ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด วันที่คอลัมน์ตอนนี้ลงเว็บ คุณผู้อ่านคงตื่นเต้นไปกับ iPhone รุ่นใหม่ของแอปเปิล ในงานแถลงข่าวคืนวันพุธที่ 12 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย...

แต่เนื่องจากผมต้องส่งต้นฉบับคอลัมน์นี้ล่วงหน้า คงไม่สามารถพยากรณ์ได้ว่าแอปเปิลเปิดตัวอะไรบ้าง ดังนั้นคงต้อง “เก็บตก” ความเคลื่อนไหวของวงการไอทีในสัปดาห์ที่ผ่านมาแทนครับ

เดือนกันยายน-ตุลาคมถือเป็นเดือนที่น่าสนใจเสมอๆ ของโลกไอทีที่มีศูนย์กลางอยู่ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะว่าชาวอเมริกันมีธรรมเนียมการจับจ่ายใช้สอยครั้งใหญ่ช่วงปลายปี ตั้งแต่เทศกาลขอบคุณพระเจ้าช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงคริสต์มาส ทำให้บริษัทไอที-อิเล็กทรอนิกส์ที่หวังโกยยอดขายช่วงท้ายปี ต้องเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ ก่อนหน้านั้นสัก 1-2 เดือนเสมอ และช่วงเวลาที่ว่าก็คือเดือนกันยายน-ตุลาคมนั่นเองครับ

สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน 2012 เราก็มีงานแถลงข่าวใหญ่ 3 งาน จาก 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกไอที เรียงตามลำดับดังนี้

โนเกีย

ราชามือถือโลกอย่างโนเกียที่กำลังร่อแร่เต็มที เปิดตัวมือถือตระกูลวินโดวส์โฟนรุ่นที่สองมาสองตัว ได้แก่ Lumia 920 และ Lumia 820 ซึ่งถ้ายังไม่ประสบความสำเร็จอีกก็อาจได้เวลากลับฟินแลนด์ไปทำอย่างอื่นแล้ว

...

มาถึงวันนี้ วินโดวส์โฟนคงไม่ใช่ชื่อที่ประหลาดหู บ้านเราเองก็เริ่มมีมือถือตระกูลวินโดวส์โฟนขายบ้างแล้ว (แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จในวงกว้าง) ปีที่แล้ว 2011 ถือเป็นการทดลองบุกตลาดครั้งแรกของระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน ซึ่งก็พอไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเทียบกับไอโฟน-แอนดรอยด์แล้วยังห่างไกลกันมาก มาเป็นปี 2012 นี้ ไมโครซอฟท์จึงพยายามบุกเข้ามาอีกครั้งด้วยวินโดวส์โฟน 8 ที่พัฒนาเพิ่มขึ้นมาก โดยมีโนเกียเป็นพันธมิตรใกล้ชิดช่วยผลิตมือถือให้

Lumia 920 มือถือรุ่นท็อปตัวใหม่ของโนเกียมีจุดเด่นที่กล้องคุณภาพสูง มีระบบกันสั่นแบบที่ใช้ในกล้องถ่ายภาพมืออาชีพแต่ยังไม่เคยมีใครทำลงมือถือ ให้ภาพคุณภาพเยี่ยมแม้ในสภาพแสงน้อยๆ แต่ในงานแถลงข่าวเปิดตัวกลับมี “ดราม่า” เพราะภาพ-วิดีโอที่โนเกียนำมาโชว์ในงาน ไม่ได้ถ่ายด้วย Lumia 920 จริงๆ (เข้าทำนอง “ภาพจริง บรรยากาศจำลอง”) จนโนเกียต้องออกมาแก้ตัววุ่นวาย เสียเครดิตและภาพลักษณ์ไปไม่น้อย

ที่ยิ่งไปกว่านั้น Lumia 920 เปิดตัวเฉยๆ แต่ยังไม่ระบุว่าจะขายจริงเมื่อไร (เป็นไปได้ว่ายังทำไม่เสร็จดี) แถมมีข่าวว่าต้องรอนานถึงเดือนพฤศจิกายนสำหรับตลาดสหรัฐฯ ทำให้แฟนๆ โนเกียที่ความหวังริบหรี่อยู่แล้วอาจเปลี่ยนใจไปใช้มือถือยี่ห้ออื่นแทนแล้ว

โมโตโรลา

วันเดียวกับที่โนเกียแถลงข่าว ฝั่งโมโตโรลา ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมอีกรายก็มาแถลงข่าวเปิดตัวมือถือใหม่เช่นกัน มือถือรุ่นใหม่ของโมโตโรลาต่อยอดจากสายผลิตภัณฑ์เดิมที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน ในชื่อ RAZR โดยเพิ่มคำว่า HD ต่อท้าย แสดงคุณสมบัติของหน้าจอที่มีความละเอียดสูงขึ้น (แต่คู่แข่งอย่าง HTC ทำได้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว)

เท่าที่ผมใช้มา มือถือของโมโตโรลาคุณภาพดี งานประกอบเนี้ยบ แต่อย่างอื่นยังไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก และใน RAZR HD ก็ไม่โดดเด่นอะไรมากเช่นกัน แต่ที่น่าจับตาไม่ใช่ตัวผลิตภัณฑ์แต่เป็นตัวบริษัทต่างหาก เพราะการแถลงข่าวครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โมโตโรลาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในฐานะบริษัทลูกของกูเกิล (ถูกซื้อไปเมื่อกลางปีที่แล้ว) มีอีริค ชมิดท์ ประธานของกูเกิลมาขึ้นเวทีเองเสียด้วย ซึ่งก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าโมโตโรลาจะได้รับการหนุนหลังจากกูเกิลมากขึ้น และเราคงเห็นอะไรที่น่าตื่นเต้นจากโมโตโรลาในปีหน้า

อเมซอน

บริษัทใหญ่รายสุดท้ายที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในสัปดาห์ก่อนคือ อเมซอน เจ้าพ่อเครื่องอ่านอีบุ๊กตระกูล Kindle ซึ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สำคัญสองตัว อย่างแรกคือ Kindle Paperwhite เครื่องอ่านอีบุ๊กแบบใหม่ที่มีไฟในตัว อ่านในที่มืดได้ แต่แบตก็ยังอยู่ได้นานหลายสัปดาห์ อย่างที่สองคือแท็บเล็ตรุ่นที่สองของตัวเอง Kindle Fire HD ที่ปรับปรุงสเปกให้ดีกว่าเดิมมาก แถมมีให้เลือก 2 ขนาด หน้าจอคือ 7 นิ้ว และ 8.9 นิ้ว

...

Kindle Fire HD รุ่น 7 นิ้ว มีราคาเพียง 199 ดอลลาร์หรือประมาณ 6 พันบาทเท่านั้น ออกมาชนกับแท็บเล็ต Nexus 7 ของกูเกิลที่ราคาเท่ากัน สเปกโดยรวมใกล้เคียงกัน และจากข้อมูลของสื่อต่างประเทศที่ได้จับเครื่องจริง ตัวเครื่องก็ผลิตออกมาคุณภาพดีมาก ทำให้ตลาดแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วตอนนี้มีตัวเลือกที่น่าสนใจหลายยี่ห้อ เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคในภาพรวม

แต่ Kindle Fire ยังเหมาะสำหรับลูกค้าในสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตกบางประเทศเท่านั้น เพราะมันออกแบบมาเพื่อขายเนื้อหาดิจิทัลผ่านระบบของอเมซอน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หนัง เพลง แอพ ฯลฯ ดังนั้นถ้าคิดจะซื้อมาใช้ในประเทศที่ไม่มีบริการของอเมซอนอย่างเป็นทางการ (อย่างประเทศไทย) ก็คงไม่เหมาะเท่าไรครับ เพราะมันจะกลายเป็นแท็บเล็ตธรรมดาๆ ที่ซื้อเนื้อหาจากอเมซอนไม่ได้เลย แถมยังติดตั้งแอพจากระบบแอนดรอยด์ของกูเกิลได้ลำบากอีกด้วย

ตรงนี้เราคงได้แต่จับตาดูความเคลื่อนไหวของอเมซอนในต่างประเทศ และลุ้นให้เข้ามาทำตลาดในภูมิภาคนี้โดยเร็ว ระหว่างนี้ถ้าอยากใช้แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว ก็คงต้องเลือกจากยี่ห้อที่มีตัวแทนวางขายในประเทศไทยจะดีกว่า

...

มาร์ค Blognone