เมตา เผยแผนธุรกิจในประเทศไทยตลอดปี 2023 ชี้ผู้บริโภคนิยม Reels ขณะที่แผนการด้านเมตาเวิร์สยังอยู่ระหว่างการสร้างโครงสร้างพื้นฐานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ คาดใช้เวลาราว 5-10 ปี
แพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย จากเมตา เปิดเผยว่า ระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาถือว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเมตามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานรวมทุกแพลตฟอร์ม 3.89 พันล้านคนต่อเดือน เพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน ส่วนยอดผู้ใช้งานต่อวันอยู่ที่ 3.07 พันล้านคน เพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
แพร ดำรงค์มงคลกุล ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ที่เมตาจะใช้เป็นแผนหลักสำหรับการทำตลาดในประเทศไทยตลอดปี 2023 มีด้วยกัน 3 ประเด็นหลัก ประกอบไปด้วย 1.การเติบโตของ Reels ซึ่งเป็นคอนเทนต์วิดีโอขนาดสั้น 2.ปัญญาประดิษฐ์สำหรับภาคธุรกิจ และ 3.การสร้างการเชื่อมต่อการตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) และการโต้ตอบกันแบบหนึ่งต่อหนึ่งที่สร้างความใกล้ชิดกับแบรนด์ผ่านการส่งข้อความทางธุรกิจ (Business Messaging)
...
แพร กล่าวต่อไปว่า เทรนด์การดูวิดีโอสั้น (Short-form Video) อย่าง Reels เป็นสิ่งที่เติบโตเร็วมาก ทั้งนี้ตัวเลขที่อยู่ในมือของเมตาพบว่า กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของการใช้งานเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ล้วนแต่เป็นวิดีโอขนาดสั้น โดยยอดการดู Reels มียอดการรับชม 2 แสนล้านครั้งต่อวัน ซึ่งตัวเลขในประเทศมีความใกล้เคียงกับเวทีโลก อ้างอิงจากรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2023 ของเมตา
ทางด้านเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ ผู้บริหารจากเมตา กล่าวว่า นับตั้งแต่ยังเป็นเฟซบุ๊ก ได้มีการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์มาโดยตลอด เริ่มจากการนำเสนอนิวส์ ฟีด (News Feed) ด้วยเอไอ จากนั้นก็ได้มีการพัฒนาประสบการณ์ใช้งานในรูปแบบของ AI for Contents ผ่านการนำเสนอในรูปแบบของฟีด (Feed), Stories และ Reels
นอกจากนี้แล้ว เมตา ยังได้ประกาศพัฒนา Llama 2 ผ่านการเป็นพันธมิตรร่วมกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) โดย Llama 2 เป็นโมเดลแบบโอเพนซอร์ส (Opensource) เพื่อให้นักพัฒนาอิสระนำไปต่อยอดเพื่อสร้าง generative AI ในแบบฉบับของตัวเอง
กลยุทธ์ส่วนที่สาม เป็นเรื่องของการให้ความสำคัญกับบทบาทความต้องการเฉพาะบุคคล และการโต้ตอบแบบหนึ่งต่อหนึ่งผ่านการส่งข้อความทางธุรกิจ หรือ Business Messaging เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการพูดคุยระหว่างเจ้าของธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย ปัจจุบันมีผู้คนกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกได้เชื่อมต่อกับธุรกิจต่างๆ ผ่านแอปส่งข้อความของ Meta ในทุกๆ สัปดาห์
เมื่อสอบถามถึงยอดผู้ใช้งานเธรดส์ (Threads) ในประเทศไทย ธารินาฎ ภัทรรังรอง ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์พันธมิตร Facebook ประเทศไทย จากเมตา ระบุว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขที่แน่ชัดได้ในเวลานี้
สุดท้ายเป็นประเด็นเมตาเวิร์ส แพร ดำรงค์มงคลกุล อธิบายว่า เมตาเวิร์สเป็นวิสัยทัศน์ระยะยาว (Long-term Vision) ซึ่งใช้ระยะเวลาราว 5-10 ปี กล่าวคือต้องมีการลงทุนทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ โดยในส่วนฮาร์ดแวร์จะมีการพัฒนาแว่นตาที่มีขนาดเล็กลง เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์ซึ่งจะต้องเพิ่มจำนวนแอปพลิเคชันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาอวตาร (Avatar) ที่ต้องสมจริงมากขึ้น
...
นอกจากนี้แล้วในเดือนกันยายนนี้ เมตา มีกำหนดการเปิดตัว Meta Quest 3 ซึ่งเป็นเฮดเซตที่ใช้เทคโนโลยี Mixed reality โดยเมตามั่นใจว่าการมาของ Quest 3 เป็นก้าวย่างที่สำคัญของโลกเมตาเวิร์ส เพราะอุปกรณ์ในกลุ่ม Mixed reality ส่วนใหญ่แล้วยังมีราคาที่เอื้อมถึงได้ยาก และเมตาได้เห็นพื้นที่ตรงนี้เพื่ออุดช่องว่างของตลาด.