คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ เริ่มต้นกระบวนการตรวจสอบการซื้อกิจการแอคติวิชัน บลิซซาร์ด (Activision Blizzard) ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) ภายหลังดีลระดับโลกนี้ส่งผลให้ไมโครซอฟท์ ขึ้นมาเป็นบริษัทเกมใหญ่ลำดับที่สามของโลก
Federal Trade Commission หรือ คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง ออกมาเปิดเผยว่า หน่วยงานจะเริ่มเข้ามาดำเนินการตรวจสอบกรณีการเข้าซื้อแอคติวิชัน บลิซซาร์ดของไมโครซอฟท์ เพื่อดูว่า มีพฤติกรรมเข้าข่ายการผูกขาด และจะเป็นอันตรายต่อคู่แข่งด้วยการจำกัดการเข้าถึงเกมต่างๆ ซึ่งเป็นของแอคติวิชัน บลิซซาร์ด หรือไม่
ทั้งนี้ มีนักวิเคราะห์จำนวนมากประเมินว่า การเข้าซื้อกิจการแอคติวิชัน บลิซซาร์ดของไมโครซอฟท์ ไม่น่าประสบความสำเร็จได้โดยง่าย เนื่องจากก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง เคยออกมาบอกว่า จะทบทวนกฎเกณฑ์การควบรวมกิจการให้เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีหลังสุด มีการซื้อกิจการเพิ่มมากขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางก็เคยออกมาสกัดกั้นการซื้อกิจการของอินวิเดีย (Nvidia) และ Arm ซึ่งจากสถานการณ์ล่าสุดก็ดูเหมือนว่า ทางอินวิเดีย กำลังพิจารณาที่จะยกเลิกการซื้อกิจการในครั้งนี้ด้วย
จุดมุ่งหมายหลักของการทบทวนแนวทางในครั้งนี้ เพื่อปิดกั้นโอกาสในการผูกขาด ซึ่งอาจทำให้ไม่เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจ พร้อมกับลดการกระจุกตัวในอุตสาหกรรมต่างๆ
เมื่อเดือนที่แล้ว ไมโครซอฟท์ ได้ทำให้ทั่วโลกตกตะลึงด้วยการทุ่มเงินสดมหาศาลกว่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 2 ล้านล้านบาท ซื้อแอคติวิชัน บลิซซาร์ด โดยข้อตกลงนี้ คาดว่าจะลุล่วงภายในระยะเวลา 18 เดือน ส่งผลให้ไมโครซอฟท์ ขยับขึ้นมาเป็นบริษัทวิดีโอเกมลำดับที่สามของโลก ต่อจากเทนเซ็นต์ (Tencent) และโซนี่ (Sony) พร้อมกับได้แฟรนไชส์ยอดนิยมของโลกอย่าง Call of Duty, Warcraft และ StarCraft มาไว้ในกำมือ
เมื่อมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง และไมโครซอฟท์ โดยทั้งคู่ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติม.
ที่มา: Bloomberg
...