คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร ขึ้นบัญชีดำทุกผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี (Kaspersky) จากรัสเซีย โดยให้เหตุผลว่า เป็นภัยต่อความมั่นคง
รายงานจากเอกสารของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร หรือ Federal Communication Commission (FCC) ของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการเพิ่มเติมรายชื่อบริษัทที่มีความเสี่ยงและเป็นภัยต่อความมั่นคง
ในรายชื่อดังกล่าวส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริษัทที่มาจากประเทศจีน นำโดยแซดทีอี (ZTE) และหัวเว่ย (Huawei) เป็นต้น
อย่างไรก็ดี มีบริษัทเพียงหนึ่งเดียวจากรัสเซียที่ถูกขึ้นบัญชีดำนี้ด้วย นั่นก็คือ แคสเปอร์สกี ผู้ให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยี
ทั้งนี้ บริษัทที่อยู่ในบัญชีดำจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนแม้แต่ดอลลาร์เดียวจากรัฐบาลกลาง
แน่นอนว่า แคสเปอร์สกี ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นบัญชีดังกล่าวของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร พร้อมกับให้ความคิดเห็นว่า เป็นผลสืบเนื่องทางการเมืองอันเป็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านผลิตภัณฑ์
ตามรายงานก่อนหน้านี้ แคสเปอร์สกี ไม่ได้มีประเด็นเฉพาะกับทางคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียว แต่ Bundesamt für Sicherheit in der Informationstechnik (BSI) หรือหน่วยงานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศเยอรมนี ก็เคยออกประกาศให้ผู้ใช้งานและองค์กรต่างๆ ที่ใช้งานซอฟต์แวร์แอนตีไวรัสของแคสเปอร์สกี ให้เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่นๆ
หน่วยงานความมั่นคงทางไซเบอร์ของเยอรมนี ระบุว่า บริษัทที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในรัสเซีย อาจถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลรัสเซียบังคับให้กระทำการแฮกระบบ หรืออาจถูกนำไปใช้เป็นตัวแทนในการเข้าไปโจมตีทางไซเบอร์อย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
...
ทางด้าน แคสเปอร์สกี ออกมาปฏิเสธถึงการเชื่อมโยงดังกล่าว พร้อมกับระบุว่า แคสเปอร์สกี เป็นบริษัทเอกชน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาลรัสเซีย อีกทั้งพวกเขาบอกด้วยว่า คำเตือนของบีเอสไอ มีแรงจูงใจทางการเมืองมากกว่าด้านเทคโนโลยี เหมือนกับที่เห็นแย้งไปยังคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร
สำหรับ แคสเปอร์สกี เคยถูกขึ้นบัญชีดำในสหรัฐฯ ช่วงปี 2017 เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นกังวลความใกล้ชิดของแคสเปอร์สกีกับรัฐบาลรัสเซีย
ที่มา: PC World