จากเหตุการณ์ที่หน้าต่างของเครื่องบินสายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์ (Alaska Airlines) หลุดกลางเวหาที่ความสูง 16,000 ฟุต ซึ่งมีข้าวของจำนวนมากถูกดูดออกไปจากตัวเครื่อง โดยหนึ่งในนั้นมีมือถือไอโฟนด้วย แต่ที่น่าสนใจคือเครื่องยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์และใช้งานได้ตามปกติ

รายงานของสำนักข่าวเดอะ วอชิงตัน โพสต์ เปิดเผยว่า ชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ฌอน เบตส์ อ้างว่าในขณะที่ตัวเขากำลังเดินตามถนนบาร์นส์ ใกล้กับทางหลวงหมายเลข 217 ในพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน เขาได้พบกับไอโฟนเครื่องหนึ่งที่อยู่ในโหมดเครื่องบิน แบตเตอรี่เหลือ 44 เปอร์เซ็นต์ และตัวเครื่องยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ พร้อมใช้งานได้ตามปกติ

ฌอน เบตส์ ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า ได้พบวัตถุที่มีเหลือรอดจากการตกจากความสูง 16,000 ฟุต จากนั้นเขาได้แจ้งไปยังคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ หรือ National Transportation Safety Board ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่สืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวว่าได้พบโทรศัพท์ที่สูญหายแล้ว โดยเป็นโทรศัพท์เครื่องที่สองที่ถูกพบเจอ

ฌอน เบสต์ โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์หลังพบเจอไอโฟนที่ตกจากความสูง 16,000 ฟุต
ฌอน เบสต์ โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์หลังพบเจอไอโฟนที่ตกจากความสูง 16,000 ฟุต

...

ต้นเรื่องของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากเครื่องบินโดยสารของสายการบินอะแลสกา แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 1282 ที่เตรียมบินจากเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เกิดเหตุหน้าต่างหลุดกลางเวหา ขณะกำลังบินอยู่ที่ระดับความสูง ราว 16,000 ฟุต จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจให้แก่ผู้โดยสารทั้งลำ เคราะห์ดีที่ผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนบนเครื่องบินลำนี้ปลอดภัยทุกคน จะมีก็แต่โทรศัพท์มือถือและข้าวของบางอย่างสูญหายไปจากความกดอากาศในห้องโดยสารที่ลดลงอย่างกะทันหัน ทำให้สิ่งของถูกดูดออกไปจากเครื่องบิน

การที่ไอโฟนซึ่งตกจากความสูง 16,000 ฟุต ถือเป็นเรื่องที่ผู้คนจำนวนมากที่ได้พบเจอโพสต์ของฌอน เบสต์ ประหลาดใจไม่น้อย เนื่องจากผู้ใช้งานไอโฟนหลายต่อหลายคนเคยมีประสบการณ์หน้าจอแตกจากการตกจากที่สูงเพียงไม่กี่เซนติเมตร

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แอปเปิลได้มีความพยายามทำให้หน้าจอของไอโฟนมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่การที่ไอโฟนยังคงใช้งานได้ปกติ โดยที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สาเหตุมาจากแรงต้านอากาศ ทำให้ตัวเครื่องไม่ได้ตกจากท้องฟ้าที่เร็วมากนัก ซึ่งเป็นหลักการทางฟิสิกส์

อย่างไรก็ดี อีกสาเหตุที่ทำให้หน้าจอไอโฟนไม่แตกส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเครื่องตกลงบนพื้นหญ้า หรือบนใบไม้ ตรงกันข้ามสภาพของไอโฟนอาจดูไม่จืดถ้าหากมันตกลงทางเท้า หรือกระทบกับก้อนหิน

ที่มา: The Washington Post