แอปแชตชื่อดังอย่างเทเลแกรม (Telegram) จู่ๆ ก็มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 70 ล้านคนแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว หลังเฟซบุ๊ก (Facebook) และวอตส์แอป (Whatsapp) ล่มใช้บริการไม่ได้

เทเลแกรม เปิดเผยว่า จากกรณีที่เฟซบุ๊ก มีปัญหาความผิดพลาดด้านเครือข่ายทำให้บริการต่างๆ ภายใต้การดูแลของเฟซบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก, เฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์, วอตส์แอป ไปจนถึงอินสตาแกรม ใช้งานไม่ได้

ทว่าปัญหาของเฟซบุ๊กกลับสร้างโอกาสที่ดีอย่างมากสำหรับเทเลแกรม อีกหนึ่งแอปพลิเคชันแชตยอดนิยม เพราะเมื่อเฟซบุ๊กใช้งานไม่ได้ ผู้ใช้งานจำนวนมากจึงอพยพมายังเทเลแกรม โดยมีผู้ลี้ภัยทางเทคโนโลยีจากเหตุการณ์ครั้งนี้มากถึง 70 ล้านคน

เทเลแกรม เป็นแอปพลิเคชันแชตที่ยืนยันมาตลอดว่า ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ซึ่งสิ่งนี้เป็นนโยบายหลักของพาเวล ดูรอฟ (Pavel Durov) ผู้ร่วมก่อตั้งเทเลแกรม

ครั้งนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เทเลแกรม มีผู้อพยพเข้ามาใช้งานเป็นจำนวนมาก เพราะในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผู้ใช้งานแอปพลิเคชันวอตส์แอป มีความกังวลในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ของเฟซบุ๊ก จึงทำให้เทเลแกรมมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 25 ล้านคนในช่วงเวลานั้น

ก่อนหน้าที่จะสร้างแพลตฟอร์มเทเลแกรมขึ้นมา พาเวล ดูรอฟ เคยสร้างบริษัทโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง VKontakte ในประเทศบ้านเกิดที่รัสเซีย

อย่างไรก็ดี VKontakte ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่มผู้ประท้วงรัฐบาลรัสเซียใช้เป็นแพลตฟอร์มหลักในการติดต่อสื่อสาร จนนำมาสู่การถูก Mail.ru บริษัทที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซียเข้ามาแทรกแซง และซื้อธุรกิจโซเชียลมีเดีย VK ไปในที่สุด จากนั้น พาเวล ดูรอฟ จะตัดสินใจทิ้งบ้านเกิดที่รัสเซีย และเขาได้นำเงินจากการขาย VKontakte เพื่อมาก่อตั้งเทเลแกรมในที่สุด

ปัจจุบันเทเลแกรมเป็นแอปพลิเคชันแชตที่ฝ่ายอนุรักษนิยมในสหรัฐฯ ใช้งานเนื่องจากพวกเขาเชื่อว่า แพลตฟอร์มใหญ่อย่างทวิตเตอร์ (Twitter) และเฟซบุ๊ก (Facebook) กำลังเซนเซอร์การแสดงความคิดเห็นของพวกเขา

เช่นเดียวกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในประเทศต่างๆ เช่น เบลารุส, ฮ่องกง, อิหร่าน และไทย ก็ได้ใช้เทเลแกรมในการติดต่อสื่อสาร

ที่มา: The Guardian

...