ข่าวใหญ่วงการไอทีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอีกข่าวคือ ไมโครซอฟท์ประกาศซื้อกิจการบริษัทเกมจากสวีเดนชื่อ Mojang ด้วยมูลค่าสูงถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ (8 หมื่นล้านบาท)

คนที่ไม่เคยได้ยินชื่อ Mojang มาก่อนอาจตกใจว่าบริษัทเกมอะไรแพงขนาดนี้ (ถ้าเทียบมูลค่ากิจการแล้วคิดเป็น 1/3 ของเงินที่ไมโครซอฟท์ควักไปจ่ายค่าธุรกิจมือถือของโนเกียเลยนะครับ)

เท่านั้นยังไม่พอ Mojang เป็นบริษัทที่เพิ่ง “มีเกมขายเพียงเกมเดียว” (ณ เวลานี้) ลองคิดดูว่าเกมหนึ่งเกมที่มีมูลค่ามากขนาดนี้จะน่าสนใจแค่ไหนกัน

สำหรับคนที่รู้จัก Mojang อยู่แล้วคงไม่ค่อยแปลกใจกันนัก เพราะผลงานของ Mojang คือเกมยอดฮิตแห่งยุคสมัย “Minecraft” นั่นเอง

ผมพยายามหาคำอธิบายให้เข้าง่ายๆ ว่า Minecraft คือเกมต่อบล็อก “เลโก้” แห่งยุคปัจจุบันครับ (ความยิ่งใหญ่ในแง่จินตนาการสร้างสรรค์ก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน) เพียงแค่ว่ามันเป็นเกมคอมพิวเตอร์ที่เราไปต่อบล็อกกันในเกม ไม่ใช่ต่อบล็อกจริงๆ แบบเลโก้เท่านั้นเอง

Minecraft เป็นเกม 3 มิติที่ตัวละครในเกมสามารถสร้าง “บล็อกสี่เหลี่ยม” (ในเกมเรียกว่า cube) ขึ้นมาเป็นดิน หิน ทราย ต้นไม้ แร่ธาตุ ทะเล ฯลฯ ได้ตามต้องการ เนื้อหาของเกมจะอิสระมากๆ ผู้เล่นสามารถเดินไปไหนก็ได้ในโลกของ Minecraft และสร้างบล็อกเพื่อทำเป็นอาวุธ อาหาร บ้าน สะพาน เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่รอดไปได้ พื้นที่ในโลกของ Minecraft ก็หลากหลาย มีทั้งเกาะ ทวีป ทะเล ขั้วโลก ทะเลทราย ราวกับเป็นโลกจริงๆ

เกม Minecraft มีเนื้อเรื่องเล็กน้อยคือโลกของเกมมีเวลากลางวัน-กลางคืน ช่วงกลางวันชีวิตดำเนินไปตามปกติธรรมดา แต่พอพระอาทิตย์ตกจะมีสัตว์ประหลาดและซอมบี้ออกมาอาละวาด ผู้เล่นต้องสร้างที่พักอาศัยขึ้นจากบล็อกต่างๆ เพื่อเอาชีวิตรอดจากสัตว์ประหลาดเหล่านี้ แต่นอกเหนือจากนี้แล้ว เกมก็ไม่บังคับให้ผู้เล่นต้องทำอะไรเป็นพิเศษ อยากเดินไปที่ไหนก็ได้ อยากสร้างบ้านตรงไหนก็ได้ตามต้องการ
จุดเด่นของ Minecraft คือความอิสระไร้ขีดจำกัดนี่เอง ความสนุกของมันคือการสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งของตามใจต้องการ โดยไม่มีเนื้อเรื่องหรือกฎเกณฑ์ของเกมมาปิดกั้นจินตนาการของผู้เล่นเอาไว้ (ถึงขนาดมีคนไปสร้างฮาร์ดดิสก์ขนาดยักษ์ในเกม ทำงานได้จริงเหมือนฮาร์ดดิสก์จริงๆ เพราะมีกลไกเหมือนกันทั้งหมด)

Minecraft จึงได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ (ลองถามเด็กๆ ใกล้ตัวได้ครับว่ารู้จัก Minecraft หรือเปล่า โอกาสที่จะรู้จักมีเยอะทีเดียว) ถึงขนาดมีงานสัมมนาเฉพาะของ Minecraft ด้วย
Minecraft เปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 ปัจจุบันขายเกมไปได้แล้วเกิน 50 ล้านชุด เล่นได้บนอุปกรณ์ไฮเทคแทบทุกค่าย ทั้งพีซี เกมคอนโซล สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต

Markus Persson ผู้ก่อตั้ง Mojang ตัดสินใจขายบริษัทให้ไมโครซอฟท์เพราะวิธีคิดของเขาค่อนข้างอินดี้อยู่บ้าง ตอนแรกสุดเขาแค่อยากสร้างเกมที่เจ๋งๆ เท่านั้น แต่พอเกมมันฮิตไปไกลกว่าที่คิดมาก บริษัทของเขากลายเป็นธุรกิจพันล้าน และเขาก็ไม่สนุกกับการเป็นผู้บริหารเท่าไรนัก (อยากสร้างเกมมากกว่าว่างั้นเถอะ) เลยขายให้คนอื่นไปบริหารต่อดีกว่า

ฝั่งของไมโครซอฟท์เอง การได้ Minecraft ไปถือว่าโชคดีมาก เพราะว่า Minecraft ไม่ได้เป็นแค่เกมเล่นเอาสนุก แต่มันยังได้รับการยอมรับอย่างมากในแวดวงการศึกษา เพราะถือเป็นสื่อช่วยเปิดจินตนาการของเด็กๆ อย่างไม่รู้จบ ช่วยฝึกวิธีคิดและวางแผนการสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาอย่างมีตรรกะ แถมยังมีศักยภาพในเชิงธุรกิจที่ไปต่อได้อีกมาก ทั้งในแง่ของเกมโดยตรง และสินค้าใกล้เคียงกันอื่นๆ เช่น ของที่ระลึก หรือ ภาพยนตร์

ข่าวไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ Minecraft สร้างความข้องใจให้แฟนๆ Minecraft ไม่น้อยเพราะกลัวไมโครซอฟท์ซื้อไปทำเสีย ซึ่งไมโครซอฟท์ก็สัญญาเต็มที่ว่าจะรักษา Minecraft ไว้อย่างดี และพัฒนาเกมให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก ต้องรอดูครับว่าพอ Minecraft มาอยู่ใต้ร่มเงาของ “นายทุนใหญ่” อย่างไมโครซอฟท์แล้วจะไปได้ไกลแค่ไหน

มาร์ค Blognone

...