แอปเปิล เปิดตัว iPad Pro 2020 ใหม่ 2 รุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว ใช้ชิพ A12Z Bionic โวแรงว่าพีซีที่ใช้วินโดวส์ กล้องอัลตร้าไวด์ ไมโครโฟนระดับสตูดิโอ และ LiDAR Scanner สแกนวัตถุรู้มิติในแนวลึกได้

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 แอปเปิล (Apple) เปิดตัว iPad Pro 2020 รุ่นใหม่ที่ได้พลังประมวลผลจากชิพ A12Z Bionic ที่ทำให้เร็วแรงกว่าแล็ปท็อป หรือ พีซี ที่ใช้ Windows โดยส่วนใหญ่ iPad Pro สร้างมาสำหรับงานที่ต้องประมวลผลหนักๆ อย่างการตัดต่อวิดีโอ 4K หรือการออกแบบโมเดล 3D และครั้งนี้ก็มาพร้อมชิพ A12Z Bionic ใหม่ที่ยกระดับประสิทธิภาพให้เหนือชั้นไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังมี GPU แบบ 8-core ใน A12Z Bionic รวมถึงสถาปัตยกรรมการควบคุมความร้อนที่ดียิ่งขึ้น และตัวควบคุมประสิทธิภาพที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี iPad Pro จึงมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาใน iPad

เมื่อรวมเข้ากับ CPU แบบ 8-core และ Neural Engine อันทรงพลังที่เป็นหัวใจสำคัญสำหรับแอปในเจเนอเรชั่นถัดไปแล้ว เชื่อว่าไม่มีชิพไหนจะมีประสิทธิภาพแบบสุดขั้วอย่างที่มีอยู่ใน iPad Pro 2020 ใหม่อีกแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เร็วยิ่งขึ้น และรองรับเครือข่าย LTE ระดับ Gigabit ที่เร็วขึ้น 60% ทั้งยังรองรับย่านความถี่ LTE มากกว่าแท็บเล็ตอื่นๆ ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถทำงานและสร้างสรรค์ได้ตลอดวัน

...

ในส่วนของจอภาพ Liquid Retina แบบขอบจรดขอบทั้งในรุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว เป็นจอภาพที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกบนอุปกรณ์พกพา เพราะรองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 ช่วยให้ลูกค้าดูรูปภาพ วิดีโอ ใช้งานแอพ และเล่นเกมด้วยรายละเอียดที่ครบถ้วนสมจริง และยังมีเทคโนโลยี ProMotion ที่จะปรับอัตรารีเฟรชของจอภาพสูงสุด 120 Hz โดยอัตโนมัติเพื่อให้การเลื่อนหน้าจอมีความลื่นไหลสุดๆ และตอบสนองรวดเร็วทันใจ นอกจากนี้ยังมีการแสดงผลแบบ True Tone ความสว่างในระดับสูง และการเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อน

ระบบกล้องระดับโปรบน iPad Pro 2020 มาพร้อมกล้องไวด์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพและวิดีโอระดับ 4K ที่สวยงามน่าทึ่ง และวันนี้ยังมีกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ที่ซูมออกมาได้ 2 เท่าเพื่อเก็บภาพในมุมมองที่กว้างขึ้น และกล้องตัวที่สองที่เพิ่มเข้ามา จะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพและวิดีโอขึ้นอีกเท่าตัว โดยการเปิดมุมมองที่แตกต่าง และการใช้งานแบบหลาย

ฟังก์ชันใหม่ LiDAR Scanner ของใหม่ที่ไม่เคยทำได้มาก่อนบนอุปกรณ์พกพา ด้วยความสามารถวัดระยะไปยังวัตถุรอบๆ ที่อยู่ไกลสูงสุด 5 เมตร โดยสามารถใช้งานได้ทั้งในและนอกอาคาร รวมถึงทำงานได้ละเอียดในระดับโฟตอนที่ความเร็วระดับนาโนวินาที พร้อมกันนี้ยังมีเฟรมเวิร์กใหม่ด้านมิติความลึกใน iPadOS ที่จะรวมความลึกหลายๆ จุดที่วัดโดย LiDAR Scanner เข้ากับข้อมูลที่ได้จากทั้งกล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เสริมด้วยอัลกอริทึมด้านการมองเห็นของคอมพิวเตอร์ใน A12Z Bionic เพื่อทำความเข้าใจกับสภาพแวดล้อมให้ละเอียดยิ่งขึ้น และเมื่อองค์ประกอบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คืออีกขั้นของประสบการณ์ AR บน iPad Pro 2020 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมของใหม่ คือ Magic Keyboard เข้ามาเสริมทัพ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และ Smart Keyboard Folio ที่ปรับปรุงใหม่ โดย Magic Keyboard จะยึดติดกับ iPad Pro ด้วยแม่เหล็ก และมาพร้อมการออกแบบที่จะยกหน้าจอ Multi-Touch อันสวยงามให้ลอยขึ้นมา เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายไม่ว่าจะวางบนตักหรือบนโต๊ะ ส่วนบานพับแบบปรับเอนได้ ช่วยให้สามารถปรับมุมในการมองได้สูงสุดถึง 130 องศา พกพาสะดวกและปกป้องตัวเครื่องของ Magic Keyboard นั้นยังมีคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานพร้อมปุ่มแบบแบ็คไลท์และกลไกแบบกรรไกรที่มีการขยับขึ้นลงของปุ่มที่ระยะ 1 มม. เพื่อมอบประสบการณ์การพิมพ์ที่ดียิ่งกว่าครั้งไหนๆ บน iPad

...

Magic Keyboard มาพร้อมคุณสมบัติในการชาร์จแบบส่งผ่าน ทำให้ iPad Pro มีพอร์ต USB-C เหลือสำหรับอุปกรณ์เสริมอย่างไดรฟ์และจอภาพภายนอก ในขณะที่แทร็คแพดแบบคลิกตรงไหนก็ได้บน Magic Keyboard เข้ามาเติมเต็มดีไซน์ที่เน้นการสัมผัสเป็นหลักของ iPad เพื่อให้การไปยังส่วนต่างๆ และการปรับแต่งนั้นทำได้ง่ายและแม่นยำ ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPad Pro ทั้งในด้านการทำงานและความอเนกประสงค์ให้เหนือชั้นไปอีกขั้น ทั้งนี้ Magic Keyboard จะวางจำหน่ายในเดือนพ.ค. 63 นี้ 

แอปเปิลยังเพิ่มการรองรับแทร็คแพดบน Magic Keyboard ให้กับ iPad ด้วย iPadOS 13.4 เพื่อผู้ใช้งานมีวิธีใหม่ในการโต้ตอบกับ iPad อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน แต่แทนที่จะลอกประสบการณ์การใช้งานจาก macOS ตรงๆ ทีมพัฒนาของแอปเปิล เลือกที่จะออกแบบการรองรับแทร็คแพดขึ้นใหม่หมดในทุกรายละเอียด สำหรับ iPad โดยเมื่อผู้ใช้เคลื่อนนิ้วไปบนแทร็คแพด เคอร์เซอร์ ก็จะปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างสวยงาม เพื่อเน้นองค์ประกอบในอินเทอร์เฟซ การใช้งานให้เด่นชัด และยังสามารถใช้คำสั่งนิ้วแบบ Multi-Touch บนแทร็คแพดเพื่อไปยังส่วนต่างๆ ของทั้งระบบได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็วโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องยกมือขึ้นมาเลย

...

ฟิล ชิลเลอร์ รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าวว่า iPad Pro ใหม่นี้มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในโลกของคอมพิวเตอร์แบบพกพา ครั้งนี้เป็นการนำจอภาพที่ล้ำหน้าที่สุดบนอุปกรณ์พกพามารวมเข้ากับประสิทธิภาพอันทรงพลัง กล้องระดับโปร ระบบเสียงระดับโปร รวมถึง LiDAR Scanner สุดล้ำและ Magic Keyboard ใหม่พร้อมแทร็คแพด เรียกได้ว่าเป็นความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดสำหรับ iPad ในระดับที่ไม่มีอุปกรณ์ไหนในโลกเหมือน และเราเชื่อว่าลูกค้าจะต้องชื่นชอบ iPad Pro 2020 ใหม่นี้แน่นอน 

ด้าน เครก เฟดเดอริกี รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าวว่า เราออกแบบให้ iPad มีความสามารถและอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้นโดยเพิ่มการรองรับแทร็คแพดใน iPadOS เราพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อหาวิธีที่ดีที่สุด ในการผนวกรวมการใช้งานแทร็คแพด เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เน้นการสัมผัสเป็นหลัก โดยที่ยังคงทุกอย่างที่ลูกค้าคุ้นเคย และชื่นชอบเกี่ยวกับ iPad ไว้เช่นเดิม เรารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ที่จะได้นำวิธีใหม่ในการโต้ตอบกับ iPad มาสู่ผู้ใช้งาน iPadOS หลายล้านคนในวันนี้

...

สำหรับ iPad Pro 2020 ใหม่นี้จะมีให้เลือก 2 แบบ รุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว มีให้เลือกระหว่างสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ เริ่มต้นที่รุ่นความจุ 128GB เพื่อให้ลูกค้าระดับโปรมีพื้นที่จัดเก็บแอปพลิเชั่น และคอนเทนต์ต่างๆ มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรุ่นความจุ 256GB, 512GB และ 1TB ให้เลือกด้วย โดย Pad Pro รุ่น 11 นิ้ว มีราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 32,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ส่วน iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว มีราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 39,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular.