ศาลในรัสเซีย ปิดกั้นการเข้าถึงเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) สองผลิตภัณฑ์จากค่ายเมตา (Meta) ระบุเป็นพวกหัวรุนแรง ท่ามกลางการปราบปรามบริษัทชาติตะวันตกของรัฐบาลเครมลิน

ศาลในประเทศรัสเซีย ตัดสินใจแบนสองแอปพลิเคชันด้านโซเชียลมีเดียของโลกอย่างเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในประเทศ ก่อนหน้านี้รัสเซียได้จำกัดการเข้าถึงเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม เนื่องจากบริษัทแม่อย่างเมตาได้ผ่อนคลายนโยบายสร้างความเกลียดชังทางวาจาที่มีต่อ วลาดิเมียร์ ปูติน และทหารรัสเซีย ในบางประเทศที่เมตากำหนดไว้

ศาลของรัสเซีย ยังได้ตีตราอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กเอาไว้ด้วยว่า เป็นแอปพลิเคชันที่ถูกใช้โดยนักกิจกรรมที่ดำเนินกิจกรรมสุดโต่งทางการเมือง แต่อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของเมตาที่เรารู้จักกันดีอย่างวอตส์แอป (Whatsapp) จะไม่ถูกสั่งห้ามแต่อย่างใด เนื่องจากศาลมองว่าวอตส์แอปเป็นช่องทางการสื่อสาร ไม่ใช่แหล่งข้อมูล

ขณะเดียวกัน อัยการของรัสเซีย กล่าวในศาลด้วยว่า พวกเขาไม่มีความพยายามที่จะตั้งข้อหากับประชากรชาวรัสเซียและองค์กรต่างๆ ที่อยากจะเข้าถึงแพลตฟอร์มที่ถูกแบนทั้งสอง แม้ในเวลานี้ชาวรัสเซียนับแสนรายกำลังแสวงหาวิธีการเข้าถึงการใช้งานอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก ผ่านการใช้แอปพลิเคชัน VPN ก็ตาม เพราะถือว่าผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบกับการบริการใดๆ ของเมตา

อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องติดตามหลังจากนี้อยู่ตรงที่ว่า ทางการรัสเซียจะมีการพิจารณาอย่างไร หากมีชาวรัสเซีย หรือบริษัทจากต่างประเทศ มีการลงโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม จะถูกนับเป็นการสนับสนุนทางการเงินให้กับบริษัท หรือองค์กรที่มีแนวคิดหัวรุนแรง ตามคำนิยามของรัฐบาลเครมลินหรือไม่

...

การแปะป้ายว่า เมตา เป็นบริษัทสุดโต่งหัวรุนแรง เกิดขึ้นท่ามกลางการปราบปรามอย่างหนักของรัฐบาลเครมลินที่มีต่อนักเคลื่อนไหว, สื่อมวลชน และผู้ให้บริการด้านโซเชียลมีเดียจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัสเซีย ได้ผ่านกฎหมายกำหนดโทษสูงสุด 15 ปี ฐานเผยแพร่ข่าวปลอม โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่รัสเซียเรียกว่า เป็นปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร.

ที่มา: The Guardian