เอชเอ็มดี ประเทศไทย เปิดตัวฟีเจอร์โฟนรุ่นเรโทร 3 รุ่น ได้แก่ Nokia 8210 4G, Nokia 5710 XpressAudio และ Nokia 2660 Flip โดยเน้นกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ ไปจนถึงผู้ใช้งานที่กำลังมองหามือถือรุ่นคลาสสิก
นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เปิดเผยว่า ตลาดโทรศัพท์มือถือฟีเจอร์โฟนทั่วโลกยังคงเป็นที่ต้องการต่อเนื่อง แม้ผ่านไปแล้วกว่า 3 ทศวรรษแล้วก็ตาม โดยโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนยังคงเป็นที่ต้องการข้ามยุคสมัย คาดว่าตลาดนี้จะมีความต้องการมากถึง 157 ล้านเครื่องในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้โนเกียหันกลับมารีเมค (Remake) ฟีเจอร์โฟนอีกครั้งหนึ่ง แล้วเพิ่มการใช้งานที่ทันสมัย และตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ในด้านการออกแบบ มีความคงทน และแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
...
นายปริญญา พงษ์สิน ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ เอชเอ็มดี โกลบอล กล่าวเสริมว่า Nokia 8210 4G, Nokia 5710 XpressAudio และ Nokia 2660 Flip ทั้งสามรุ่นถูกนำมาวางจำหน่ายเพื่อปัดฝุ่นกระแสยุค 90s ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดที่ต้องการจับกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นผู้สูงอายุ ตามด้วยกลุ่มผู้ใช้งานที่หลงใหลความคลาสสิก ไปจนถึงกลุ่มที่กำลังมองหาฟีเจอร์โฟนเข้ามาทดแทนการใช้โทรศัพท์บ้าน
Nokia 8210 4G เป็นมือถือที่สืบทอดตำนานมาจาก Nokia 8210 ซึ่งวางจำหน่ายในปี 1999 มาพร้อมหน้าจอขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียด QVGA
กล้องถ่ายภาพความละเอียด VGA คุณภาพวิดีโอ qVGA ภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซต UniSoc T107 และหน่วยความจำภายในขนาด 48MB+128MB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 32GB
Nokia 8210 4G ทำงานภายใต้บนระบบปฏิบัติการ S30+ รองรับเครือข่าย 4G LTE และ Bluetooth 5.0 นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในด้านการฟังเพลงผ่านไฟล์ MP3 และวิทยุ FM ที่สามารถค้นหาคลื่นผ่านตัวเครื่องได้เลยโดยไม่ต้องใช้หูฟัง
จุดที่น่าสนใจที่สุดก็คือ Nokia 8210 4G มีเกมงูน้อยในตำนานให้เล่นอีกด้วย โนเกีย วางจำหน่ายในราคา 2,290 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงินเข้ม และสีแดง
ต่อมาเป็น Nokia 5710 XpressAudio ซึ่งมีหูฟัง TWS ติดมากับตัวเครื่อง พร้อมด้วยฝาหลังที่สไลด์ขึ้น-ลงได้ ทั้งนี้ หูฟัง Nokia Xpress Earbuds สามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 หรือจะใช้กับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ได้
Nokia 5710 XpressAudio มีขนาดหน้าจอ 2.4 นิ้ว (QVGA) และกล้องหลังความละเอียด 0.3MP คุณภาพวิดีโอ qVGA ภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Unisoc T107 มีหน่วยความจำภายใน 128MB ซึ่งสามารถใส่การ์ด MicroSD เพิ่มความจุได้อีกสูงสุด 32GB
แบตเตอรี่ให้มาที่ 1,450 mAh นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม. โดยตัวเครื่องที่วางจำหน่ายมีสีเดียว นั่นคือ สีแดง ในราคา 2,690 บาท
...
รุ่นสุดท้ายเป็น Nokia 2660 Flip ฟีเจอร์โฟนฝาพับ มีขนาดหน้าจอหลักที่ 2.8 นิ้ว QVGA กับจอบนฝาพับขนาด 1.77 นิ้ว
พร้อมด้วยกล้องหลังความละเอียด 0.3MP คุณภาพวิดีโอ qVGA ความอึดทนแบตเตอรี่ 1450mAh เน้นประหยัดพลังงาน รองรับ MicroSD 32GB
จุดเด่นที่น่าสนใจคือตัวเครื่องมีปุ่มกด tactile สัมผัสขนาดใหญ่พิมพ์ง่ายและฟังก์ชันช่วยฟัง M4/T4 HAC หรือ Hearing Aid Compatibility เหมาะสำหรับผู้ใช้โดยเฉพาะผู้สูงวัย หรือผู้มีความต้องการเป็นพิเศษด้านการฟัง
Nokia 2660 Flip วางจำหน่ายสีดำเพียงสีเดียว ในราคา 2,490 บาท
สำหรับการวางจำหน่าย Nokia 8210 4G, Nokia 5710 XpressAudio และ Nokia 2660 Flip จะมีขึ้นในวันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป