กลุ่ม RansomHouse ประกาศความรับผิดชอบต่อการโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัทเอเอ็มดี (AMD) บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชื่อดัง โดยเวลานี้ อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกแฮกครั้งนี้
โฆษกของเอเอ็มดี ยอมรับว่า ถูกโจมตีทางไซเบอร์จริง โดยในเวลานี้ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ทางด้าน RansomHouse อ้างว่า การโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นเป็นผลงานของพวกเขา พร้อมกับบอกด้วยว่า พวกเขาได้ข้อมูลเป็นไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 450GB
RansomHouse ระบุว่า ความป้องกันด้านความปลอดภัยของเอเอ็มดีที่เคยบอกว่าแข็งแกร่ง แต่แท้ที่จริงแล้วกลับมีความเปราะบาง ในบางเครือข่ายของเอเอ็มดี มีการใช้รหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น รหัสผ่านที่มีชื่อว่า “password”, “123456” และ “Welcome1”
ในส่วนข้อมูลที่ RansomHouse ได้ไป แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยที่แน่ชัด แต่เท่าที่ทราบก็จะเป็นไฟล์เครือข่าย และข้อมูลต่างๆ ของระบบ แล้วก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า RansomHouse จะมีการเรียกค่าไถ่เอเอ็มดีหรือไม่ ทั้งนี้ RansomHouse ให้คำแนะนำว่า ถ้าหากทีมงานของเอเอ็มดี ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันข้อมูลทั้งหมด ก็ให้ติดต่อ RansomHouse ภายหลังได้
ทางด้านเอเอ็มดี ในฐานะผู้เสียหาย ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธว่า ถ้าหากมีการเรียกค่าไถ่ขึ้นมาจริง พวกเขาจะยอมจ่ายเงินค่าไถ่หรือไม่ รวมถึงยังไม่มีการพูดถึงว่า ข้อมูลที่ RansomHouse ได้ไป มีข้อมูลใดที่กระทบลูกค้าหรือไม่ เช่นเดียวกับการเลือกที่จะไม่ตอบคำถามการตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่ายตามที่ RansomHouse เปิดเผยออกมา
สำหรับกลุ่ม RansomHouse เริ่มออกปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2021 โดยมีเหยื่อที่เป็นเป้าในการโจมตี 6 บริษัท แล้วก็เป็นเอเอ็มดี ที่กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุด
ที่มา: TechCrunch