สิ่งที่เรียกว่าเวลา ถือเป็นสิ่งที่เคลื่อนไปอย่างรวดเร็วและว่องไว เผลอแป๊บเดียวตอนนี้ iPhone ซึ่งวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในวันที่ 29 มิถุนายน 2007 ก็มีอายุครบ 15 ปีเรียบร้อยแล้ว

ในปี 2022 สิ่งไม่มีชีวิตที่เรียกว่า iPhone ได้ดำเนินมาถึงรุ่นของ iPhone 13 แน่นอนว่า จนถึงตอนนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า iPhone ของแอปเปิลกลายเป็นการพลิกโลกทั้งใบให้ไม่เหมือนเดิมไปอีกตลอดกาล

การมาของ iPhone เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ถูกเปิดตัวโดยสตีฟ จ็อบส์ อดีตซีอีโอและผู้ก่อตั้งแอปเปิล ซึ่งล่วงลับไปแล้ว โดยการเปิดตัววันนั้น สตีฟ จ็อบส์ ได้พูดถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามอย่าง ได้แก่ iPod ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเพลงของแอปเปิล, มือถือ และเครื่องสื่อสารที่รองรับอินเทอร์เน็ต นี่ไม่ใช่อุปกรณ์สามประเภทที่แยกจากกัน แต่วันนี้แอปเปิลได้สร้างโทรศัพท์รูปแบบใหม่ขึ้นมา

ในห้วงของการเปิดตัววันนั้น คงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยคงเกิดความสงสัยใคร่รู้ว่า อุปกรณ์เครื่องเล็กๆ ที่อยู่บนมือของสตีฟ จ็อบส์ จะเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร เพราะในเวลานั้น โลกใบนี้ก็รู้จักมือถือมานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์โนเกีย, โมโตโรลา ไปจนถึงอัลคาเทล แต่มันก็ไม่เคยไปไกลจากคำว่า อุปกรณ์สื่อสาร และไม่ได้ใกล้เคียงต่อคำว่า “เปลี่ยนโลก”

หลังจากนั้น ได้เกิดสิ่งที่ใครหลายคนไม่ได้คาดคิด แต่ในทางตรงกันข้ามมันอาจเป็นสิ่งที่สตีฟ จ็อบส์ ประเมินไว้ล่วงหน้าแล้วก็มั่นใจว่า มันจะต้องเกิดขึ้น นั่นคือ iPhone รุ่นแรกสามารถทำยอดขาย 1 ล้านเครื่องภายใน 74 วันเท่านั้น

สตีฟ จ็อบส์
สตีฟ จ็อบส์

...

iPhone รุ่นต้นฉบับดั้งเดิมมีขนาดหน้าจอ 3.5 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล รองรับการเชื่อมต่อไวไฟ กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และเครือข่ายไร้สายแบบ 2G

เช่นเดียวกับหน่วยความจำที่มีให้เลือกไม่มากเพียงแค่รุ่นความจุ 4GB จนถึง 16GB ซึ่งน้อยกว่าความจุสูงสุดที่เคยมีในตอนนี้ถึง 1TB เพียงแต่ความจุ 4GB และ 16GB ที่ว่านี้ ก็เพียงพอต่อความจุเพลง MP3 ได้หลายร้อยเพลงแล้ว

ที่ไม่น่าเชื่อยิ่งไปกว่านั้น ในอีก 15 ปีต่อมาลูกหลานของ iPhone รุ่นแรกสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 2 พันล้านเครื่องทั่วโลก พร้อมกับทำให้เกิดวัฒนธรรมการติดตามผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลทุกปี เพื่อดูว่า สตีฟ จ็อบส์ มีอะไรที่ “ชวนว้าว” มานำเสนอ ตามด้วยการก่อเกิดวัฒนธรรมตั้งแคมป์ เพื่อที่จะคว้าสิทธิ์การเป็นเจ้าของ iPhone รุ่นใหม่ก่อนใคร

สมาร์ทโฟนเปลี่ยนโลก
สมาร์ทโฟนเปลี่ยนโลก

แม้ในปัจจุบัน iPhone รุ่นใหม่และการตั้งแคมป์ ไม่ได้เป็นปรากฏการณ์ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจต้องติดตามทุกฝีก้าวอีกแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า แอปเปิลมีส่วนที่ทำให้โลกนี้เปลี่ยนไปอย่างที่โลกเทคโนโลยีไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน

จากนั้นไม่นาน iPhone รุ่นใหม่ๆ ก็ได้รับการต่อยอด ติดอาวุธ และถูกพัฒนาอย่างสมบูรณ์มากขึ้น ทั้งเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่ดีขึ้นตามลำดับ (แต่ก็เป็นรองคู่แข่งอยู่มาก), การพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ ผ่านระบบปฏิบัติการ iOS, การพัฒนาคลังแอปพลิเคชันในชื่อแอปสโตร์ (App Store) ซึ่งได้สร้างงานสร้างอาชีพให้กับนักพัฒนาเป็นจำนวนมาก เรื่อยไปจนถึงการเป็นกระเป๋าสตางค์ บัตรเครดิต หรือแม้แต่เป็นวัคซีนพาสปอร์ต ใบเบิกทางของผู้ที่ต้องการเดินทางไกลในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อันที่จริง ถ้าลองถามผู้คนที่เกิดทันยุคของ iPhone รุ่นแรก และคนที่เคยทันการใช้งานสมาร์ทโฟนยุคก่อนหน้า เชื่อว่า พวกเขาเหล่านั้นอาจนึกภาพไม่ออกแล้วด้วยซ้ำว่า โลกที่ไม่มี iPhone เขาหรือเธอใช้ชีวิตอย่างไร ดังนั้นคงไม่ใช่คำกล่าวที่เกินเลยจริงๆ หากจะบอกว่า iPhone รุ่นแรกเมื่อ 15 ปีที่แล้ว มันคือนวัตกรรมพลิกโลกอย่างแท้จริง

iPhone รุ่นแรกเกิด และสตีฟ จ็อบส์
iPhone รุ่นแรกเกิด และสตีฟ จ็อบส์

...

หลังจากที่โลกได้รู้จัก iPhone มานานถึง 15 ปี หลังจากนี้เราก็คงได้เห็นการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทุกปีอย่างที่เคยเป็นมา โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงของขนาดหน้าจอ ฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ กล้องที่ดีขึ้น ชิปเซตที่ทำงานได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า และอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในส่วนการชาร์จจากพอร์ต Lightning มาเป็น USB-C โดยเฉพาะคำสั่งของสหภาพยุโรปที่จะยิ่งเร่งให้แอปเปิลหันไปหา USB-C เร็วขึ้น

นอกจากนี้ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าเราก็จะได้เห็น iPhone ในลักษณะใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม เช่น การพับหน้าจอได้ ซึ่งแม้ซัมซุงจะเป็นเจ้าตลาดนี้ เพียงแต่แอปเปิลจะทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนจอพับกลายเป็นกระแสหลัก และสอดคล้องกับการใช้งานของแฟนคลับแอปเปิลได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงการพัฒนาอุปกรณ์ Virtual reality และ Augmented reality ซึ่งมีโอกาสที่เราจะได้เห็นในเร็ววันนี้

สำหรับ iPhone ในปีที่ 30 จะเป็นอย่างไร ก็คงเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะคาดเดา แต่ก็อาจพอเชื่อได้ว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลก็น่าจะยังคงแข็งแกร่ง โดยที่ยังมีแฟนคลับจำนวนมากหนุนหลังผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลด้วยดีเสมอมา.