รีวิว Galaxy Z Fold3 - สมาร์ทโฟนแบบไฮบริด เป็นทั้งมือถือและแท็บเล็ตในเวลาเดียวกัน

ซัมซุง (Samsung) แสดงความเอาจริงเอาจังอย่างมาก ในการปลุกปั้นสมาร์ทโฟนจอพับ ดังจะเห็นได้จากการทำราคา Galaxy Z Flip3 ในชนิดที่เอื้อมถึงได้

เพียงแต่ว่าถ้าหากต้องการสัมผัสถึงความเป็นไฮเอนด์ ฟีเจอร์ที่อัดแน่นมากที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนจอพับ ก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องพูดถึง Galaxy Z Fold3

ว่ากันตามตรง Galaxy Z Fold3 เป็นสมาร์ทโฟนไฮบริด กล่าวคือ มีความเป็นสมาร์ทโฟน แต่ในบางเวลาก็ขยายกลายเป็นแท็บเล็ตขนาดมินิได้ดีทีเดียว แม้ว่าในเวลาที่กลายสภาพเป็นแท็บเล็ต อาจจะใช้งานในการโทรเข้า-รับสายได้ไม่สะดวกนักก็ตาม

การออกแบบ Galaxy Z Fold3

ซัมซุง ออกแบบ Galaxy Z Fold3 ให้มีลักษณะคล้ายกับหนังสือขนาดเล็ก เปิดจากซ้ายไปขวา ซึ่งแม้ว่าจะเห็นรอยพับของจอบริเวณตรงกลางเด่นชัดอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมก็ไม่ได้ขัดขวางการใช้งานตามปกติสักเท่าไร

จอด้านหน้าที่เปรียบเสมือนปกหนังสือ จะมีลักษณะค่อนข้างแคบ ถ้าใช้งานปกติ เช่น ฟังเพลง อ่านข่าว ดูยูทูบ อาจจะพอใช้งานได้ไม่ถึงขั้นลำบากมากนัก เว้นเสียว่าจะต้องพิมพ์ ซึ่งด้วยความแคบของจอจึงไม่ใช่เรื่องสะดวกเลยในการพิมพ์ ทำให้ทุกครั้งที่จะต้องพิมพ์ข้อความ พิมพ์อีเมลตอบจะต้องเปิดไปใช้จอใหญ่ เพื่อให้ง่ายต่อการพิมพ์

เมื่อเปิด Galaxy Z Fold3 ไปใช้ในลักษณะจอใหญ่ จะเจอกับจอขนาด 7.6 นิ้ว ซึ่งความรู้สึกไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่ได้ใช้ iPad mini มากนัก ใช้อ่านหนังสือได้ดี ดูหนังก็ทำได้ไม่เคอะเขิน หรือในยามเช้าระหว่างล้างหน้า แปรงฟัน พับจอแท็บเล็ตครึ่งหนึ่งแล้ววางไว้บนอ่างล้างหน้า ดูคลิป อ่านเมล อ่านข่าว ก็ถือว่าเป็นไลฟ์สไตล์ที่เหมาะต่อการทำงาน หรือความบันเทิงได้ดีพอสมควรเลย

พร้อมกันนี้ การออกแบบของบานพับของ Galaxy Z Fold3 ทำได้แข็งแรง สามารถวางได้หลากหลายรูปแบบ หลายมุม

การถ่ายภาพ

การถ่ายภาพของ Galaxy Z Fol3 ทำได้ดีทีเดียว การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นตามลำดับ ในส่วนของเลนส์กล้องอัลตราไวด์ แสดงประสิทธิภาพได้ดีในการถ่ายภาพสภาวะแสงจ้า

ในภาพรวมน่าจะเป็นกล้องสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของซัมซุงในเวลานี้

อินเตอร์เฟซ One UI 3.1

One UI สำหรับ Galaxy Z Fold3 ได้มีการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานพร้อมกันสองหน้าจอแบบมัลติทาสกิง โดยจะแบ่งหน้าจอออกเป็นสองฝั่ง ซึ่งเลือกเปิดได้จากการใช้งานปุ่ม recent app แล้วแตะไปที่ไอคอนของแอปพลิเคชัน จากนั้นจะเลือกให้แอปฯ แสดงผลเป็นป๊อปอัปเล็กๆ หรือแบ่งหน้าจอก็ได้

หรือในกรณีที่เราใช้หน้าจอคัฟเวอร์ เมื่อเราพลิกไปใช้หน้าจอใหญ่ แอปพลิเคชันเดิมที่เปิดอยู่บนหน้าคัฟเวอร์ก็จะยังคงแสดงผลแอปฯ นั้นๆ ต่อ ทำให้การใช้งานทำได้ไหลลื่น ต่อเนื่อง ไม่สะดุด

อย่างไรก็ดี ในเวลานี้ยังมีหลายแอปพลิเคชันที่ยังไม่ได้ปรับปรุงแอปฯ เพื่อใช้สำหรับการแสดงผลบน Galaxy Z Fold3 โดยเฉพาะ เช่น แอปฯ อย่างอินสตาแกรม ที่จะแสดงผลแค่เพียงกึ่งกลางจอเท่านั้น

แบตเตอรี่

ในภาพรวมการใช้งานของ Galaxy Z Fold3 ถือว่าใช้งานได้ครบเต็มวัน โดยตลอดทั้งวันนั้นก็คือการดูคลิปจากยูทูบ ตอบอีเมล ติดตามข่าวสารผ่านเว็บเบราว์เซอร์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ ถ่ายภาพ จนถึงการทำงานอื่นทั่วไป เฉลี่ยแล้วใช้งานได้ประมาณ 30-35 ชั่วโมง

กรณีที่อยากจะยืดอายุของแบตเตอรี่ออกไปอีกสักหน่อย แนะนำให้ปิด Always-on และ Motion smoothness ซึ่งจะทำให้การแสดงผลลื่นไหล รีเฟรชเรต 120Hz

บทสรุป

ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของซัมซุงในเวลานี้ เพียงแต่ว่า การจะได้มาซึ่งสมาร์ทโฟนอย่าง Galaxy Z Fold3 ต้องมากับราคาค่างวดที่สูงไม่น้อย

ในด้านความสามารถคงต้องบอกว่า Galaxy Z Fold3 ทำได้ดีในฐานะสมาร์ทโฟนไฮบริด เป็นได้ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ข้อดีอีกอย่างก็คือ มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือทำให้ไม่ต้องดึงหน้ากากลงมาเพื่อสแกนใบหน้า

พร้อมกันนี้ ด้วยการออกแบบที่ออกแบบมาให้พับได้ จึงทำให้ไม่มีปัญหาในการพกพามากนัก อีกทั้งภาพรวมของแบตเตอรี่ก็ทำงานได้นานทีเดียว ในกรณีที่ไม่ได้เปิดรีเฟรชเรต 120Hz รวมประสิทธิภาพการถ่ายภาพก็ทำได้ดี น่าประทับใจ

นอกจากนี้ยังมีความสามารถเสริมที่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มเติมอย่าง S Pen ซึ่งน่าสนใจแน่นอน สำหรับคนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ บนสมาร์ทโฟน แต่อันนี้เป็นแค่เพียงทางเลือก ถ้าไม่มี S Pen ก็ยังคงใช้งาน Galaxy Z Fold3 ได้สบายๆ

สเปก Galaxy Z Fold3

• หน้าจอ 7.6 นิ้ว ถ้าพับจอเป็นจอคัฟเวอร์จะเหลือ 6.2 นิ้ว
• รองรับรีเฟรชเรต 120Hz
• ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888
• ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย One UI 3.1
• รองรับ S Pen
• หน่วยความจำเครื่อง 256GB
• แรม 12GB
• กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องไวด์ 12 ล้านพิกเซล กล้องอัลตราไวด์ 12 ล้านพิกเซล และกล้องเทเลโฟโต 10 ล้านพิกเซล
• กล้องหน้าเซลฟี่ 4 ล้านพิกเซล
• กันน้ำตามค่ามาตรฐาน IPX8
• แบตเตอรี่ 4,400 mAh
• รองรับชาร์จไว 25 วัตต์ และรองรับชาร์จไร้สาย 11 วัตต์
• พอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB Type-C 3.2
• ระบบเสียงจูนโดย AKG (บริษัทลูกของซัมซุง)
• สีที่มีให้เลือก ได้แก่ Phantom Black, Phantom Silver, Phantom Green