ทวิตเตอร์ ออกโรงปฏิเสธคำร้องของอีลอน มัสก์ ภายหลังชายที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดของโลก อ้างว่าตัวเขานั้นถูกหลอกให้ลงนามซื้อกิจการทวิตเตอร์ ซึ่งทวิตเตอร์ย้ำเรื่องราวดังกล่าวไม่เป็นความจริง

ทวิตเตอร์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาของอีลอน มัสก์ ซึ่งยื่นต่อศาลในรัฐเดลาแวร์ เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากนั้นจึงมีการเปิดเผยรายละเอียดออกมา ทั้งนี้รายละเอียดของการยื่นคำร้องของอีลอน มัสก์ ระบุว่า ทวิตเตอร์ได้หลอกลวงเขาในประเด็นบัญชีปลอมบนแพลตฟอร์ม และวิธีการดังกล่าวถือเป็นการฉ้อฉล

จากนั้นตัวแทนทางกฎหมายของทวิตเตอร์ได้ออกมาตอบโต้คำร้องของอีลอน มัสก์ โดยกล่าวว่า นี่เป็นเรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งมีความขัดแย้งกับหลักฐานที่ปรากฏออกมา และขาดความสมเหตุสมผล โดยเฉพาะในกรณีที่ มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง อีกทั้งยังถูกรายล้อมด้วยนายธนาคารจากวอลล์สตรีต และนักกฎหมาย เป็นไปได้หรือที่จะถูกหลอกให้ลงนามซื้อกิจการในครั้งนี้

ตัวแทนของทวิตเตอร์ ตั้งข้อสังเกตว่า อีลอน มัสก์ พยายามที่จะถอนตัวจากข้อตกลง เนื่องจากหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีอยู่ในสภาวะตกต่ำ จึงต้องการทำลายข้อตกลงการควบรวมกิจการ

อีลอน มัสก์ ตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์ในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในราคา 54.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ได้เกิดเหตุการณ์หุ้นทวิตเตอร์ตก รวมไปถึงหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ โดยในส่วนหุ้นทวิตเตอร์ลดลงเหลือ 32.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในเดือนกรกฎาคม สำหรับราคาในปัจจุบันอยู่ที่ 42.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น

คดีความระหว่างทวิตเตอร์ และอีลอน มัสก์ ผู้พิพากษาในเดลาแวร์ได้สั่งให้มีการพิจารณาคดีในวันที่ 17 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยในตอนแรก มัสก์ ต้องการให้คดีนี้ถูกพิจารณาคดีในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า พร้อมอ้างเหตุผลว่า การเตรียมข้อมูลไม่สามารถกระทำสำเร็จเสร็จสิ้นได้ภายในเวลาแค่ 2 เดือน แต่ศาลก็ปัดตกความต้องการของอีลอน มัสก์ โดยให้เหตุผลว่า คดีนี้ถือเป็นคดีเร่งด่วน มีความจำเป็นต้องเร่งรีบในการพิจารณาคดี

...

ที่มา: TechCrunch