OneNote เป็นโปรแกรมจดโน้ตความสามารถสูงที่อยู่ในชุด Microsoft Office มานานแล้ว แต่กลับเป็นโปรแกรมที่คนรู้จักไม่เยอะเท่า Word, Excel, PowerPoint หรือ Outlook...

เท่าที่ผมสังเกตเอาเอง คนที่ไม่รู้จัก OneNote จะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย แต่คนที่รู้จักและเคยใช้งานก็จะชื่นชอบในระดับแฟนพันธุ์แท้เลย

OneNote เป็นโปรแกรมจดโน้ตที่จำลองการทำงานมาจากสมุดโน้ตจริงๆ โดยจะมีโน้ต (เทียบได้กับหน้ากระดาษ) และสมุดโน้ต (แฟ้มรวมโน้ต) ซึ่งสามารถจดข้อมูลอะไรก็ได้ลงไป ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ ลายมือ ลิสต์รายการ เสียง วิดีโอ ฯลฯ จดกันได้อย่างอิสระในมุมไหนก็ได้ของหน้ากระดาษ (ต่างจากเอกสารใน Word ที่ต้องพิมพ์จากบนลงล่าง จากซ้ายไปขวา) เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนนักศึกษา หรือหนุ่มสาวออฟฟิศที่ใช้จดบันทึกการประชุมแล้วแชร์กันในภายหลัง

OneNote มีข้อดีมากมาย แต่ข้อเสียอย่างเดียวของคือ มันคิดเงินนั่นเองครับ (ฮา) จำนวนคนใช้เลยจำกัดอยู่บ้าง (แต่มีสมาชิก Blognone ท่านหนึ่งคอมเมนต์ไว้ว่าลงทุนซื้อ Microsoft Office ชุดเล็กเพื่อจะเอา OneNote ตัวเดียว ขนาดนั้นเลยนะครับ)

ไมโครซอฟท์คงนโยบายเรื่องการคิดเงิน OneNote มาเป็นสิบปี แถมเน้นเฉพาะการใช้งานบนพีซีเพียงอย่างเดียว ตรงนี้เลยกลายเป็นช่องว่างให้แอพฯ จดโน้ตอย่าง Evernote ออกแอพฯ ลักษณะเดียวกันบนสารพัดแพลตฟอร์มมาแข่ง แถมใช้งานได้ฟรี จนสามารถชิงตลาดการจดโน้ตของบุคคลทั่วไปได้มากเลยทีเดียว (ผมเคยเขียนเรื่อง Evernote ไว้ในคอลัมน์ตอนเก่าๆ อ่านได้ที่ http://www.thairath.co.th/content/tech/358944)

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดยักษ์หลับตื่นแล้วครับ ในรอบปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ทยอยออกแอพฯ OneNote บนแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น iPhone, Android, Windows Phone, อินเทอร์เฟซผ่านเว็บ และล่าสุดก็เพิ่งเปิดตัว OneNote for Mac ให้สาวกแอปเปิลดาวน์โหลดไปใช้กันได้ฟรีๆ แถมฟีเจอร์ครบถ้วนแทบจะเท่ากับเวอร์ชั่นพีซีทุกประการ

เท่านั้นยังไม่พอ ไมโครซอฟท์ประกาศว่า OneNote 2013 บนพีซีที่เดิมทีคิดเงิน จะเปิดให้ทุกคนดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีๆ เช่นกัน (พวก Word, Excel, PowerPoint ยังคิดเงินอยู่นะครับ ไม่แจกด้วย) ใครสนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ Onenote.com

...

แนวคิดของไมโครซอฟท์เหมือนกับ Evernote คืออยากให้ทุกๆ คนหันมาใช้ OneNote จดโน้ต หรือข้อมูลสำคัญๆ กันให้มากที่สุด โดยไม่จำกัดว่าลูกค้าใช้อุปกรณ์ไอทีชนิดใด เพราะไมโครซอฟท์ไล่ตามออกแอพฯ OneNote ให้เกือบครบ ทั้งมือถือ แท็บเล็ต พีซี แมค

นอกจากนั้นไมโครซอฟท์ยังจับมือกับพาร์ทเนอร์อีกหลายราย เพื่อให้แอพฯ เหล่านี้สามารถกดแชร์ข้อมูลไปเก็บยังเซิร์ฟเวอร์ OneNote ได้โดยตรง เรียกว่าอำนวยความสะดวกกันสุดๆ ที่สำคัญคือทั้งหมดนี้ “ฟรี” ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ซึ่งปัจจัยข้อนี้ย่อมทำให้ Evernote ที่คิดเงินเพิ่มในการใช้งานบางฟีเจอร์คงต้องทำการบ้านกันหนักทีเดียว

ข่าวนี้แสดงให้เห็นว่าไมโครซอฟท์กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการขาย “โปรแกรม” แบบเดี่ยวๆ มาเป็นการขาย “บริการ” ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต (ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน) โดยโปรแกรมที่เคยเป็นสินค้าสำคัญ ถูกเปลี่ยนสถานะเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการแทน

รูปแบบการหารายได้ของไมโครซอฟท์จึงเปลี่ยนไป จากการขายขาดโปรแกรม มาเป็นการแจกโปรแกรมฟรีแต่คิดค่าบริการเป็นรายเดือนแทน ซึ่งไมโครซอฟท์กำลังพยายามทำแบบนี้กับ Microsoft Office ตัวเต็มด้วย (ในชื่อ Office 365 สำหรับการเก็บเงินแบบรายเดือน) ท่าทีนี้ของไมโครซอฟท์จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัทซอฟต์แวร์อื่นๆ อย่าง Adobe ที่พยายามผลักดัน Photoshop ไปในทิศทางการเก็บค่าสมาชิกแทนการขายขาดเช่นกันครับ

มาร์ค Blognone