ทนายความในสหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้งาน ChatGPT เป็นข้อมูลอ้างอิงในชั้นศาล ก่อนถูกพบในภายหลังว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นของปลอม จนได้ข้อสรุปว่า ทนายคนดังกล่าวถูกสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา เควิน คาสเทล ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลาง ได้สั่งปรับเงินทนายความสองคน นั่นคือ สตีเฟน ชวาร์ตซ์ และ ปีเตอร์ โลดูกา จากสำนักงานกฎหมายเลวิโดว์, เลวิโดว์ และ โอเบอร์แมน ซึ่งได้ใช้ข้อมูล ChatGPT มาอ้างอิงในชั้นศาล จนท้ายที่สุดเมื่อมีการสอบสวนพบว่าคดีที่ถูกนำมาอ้างอิงนั้นไม่มีอยู่จริง

ในเวลาต่อมา ผู้พิพากษายังปรานีด้วยการลงโทษด้วยการปรับเงินเพียง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 180,000 บาท) มากกว่าที่จะกำหนดบทลงโทษที่ถึงขั้นทำลายอาชีพทนายความ โดยผู้พิพากษา คาสเทล รู้สึกว่า คำขอโทษของทนายความก็เพียงพอแล้ว จึงไม่กำหนดบทลงโทษอื่นเพิ่มเติม

ผู้พิพากษา คาสเทล อธิบายว่า ตัวเขาไม่ได้มีปัญหากับการนำเทคโนโลยี หรือในที่นี้ก็คือ ปัญญาประดิษฐ์มาใช้งานด้านกฎหมาย อย่างไรก็ดี คนทำงานด้านกฎหมายต้องไม่เลินเล่อ และต้องมั่นใจด้วยว่าข้อมูลที่นำมาใช้อ้างอิงนั้นต้องมีความแม่นยำ ถูกต้อง

ที่มาของคดีนี้เกิดขึ้นจากผู้โดยสารของสายการบินแห่งหนึ่งได้ยื่นฟ้องสายการบิน เนื่องจากผู้โดยสารคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าขณะที่โดยสารอยู่บนเครื่อง ทางทนายความจึงรับว่าความคดีดังกล่าว พร้อมกับใช้ ChatGPT สำหรับการทำวิจัยทางกฎหมาย ซึ่งได้พบกับคดีที่ใกล้เคียงกันจำนวน 6 คดี ก่อนที่จะมีการสืบทราบในภายหลังว่า ตัวอย่างคดีที่ถูกนำมาอ้างนั้นไม่มีที่มาแน่ชัด 

ส่วนคดีต้นทางที่เป็นเรื่องของการฟ้องร้องจากการบาดเจ็บที่ ผู้พิพากษาได้ยกฟ้อง เนื่องจากคดีหมดอายุความ

...

ที่มา: Mashable