เมื่อพูดถึง 5G เชื่อว่าหลายคนวาดฝันว่า เทคโนโลยี 5G จะเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิต สร้างระบบเมืองอัจฉริยะ เข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ที่สะดวก ไม่ต้องไปโรงพยาบาลในตัวเมืองก็สามารถได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ มีอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นกว่า 4G ตลอดจนการขยายโอกาสทางการศึกษา และอีกมากมาย

ทว่ามโนภาพที่วาดฝันไว้ในใจกับข้อเท็จจริงอาจสวนทางกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในมุมมองของอธิป กีรติพิชญ์ ผู้เชี่ยวชาญและวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมโทรคมนาคม บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ dtac มองว่า เรื่องของ 5G ต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 2 ปี เนื่องจากองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับ 5G ยังไม่เกิด ขณะที่โซลูชันที่เกี่ยวข้องกับ 5G ยังต้องผ่านการพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้อง และยังไม่นับรวมถึงการลงทุนของภาครัฐที่จะต้องมีการบูรณาการ

5G ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ต

อธิป กีรติพิชญ์
อธิป กีรติพิชญ์

สิ่งแรกที่อธิป เน้นย้ำก่อนก็คือ 5G ไม่ใช่แค่เรื่องของอินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่า 4G เพียงอย่างเดียว โดยอธิป แบ่ง 5G ออกเป็น 3 เรื่องสำคัญ

1. Enhance Mobile Broadband เป็นเรื่องของอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น ซึ่ง 5G จะรับส่งข้อมูลได้ไวกว่า 4G ประมาณ 100 เท่า ดาวน์โหลดหนังที่มีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 20 วินาทีเท่านั้น

2. Massive Machine Type Communication คือการนำ 5G มาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ให้เครื่องจักรในโรงงานคุยกันได้ เพื่อง่ายในการจัดการภายในโรงงาน

3. Ultra-Reliable and Low Latency Communication เป็นส่วนที่นำ 5G มาปฏิบัติงานจริง ยกตัวอย่างในประเทศจีน ที่คนงานขุดเหมืองเหล็ก สามารถขุดเหมืองเหล็กจากห้องจำลองสถานการณ์ (Simulation) โดยที่ตัวไม่ต้องอยู่ที่เหมืองเหล็กด้วยซ้ำ รวมถึงการผ่าตัดทางไกลแบบเรียลไทม์

อธิป เล่าต่อไปว่า เทคโนโลยี 5G ถูกขับเคลื่อนโดย 4 ประเทศใหญ่ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีแอปพลิเคชัน และบริการประเภท Over-the-top media services (OTT) เป็นจำนวนมาก ทั้งเฟซบุ๊ก, เน็ตฟลิกซ์, ยูทูบ, แอมะซอน เป็นต้น

ทางด้านประเทศจีน มีหัวเว่ยเป็นหัวเรือใหญ่ด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งทุกโอเปอเรเตอร์ในไทยใช้บริการของหัวเว่ยทั้งหมด ขณะที่เกาหลีใต้ มีแอปพลิเคชันที่ถูกใจคนเอเชียเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ไลน์ และกาเกา ทอล์ก และมีผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์อย่างซัมซุง

อย่างไรก็ดี ประเทศที่น่าสนใจกลับเป็นญี่ปุ่น กล่าวคือ ญี่ปุ่นไม่มีซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เกี่ยวกับ 5G ที่เป็นของตัวเอง แต่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ประกาศชัดเจนว่า จะนำ 5G มาใช้งานจริงเป็นที่แรก ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 เพียงแต่สิ่งที่คาดกลับไม่เป็นดังหวัง เมื่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกต้องเลื่อนออกไปจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

“ผมมีโอกาสได้ไปดูการใช้งาน 5G ของประเทศญี่ปุ่น เขานำเสนอสิ่งที่เรียกว่า Zero Accident ทำให้ 4 แยกของญี่ปุ่นมีอุบัติเหตุเป็นศูนย์ โดยจะมีการแจ้งเตือน มีการเก็บข้อมูล มีกล้องบันทึกภาพเต็มไปหมด”

...

5G พร้อมตอนไหน

ในมุมมองของอธิป เชื่อว่า กว่าที่ 5G จะอยู่ในสถานะที่พร้อมใช้งานคงอีกนาน เบื้องต้นอาจต้องรอไม่ต่ำกว่า 2 ปี เนื่องจากในขณะนี้ดีไวซ์ที่รองรับเทคโนโลยี 5G ยังมีน้อยมาก และส่วนน้อยที่ว่านั้นก็มีราคาแพงมากด้วย เช่นเดียวกับแอปพลิเคชันที่รองรับ 5G ยังมีจำนวนจำกัด

“ผมคิดว่าโทรศัพท์มือถือ 5G ต้องลดลงมาต่ำกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6,000 บาท ถ้าทำราคาต่ำกว่านั้นได้ คนทั่วไปจะเข้าถึงง่ายขึ้น 5G จะแพร่หลาย ซึ่งตอนนี้ยังไกลจากจุดนั้นอยู่มาก”

พร้อมกันนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้แผนที่วางไว้เกี่ยวกับ 5G ต้องเลื่อนออกไปด้วย โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ที่เคยวางโรดแม็ปลุย 5G ในปี 2021 ซึ่งตอนนี้เลื่อนไปแล้ว

5G อาจยังไม่เกิดในเร็ววันนี้
5G อาจยังไม่เกิดในเร็ววันนี้

ขณะที่ประเทศไทย ในส่วนของความร่วมมือผลักดัน 5G ยังไม่มีความพร้อมมากนัก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ที่มีการจัดตั้ง National 5G Committee หรือคณะกรรมการ 5G แห่งชาติ โดยเป็นการรวมตัวของคนในหลายอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมกันพูดคุย พร้อมแบ่งกลุ่มย่อยเป็นคณะทำงานที่เรียกว่า Business Case Working Group มีจุดประสงค์ 3 เรื่อง ได้แก่ Smart City, Smart Health และ Smart Education

“ทั้งสามเรื่องจะเป็นการรวมตัวทั้งในส่วนผู้ให้บริการ ผู้วางกฎระเบียบ ตัวแทนของเมือง โดยตั้งโจทย์ร่วมกันว่า จะพัฒนาประเทศด้วย 5G ต้องทำอย่างไร ทดสอบอย่างไร”

อธิป เน้นย้ำในส่วนของ Smart Health โดยให้เหตุผลว่า เพราะแนวคิดของ 5G จะมีเรื่องของการแพทย์ทางไกล โดยที่แพทย์กับคนไข้อยู่กันคนละที่ การผ่าตัดหรือการวินิจฉัยโรค จะต้องทำให้แพทย์รู้สึกมีความกล้าตัดสินใจ และได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย และไม่ถูกดำเนินคดี

“เอาเข้าจริงแล้ว แม้แต่การวินิจฉัยของแพทย์กับคนไข้ที่เจอกันแบบซึ่งหน้ายังมีข้อผิดพลาดได้ ดังนั้นถ้าจะให้ 5G และ Smart Health เกิด กฎหมายต้องซัพพอร์ตด้วย ดังนั้นคณะทำงานก็ต้องมีทีมกฎหมายร่วมทำงานด้วย”

dtac 5G in Thailand

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยให้ความสำคัญไปกับการลงทุนใน Eastern Economic Corridor (EEC) ผ่านการสร้าง Traditional Logistics ได้แก่ รถ ราง เรือ อากาศ อย่างไรก็ดี ในมุมมองของ dtac รู้สึกว่า โครงสร้างพื้นฐานยังไปไม่สุด

dtac เชื่อว่า การคอนเวอร์เจนต์สำคัญที่สุด โดยในประเทศไทยจะมีแค่เน็ตเวิร์ก 5G อย่างเดียวไม่ได้

อธิป ยกตัวอย่างว่า ถ้าประเทศไทยต้องการพัฒนาระบบจราจรอัจฉริยะแบบญี่ปุ่น จะต้องมีเซนเซอร์ตรวจจับความเร็ว กล้องที่สามารถตรวจจับสีรถ ทะเบียน ใครเป็นเจ้าของ ละติจูด ลองจิจูด แล้วเก็บข้อมูลแบบ Big Data ตรงนี้จะมีส่วนที่เกิดการสร้างงานในอนาคตอีกด้วย โดยเฉพาะคนที่เชี่ยวชาญเรื่องข้อมูล ทั้งในส่วน Data Mining, Data Analytics และ Data Warehouse

5G พลิกเกมให้ dtac?

ประเด็นนี้ อธิป มองว่า 5G ยังอยู่ในจุดเพิ่งเริ่มต้น ยังเร็วเกินไปที่จะเชื่อว่าเป็นโอกาสในการพลิกเกม แต่สิ่งที่ dtac มองเห็น 5G จะอยู่ในรูปแบบของ Business to Business (B2B)

...

“5G ต้องมาพร้อมโซลูชัน แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำตลาดด้วยการขายซิม 5G เพื่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น เพราะมูลค่าคลื่นมันแพงเหลือเกิน ตั้งหลายหมื่นล้าน มันไม่คุ้ม”

ขณะที่โซลูชันที่จะนำมาก็ต้องมาดูกันว่ามันคืออะไร แก้ปัญหาให้กับคนซื้อได้หรือไม่ ถ้าแก้ปัญหาได้ก็จบ

5G ต้องมาพร้อมโซลูชัน
5G ต้องมาพร้อมโซลูชัน

อธิป เปิดเผยว่า ในโลกของธุรกิจมีการพูดถึงเรื่องของ Smart Agriculture นำเสนอโซลูชันตรวจจับการเคลื่อนไหวของปลาแซลมอน เพื่อดูว่าตัวไหนมีโรค ถ้ามีโรคก็ช้อนออกจากฟาร์ม ไม่ให้เกิดการแพร่โรคติดต่อ

อย่างไรก็ดี โซลูชันแบบนี้ dtac ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องบูรณาการหลายภาคส่วน เช่น ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อนำความรู้มาแปลงเป็น Big Data ก่อนที่จะย่อยออกมาเป็นโซลูชัน

ผู้เขียน: Wiwat Rungsaensuksakul

กราฟิก: Supassara Traiyansuwan