้ อาจเป็นจุดเล็กที่โดนใจได้แน่นอน สำหรับบางกลุ่มเช่นคู่รัก หรือครอบครัว คือทำให้ "ยิ้มได้"

2. การจิ้ม การหมุน "เม็ดมะยม" เพื่อซูม เป็นการสั่งงานที่คนนอกมองแล้วว้าว!!! เป็นส่วนสำคัญของเทคโนโลยีเพราะทำได้เหมือนกันแต่ "ท่า" ในการสั่งงานต่างกัน มันดูเท่

3. แท่นชาร์จทำให้เราลืมความรำคาญไปได้มาก แปะแล้วชาร์จเลย เพราะแปะติดง่าย หลุดยาก แค่วางที่ชาร์จให้เป็นที่ การชาร์จแบบ wireless ตัวนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าจับตามองมากของแอปเปิล เพราะสวยและน่าสนใจ

4. เราจะใช้เวลากับจอมือถือน้อยลงเพราะบางทีเราหมกมุ่นจะกดจอสมาร์ทโฟนเวลามีข้อความเด้งๆ ขึ้นมาทั้งที่ไม่สำคัญก็เลยเถิดเล่นอย่างอื่นต่อโดยไม่รู้ตัว แต่การดูนาฬิกานี้เตือนข้อความเด้งมาสั้นๆ รู้ว่าสำคัญพอจะหยิบมือถือมาตอบยาวๆ หรือไม่ ถ้าวิเคราะห์ลึกถึงว่า “เป็นการจัดระบบความคิดและการใช้เทคโนโลยี” การใช้ก็ขึ้นกับบุคคลด้วยนะคะว่า จะยิ่งวุ่นยิ่งจิ้มยิ่งดูหรือไม่ แต่ส่วนตัว ซีมองว่า จอเล็กเกินกว่าอยากทำอะไรนานๆ แต่ก็ไม่อยากพลาดการติดต่อสำคัญที่เด้งมาบอก

5. ฟีเจอร์การเป็นโทรศัพท์เชื่อมกับมือถือ แม้ใส่ซิมไม่ได้แต่โทรออกด้วยนาฬิกาได้เลย มีไมโครโฟนและลำโพงเล็กๆ ข้างนาฬิกา ใช้ง่ายเสียงไม่ดังมากแต่สื่อสารรู้เรื่อง ยกแขนมาคุย "ท่ามันดูเท่" มีคำว่า "อยากได้" หลายครั้งที่ได้ยินเมื่อใช้ฟีเจอร์นี้ต่อหน้าคนอื่น...แหะๆ การทดลองของซี รวมถึงการสังเกตปฏิกิริยาจากคนรอบข้างด้วยนะคะ

สรุปสนุกๆ ผ่านยูทูบแล้วนะคะ ลองเข้าไปดูได้เลย

...