ยังกะสร้างฝายกั้นเงิน ล่าสุด แกร็บ Grab แห่งสิงคโปร์ ได้รับการลงทุนอัดฉีดเงินอีกแล้วววจาก กลุ่มเซ็นทรัล เป็นจำนวนกว่า 6,000 ล้านบาท โดยเป็นการเข้าถือหุ้นแบบไม่มีอำนาจควบคุม แต่ก็มีสัดส่วนมากพอที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อการใช้จุดแข็งของทั้ง 2 ธุรกิจ ส่งเสริมซึ่งกันและกัน...

โดย กลุ่มเซ็นทรัล และ แกร็บ ได้ตกลงผสานความร่วมมือทั้งในด้านการให้บริการเดินทาง การส่งอาหารและสินค้าในซุปเปอร์มาร์เกต ระบบโลจิสติกส์ และบริการอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า พันธมิตร คู่ค้า และผู้เช่าของทั้งกลุ่มเซ็นทรัล...

วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ แห่ง กลุ่มสามารถ เปิดแถลงข่าวประจำปี 2019 ว่า จะเป็นปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจองค์กร สร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืน หรือ “SAMART...Strong & Sustain” ตั้งเป้าเติบโตทุกสายธุรกิจ โดยเฉพาะ ICT ที่จะทำ New High ทั้งในส่วนของรายได้และมูลค่างานในมือ ด้านธุรกิจพลังงานเตรียมปรับโครงสร้างการลงทุน (New Structure) เพื่อขยายธุรกิจและนำหุ้นเข้ากระจายในตลาดหลักทรัพย์ฯ มั่นใจเป้ารายได้ทั้งกลุ่มปีนี้ จอดที่ 2 หมื่นล้านบาท...

แน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อ เซ็นทรัล กับ เจดี อี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่แห่งประเทศจีน จับมือกันจดทะเบียนตั้งบริษัท เซ็นทรัล เจดี มันนี่ เพื่อให้บริการแอปพลิเคชัน ดอลฟิน วอลเล็ต (Dolfin Wallet) กระเป๋าเงินดิจิทัล ที่มีแบงก์กรุงเทพและกสิกรไทยมาร่วมจับมือด้วย...

โดย ดอลฟิน วอลเล็ต จะเชื่อมโยงบัญชีกับ 2 ธนาคารดังกล่าวในเบื้องต้น และจุดชำระเงิน เพื่อรองรับการซื้อสินค้าและทำธุรกรรมต่างๆได้อย่างครอบคลุม ทั้งที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วประเทศ ทั้งในเครือเซ็นทรัล และเครือข่ายร้านค้าพันธมิตร...

ดอลฟิน ซึ่งแปลว่า ปลาโลมา เป็นสื่อสัญลักษณ์แห่งความน่ารัก สอนง่าย ชวนให้ฟิน เพราะเป็นแอปพลิเคชัน อี-วอลเล็ต หรือกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์รายแรก ที่รองรับการชำระและโอนเงินแบบครบครันทุกช่องทาง นับตั้งแต่การเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต บัตรเครดิต การเติมเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ CenPay ไปจนถึงการรองรับพร้อมเพย์ มีกำหนดได้ใช้กันในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า...

...